ตำรับยาสมุนไพรชะลอวัยไกลโรค

ในตามตำราแพทย์แผนไทย มักจะบอกไว้เสมอว่า วัยชรา หรือปัจฉิมวัย จะเริ่มที่อายุ 32 ปี เป็นต้นไป โดยในวัยกลุ่มนี้ มักจะเริ่มมีปัญหาสุขภาพ โรคของความเสื่อมต่างๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรเริ่มต้นดูแลสุขภาพเพื่อชะลอความเสื่อมต่างๆ ไว้ นอกจากนี้ ปัจฉิมวัย ยังเป็นช่วงวัยที่มีวาตะ (ธาตุลม) เป็นเจ้าเรือน คือจะมีคุณสมบัติแห้งและเย็นของวาตะจะแสดงผลอย่างชัดเจนในปัจฉิมวัยตอนปลาย คือ น้ำหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ จะแห้ง ผิวจะแห้ง ธาตุไฟจะอ่อนแรง การย่อยอาหารจะไม่ดี ทำให้มีอาการท้องอืดท้องผูกง่าย ทั้งยังมีอาการนอนไม่หลับ ความคิดสับสน เป็นต้น

น้ำผึ้ง

ดังนั้น ยาบำรุงสำหรับผู้สูงอายุส่วนใหญ่ควรจะเป็นยาบำรุงธาตุ ซึ่งมักจะประกอบด้วยสมุนไพรที่รสเผ็ด อุ่น ฉุน หอม เพื่อช่วยย่อยอาหาร เช่น พริกไทย สมุนไพรที่มีรสขมเพื่อไปกล่อมตับทำให้ตับไม่ร้อนเกินไป สามารถทำงานในการสร้างไฟธาตุ (น้ำย่อย) ได้ปกติ เช่น ขมิ้น สมุนไพรเพื่อช่วยในการขับถ่าย เช่น สมอ สมุนไพรที่มีคุณสมบัติชุ่มชื้น เช่น มะตูม รากสามสิบ ยอ และมีสมุนไพรรสมันเพื่อไปชดเชยความแห้ง เช่น แห้วหมู ถ้าหากต้องการบำรุงสมรรถภาพทางเพศก็ควรเป็นยาบำรุงที่มีสมุนไพร อย่างกระชายรวมด้วย

ตัวอย่าง ตำรับยาอายุวัฒนะ ชะลอวัยไกลโรค

ตำรับที่ 1 : มะตูมแห้ง 1 ส่วน กล้วยน้ำว้าดิบตากแห้ง 1 ส่วน พริกไทย 2 ส่วน ผสมกันบดเป็นผง เวลาปั้นเม็ดใช้มะตูมแห้งต้มเคี่ยว เอาน้ำมาผสมกับยาผงในครกตำให้เข้ากันดีแล้วปั้นเป็นเม็ด เม็ดละ 500 มิลลิกรัม หรือจะใช้น้ำผึ้งผสมผงยาก็ได้ รับประทานครั้งละ 3 เม็ด ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เช้า-เย็น บำรุงกำลัง ไม่อ่อนเพลีย ไม่เหนื่อยง่วง บำรุงประสาท กินประจำ จะไม่แก่เร็ว

ลูกยอ

ตำรับที่ 2 : รากสามสิบ 1 ชั่ง รากโคกกระสุน 1 ตำลึง บอระเพ็ด 15 ตำลึง ตำผงเอาน้ำผึ้ง 1 ตำลึง คลุกตั้งไฟให้สุก อย่าให้ไหม้ กินครั้งละหัวแม่มือทุกวัน กินแล้วมีกำลังดังหนุมาน งามดังพรามนะละเทพ มีปัญญาดังพระมโหสถ เสียงเพราะดังนกการเวก

ตำรับที่ 3 : หึ่งอากาศ (น้ำผึ้ง) พาดยอดไม้ (บอระเพ็ด) ไหง้ธรณี (แห้วหมู) หนีสงสาร (ผักเสี้ยนผี) ไปนิพพานไม่กลับ (ขมิ้น) อย่างละเท่าๆ กัน ทำเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทราไทย กินครั้งละ 1-2 เม็ด เช้า เย็น

