นวัตกรรมพืชสวนแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ : ผู้นำในด้านการรับมือความท้าทายของกลุ่มอุตสาหกรรม

บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ร่วมกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
แถลงข่าวการจัดงาน ฮอร์ติ เอเชีย 2018 ณ สถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย โดยมี มร. เกส ปีเตอร์ ราเดอ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวเปิดงาน
และมีการอภิปรายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมพืชสวนในประเทศเนเธอร์แลนด์เรื่องโอกาสในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและจะกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมพืชสวนของโลกได้อย่างไร

ภายในงาน ยังได้รับเกียรติจาก กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย และผู้สนับสนุนหลักในการจัดงาน สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ร่วมพูดคุยถึงบทบาทของภาครัฐและเอกชนที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านของอุตสาหกรรมพืชสวนในประเทศไทยแข็งแกร่งขึ้น ผ่านงาน ฮอร์ติ เอเชีย 2018 นำเสนอปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและนวัตกรรมด้านการปลูกพืชผัก ไม้ผล และดอกไม้แห่งภูมิภาคเอเชีย ระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2561 ณ ฮอลล์ 98 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ร่วมกับ งานอะกริเทคนิก้า เอเชีย 2018 งานแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยีด้านเครื่องจักรกลการเกษตร

คุณนิชาภา ยศวีร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ของสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลรับผิดชอบด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย และยังเป็นผู้สนับสนุนงานแสดงสินค้า ฮอร์ติ เอเชีย นับตั้งแต่ครั้งแรก ได้กล่าวว่า ในปีนี้ “เรามีความยินดีที่แคมเปญของเรา “Exhibiz in Market” ได้มีส่วนร่วมในการดึงดูดพาวิลเลียนใหญ่จาก 7 ประเทศ ในงานฮอร์ติ เอเชีย และงานอะกริเทคนิก้า เอเชีย 2018 การให้ความสนับสนุนของ สสปน. เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับนโยบายของรัฐบาลไทย ซึ่งก็คือ การใช้งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0

เนื่องจากงานแสดงสินค้าทั้งสองงานนี้มีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาและยกระดับภาคส่วนเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ซึ่งเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมอนาคต (S-curve) ในนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยองค์กรยังมีความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยเป็นเป้าหมายในการทำธุรกิจด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารให้สำเร็จที่เหมาะสมที่สุดในภูมิภาค เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการส่งออกผลผลิตจากทั้งสองอุตสาหกรรมนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ที่ตั้งของประเทศไทยนับว่าเป็นใจกลางของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้สามารถยกเป็นศูนย์กลางเพื่อพร้อมรับเศรษฐกิจที่กำลังเกิดใหม่ของภูมิภาคได้ และเพื่อเสริมสร้างศักยภาพดังกล่าวนี้

สสปน. ได้สนับสนุนแนวทางเพื่อให้มั่นใจว่าอุตสาหกรรมจัดแสดงสินค้าของประเทศไทยนั้นพร้อมเสมอที่จะกระตุ้นความสำเร็จในการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ รองศาสตราจารย์ ดร. โสระยา ร่วมรังษี จากคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวในเสวนาหัวข้อ

“อุปสรรคและการเป็นผู้นำด้านพืชสวนในอนาคต” ว่า “การพัฒนาด้านพืชสวนในประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นมีความเข้มแข็งมากจากเทคโนโลยีล้ำสมัยและนวัตกรรมอันชาญฉลาด
อาจพูดได้ว่าการผลิตพืชสวนในประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นสามารถเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่นได้
ประเทศไทยควรได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพทั้งด้านการผลิตและการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตพืชดอก

นอกจากนี้ การปรับปรุงพันธุ์พืชยังเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งควรสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช
เพื่อที่จะได้ช่วยส่งเสริมนักปรับปรุงพันธุ์พืชและดอกไม้ไทยอย่างเต็มที่
และยังเป็นการควบคุมการปรับปรุงพันธุ์ให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย”

