เด็ดขาด! ผู้ว่าพิจิตร ขู่โรงสี-ท่าข้าว ใครโกงชาวนา ถูกดำเนินคดี-ไม่ต่อใบอนุญาตให้

ผู้ว่าพิจิตร ขู่โรงสี ท่าข้าว ใครโกงชาวนา ไม่ต่อใบอนุญาตประกอบให้ ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ยังพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องถึงตัน7000-8000 บาท ขณะที่ชุดเฉพาะกิจหน่วยชั่งตวงวัด กระทรวงพาณิชย์ จับตราชั่งดัดแปลงโกงน้ำหนักข้าวชาวนา สั่งเปรียบเทียบปรับและส่งฟ้องศาลดำเนินคดีอาญา 3 ราย

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2559 เวลา 09.00 น. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นาย สุชาติ สินทรัพย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วย พ.อ. ชันเดช สุรัสวดี รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดพิจิตร นายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการ สำนักกำกับและตรวจสอบชั่งตวงวัดกรมการค้าภายใน ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องประกอบไปด้วย พาณิชย์ จังหวัดกรมการค้าภายใน โรงสี ท่าข้าว ที่โรงแรม พิจิตร พล่าซ่า ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร

ในการประชุมครั้งนี้ มีการชี้แจงการ ใช้ชั่งตวงวัด พศ 2542 และประกาศกระทรวงพาณิชย์ พระราชบัญญัติ นอกจากนี้ขอ ให้โรงสี และท่าข้าว มีการติดป้าย ราคาการรับชื้อข้าว ให้กับเกษตรกรชาวนา รับทราบว่า รับซื้อข้าวราคาเท่าไหร่ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวพิจิตร มีราคา ที่ สูงขึ้น โดยขณะนี้ อยู่ที่ 7000-8000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในที่ประชุม นาย วีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ยังได้เน็นย้ำ เกี่ยวกับ ห้ามโรงสีและท่าข้าว มีพฤติกรรม โกงชาวนา หรือ เอารัดเอาเปรียบชาวนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตราชั่ง หรือพฤติกรรมอื่นๆ หากตรวจสอบพบจะลงโทษ ขั้นรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินคดี หรือ ไม่ต่อใบอนุญาต ผู้ประกอบการให้

ทางด้าน นาย วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ ให้กับ โรงสี ท่าข้าว รับทราบเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมาย ในการ ใช้ชั่งตวงวัด โดยสั่งห้าม มีการ โกงหรือ เอารัดเอาเปรียบเกษตรกรชาวนา หาก มีการตรวจพบว่าใครฝ่าฝืน ก็จะมีบทลงโทษ สูงสุด คือ ดำเนินคดี และไม่ต่อใบอนุญาตประกอบการให้ ผมไม่อยาก ให้ โรงสีหรือท่าข้าว มีพฤติกรรมโกงชาวนา

นายณรงค์ สุขโท้ ประธานสหกรณ์การเกษตรอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ในขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยข้าวหอมมะลิเกี่ยวสดราคาต่ำสุดอยู่ที่ ตันละ 7,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิแห้งรับซื้ออยู่ที่ ตันละ 8,000-8,500 บาท ซึ่งมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นต่อไปอีก เนื่องจากผลผลิตของเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ กำลังออกสู่ตลาดและคาดว่าอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ผลผลิตจะลดลง ทำให้โรงสี ท่าข้าว ต่างๆออกมาซื้อแข่งขันกันมาก ส่งผลดีให้ราคาในท้องตลาดพุ่งสูงขึ้น

นอกจากนี้สหกรณ์การเกษตรอำเภอตะพานหิน ซึ่งเป็นสถาบันการเกษตรในการรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือกของรัฐบาลได้จัดโครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ฯโดยการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรที่นำข้าวเปลือกมาขายยังสหกรณ์ อีก 1 เปอร์เซ็นต์ รวมกว่า 2 พันรายเพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาในภาวะราคาข้าวตกต่ำ ทำให้เกษตรกรชาวนาต่างนำผลผลิตออกมาขายกันอย่างคึกคักและพึงพอใจกับราคาดังกล่าวประกอบกับสถาบันการเกษตรมีการรับรองตราชั่งที่ได้มาตรฐานรับรองจากกระทรวงพาณิชย์

นายไพศาล มาละออ อายุ 66 ปี ชาวนาตำบลบางลาย อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ได้นำข้าวเปลือกหอมมะลิ มาขายให้กับสหกรณ์การเกษตรอำเภอตะพานหิน จำนวน 14 ตัน บอกว่าพึงพอใจกับราคาข้าวหอมมะลิเกี่ยวสดที่ตนเองขายถึงแม้ว่าจะมีความชื้นสูงก็ตามแต่ได้ราคาถึงตันละ 7 พันบาท และเมื่อบวกกับค่าชดเชยที่รัฐบาลให้มาอกตันละ 800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ และค่าปรับปรุงสภาพข้าวอีก 2 พันบาทนั้นทำให้เกษตรกรอยู่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากพาณิชย์จังหวัดพิจิตร และชุดเฉพาะกิจสายตรวจหน่วย ชั่ง ตวง วัด กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับทหารกองทัพภาคที่ 3 ได้ออกสุ่มตรวจตราชั่งน้ำหนักข้าวเปลือก ของท่าข้าว และสถาบันการเกษตร โรงสี ต่างๆในจังหวัดพิจิตร ทั้งหมด 11 แห่ง ซึ่งพบท่าข้าวที่ทำการแก้ไขดัดแปลงตราชั่ง ใช้โปรแกรมเก่าที่กระทรงพาณิชย์ประกาศยกเลิกใช้มานาน และตรวจวัดน้ำหนักไม่ได้มาตราฐานของกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 3 ราย ซึ่งได้ทำการเปรียบเทียบปรับตาม พรบ.พาณิชย์รายละ 2 หมื่นบาท หากเป็นนิติบุคคลคือสถาบันการเกษตรเปรียบเทียบปรับ 2 เท่า เป็น 4 หมื่นบาท และส่งฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาด้วย รวม 3 ราย ที่ ท่าข้าวตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมืองพิจิตร ท่าข้าวในเขต อำเภอตะพานหิน ท่าข้าว ในเขต ตำบลสาเหล็ก

อย่างไรก็ตามด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการค้าข้าว โดยคาดโทษหากสถาบันการเกษตร ท่าข้าว และโรงสีไดๆ ที่ซื้อข้าวชาวนาได้ดัดแปลงโกงตราชั่งนอกจะดำเนินคดีและจะไม่ต่อใบอนุญาตประกอบการให้


ที่มา มติชนออนไลน์