ตำรับที่ 4 : บอระเพ็ด 18 บาท กระเทียม 9 บาท เหง้ากระชาย 6 บาท พริกไทยล่อน 3 บาท ดีปลี 3 บาท ขิงแห้งหนัก 3 บาท แห้วหมู 3 บาท ยาดำ 3 บาท ย่านาง 3 บาท ลูกยอแห้ง 39 บาท นำทั้งหมดบดผงผสมน้ำผึ้ง นำมาปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทราไทย กินครั้งละ 2 เม็ด เช้า เย็น กินแล้วไม่รู้จักเหนื่อย

มะระขี้นก

ตำรับที่ 5 : บัวบก 1 กระเทียม 1 ลูกยอ 1 พริกไทย 1 ตำเป็นผง ผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอน 2 เม็ด เช้า-เย็น เอามะตูมนิ่มตากแดดแห้ง 20 บาท กระชายตากแห้ง แห้วหมูตากแห้ง พริกไทยล่อน สิ่งละ 10 บาท รวมตำเป็นผงละลายน้ำผึ้ง ปั้นลูกกลอน กินแล้วไม่แก่เฒ่า ไม่มีโรค

ตำรับที่ 6 : ให้เอาลูกยอเท่ากับอายุตัวเอง พริกไทยหนักสองบาท ดีปลีหนักสองบาท แล้วเอาน้ำตาลทรายหนักหนึ่งกิโลกรัมเทลงไปในโหลเจ็ดวัน ให้กินวันละหนึ่งลูกจนกว่าจะหมด

ตำรับที่ 7 : บอระเพ็ด 7 ถ้วย กานพลูเท่าอายุ มะขามเปียกสด 5 ถ้วย ใบมะขามแขก 1 ถ้วย เกลือไทย 3 ถ้วย บดเป็นผงกินกับน้ำร้อน ครั้งละ 1 ช้อนชา เช้า-เย็น กินเป็นประจำร่างกายจะแข็งแรงปราศจากโรคภัยเบียดเบียน

กานพลู

ตำรับที่ 8 : ท่านให้เอาต้นเหงือกปลาหมอ หนัก 3 ตำลึง พริกไทยล่อน หนัก 1 ตำลึง หัวแห้วหมู หนัก 1 ตำลึง ตากให้แห้ง ตำผงละลาย ผสมน้ำผึ้ง กินหลังอาหารเย็น ทำให้ตาแจ่มใส่ บำรุงเส้นรักษาน้ำเหลือง

ตำรับที่ 9 : ท่านให้เอา พริกไทยล่อน แห้วหมู กระชาย บอระเพ็ด สิ่งละ 3 บาท ทำผง ละลายน้ำผึ้งกินดีนักแล

ตำรับที่ 10 : ท่านให้เอาหัวแห้วหมู รากแจง สมอเทศ สมอไทย สมอพิเภก สมอดีงู กระเทียม ดีปลี ขิงแห้ง หัวข่าเล็ก บอระเพ็ด มะขามป้อม ยาขนานนี้ดีมาก ท่านให้สิ่งละเท่าๆ กัน ทำเป็นยาผง ละลายน้ำผึ้งเป็นกระสาย กินหลังอาหารเย็น ยาขนานนี้ คนอายุ 30 ปีขึ้นไป ก็กินได้ นอกจากนั้น คนที่ท้องผูกก็ดีมาก เพราะมันมีการระบายน้อยๆ

ตำรับที่ 11 : แห้วหมู กระชาย พริกไทย หนักสิ่งละ 5 ตำลึง ต้มตากแดดตากน้ำค้างกินเช้าเย็น หรือจะปั้นเม็ดกินกับน้ำผึ้งก็ได้

พริกไทย

ตำรับที่ 12 : รากสามสิบหนัก 600 กรัม บอระเพ็ดหนัก 600 กรัม ใบหนาดหนัก 600 กรัม ใบมะตูมหนัก 600 กรัม ยาทั้งหมดตากแดดให้แห้งแล้วบดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งเดือนห้ากิน เป็นยาอายุวัฒนะแล