นายเมนโน่ เคปเพล ผู้อำนวยการ บริษัท Agri Solutions Asia เผยว่า “อุตสาหกรรมพืชสวนนั้นไปไกลเร็วกว่าที่คาดไว้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย นอกเหนือจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ
เราก็กำลังพยายามพัฒนาธุรกิจของเราเพื่อให้เราอยู่แถวหน้าในการรับนวัตกรรมใหม่ๆ ของอุตสาหกรรม
เรารู้ดีว่าอาจเกิดปัญหาอะไรได้บ้างในอุตสาหกรรมนี้ ทำให้เราสามารถนำเสนอทางแก้ปัญหาที่ทันต่อเหตุการณ์เฉพาะแบบที่มักจะเกิดขึ้นให้กับลูกค้าของเราได้”

ดร. วิลาวัณย์ ใคร่ครวญ นักวิชาการเกษตรอาวุโส จากกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า
“ประเทศไทย เป็นหนึ่งในผู้นำของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านการพัฒนาการปรับปรุงเมล็ดพันธุ์และการผลิตพืชผล ผลผลิตใหม่ๆ หลายชนิดได้ถูกผลิตออกมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
กรมของเราได้มุ่งเน้นวิจัยในด้านการปลูกพืชและเครื่องจักรเกษตรกรรม เช่นเดียวกับการควบคุมการผลิตเมล็ดพันธุ์ เราหวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในอุตสาหกรรม เนื่องจากมีเทคโนโลยีทันสมัยใหม่ๆ ที่สามารถช่วยการเพาะปลูกและการดูแลรักษาได้”, “เราต้องการแสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ของเรา ซึ่งประกอบไปด้วยทั้งพืชผลเขตร้อนและเฉพาะถิ่นที่สามารถเพาะปลูกได้ในประเทศไทยและทวีปเอเชีย” กล่าวโดย นายไมเคิล

เดวาร์รีแวร์ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท East-West Seed ซึ่งบริษัทนี้ได้นำเสนอนวัตกรรมปรับปรุงพันธุ์พืชผักใหม่ล่าสุด
“ส้มตำ F1” ซึ่งเป็นมะละกอที่ไม่ได้เกิดการตัดแต่งพันธุกรรม ในโชว์พิเศษ “ส้มตำ”
โดยมีท่านเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยได้เข้ามาร่วมตำส้มตำด้วย
สำหรับผู้จัดงาน ฮอร์ติ เอเชีย นายมานูเอล มาดานิ ผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า
“สิ่งที่ทำให้เรามารวมกันได้นั้นคือ ความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความปลอดภัยของอาหาร การผลิตพืชชีวภาพ

กระบวนการหลังการเก็บเกี่ยว และการเก็บรักษาด้วยความเย็น งาน ฮอร์ติ เอเชีย 2018
จะกลายเป็นงานที่รวมวิสัยทัศน์ของผู้เชี่ยวชาญของอุตสาหกรรม รวมถึงบริษัทชั้นนำอีกมากกว่า 300 บริษัท จาก 25 ประเทศทั่วโลก เช่น เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี ตุรกี เกาหลีใต้ มาเลเซีย และไทย
ในงานนี้จะครอบคลุมความต้องการด้านพืชสวนทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่การเตรียมวัสดุปลูก การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การปรับปรุงพันธุ์ การดูแลใส่ปุ๋ย การปรับปรุงคุณภาพดิน การระบายอากาศ และเทคโนโลยีโรงเรือน” ในปีนี้ ฮอร์ติ เอเชีย 2018 จะใช้พื้นที่แสดงสินค้าร่วมกับ งานอะกริเทคนิก้า เอเชีย เอเชีย 2018 ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 2 โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 10,000 คน ตลอด 3 วัน ของการจัดงาน งานแสดงสินค้านี้มีพาวิลเลียนนานาชาติจาก 7 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ จีน เกาหลีใต้ เยอรมนี ไต้หวัน ญี่ปุ่น และฟินแลนด์ และจะมีผู้ที่มีศักยภาพเป็นผู้ซื้ออีกมากกว่า 500 ราย ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานนี้ ทั้ง 2 งาน จะจัดระหว่าง วันที่ 22-24 สิงหาคม 2561 ณ ฮอลล์แสดงสินค้า 98
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