สสจ. ร้อยเอ็ด ชี้อากาศเปลี่ยน คนป่วย แนะปรับพฤติกรรม ‘4 อ. 3 ส.’

นพ.ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ปลายฝนต้นหนาวในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงจะทำให้ประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และมีการระบาดอย่างรวดเร็ว ที่พบบ่อยคือโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคปอดบวม ในปี 2559 จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้ป่วยโรคปอดบวม 4,207 ราย ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส เป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันที่ติดต่อได้ง่ายจากการไอ จาม หรือติดมากับมือ อาการของโรคคล้ายกับไข้หวัด มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คัดจมูก ไอ แต่จะเป็นรวดเร็วและมีความรุนแรงมากกว่า ใครที่เสี่ยงจะป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ควรพักผ่อนให้มากๆ สวมหน้ากากอนามัย หากป่วยมีอาการไข้สูง ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ควรพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที

ส่วนโรคปอดบวม เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่สามารถแพร่เชื้อได้ในอากาศ ติดต่อจากคนสู่คนผ่านการไอ หรือจาม อาการของโรคคือ หอบ น้ำมูกไหล ไอแห้งๆ ต่อมาจะเริ่มมีเสมหะเหนียว จาม คัดจมูก ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก รวมถึงอาจมีการท้องเสีย ซึ่งอาการมักเกิดแทรกซ้อนตามหลังโรคทางเดินหายใจ

ดังนั้น ขอเชิญประชาชนชาวร้อยเอ็ดร่วมกันสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเป็นเกราะป้องกันโรคได้ด้วย 4 อ. 3 ส. อันประกอบด้วย อาหาร เน้นการกินผัก ผลไม้สด ลด ละ เลิก อาหารหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายทุกวัน วันละ 30 นาที จัดการอารมณ์ด้วยการมองโลกในแง่ดี อนามัยสิ่งแวดล้อม รณรงค์ทำดีเพื่อพ่อ 365 วัน บ้านฉันสวย จัดการสภาพแวดล้อมที่บ้านและที่ทำงานให้สะอาด ไม่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์โรค ส่วน 3 ส. ประกอบด้วย ลด ละ เลิก สุรา ยาสูบ และนำ ส.สุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ มาปฏิบัติจนเป็นสุขนิสัย

 

ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด