อยู่หนไหน ก็ไทยทรงดำ

ฉันชอบผมดำยาวเกล้ามวยของป้าภามาก แม้ว่าจะดำเพราะย้อมก็ตาม แล้วก็ชอบผมหงอกขาวแซมดำของป้าอีกคนเช่นกัน มวยหลวมๆ ทิ้งชายผมห้อยระลงมาราวไม่จงใจ แต่รู้นะว่าใช้เวลาไปโขทีเดียวกับการตะล่อมเส้นผมให้ได้แบบนี้

ทรงผมของลาวโซ่งหรือไทยทรงดำบ่งบอกอัตลักษณ์อย่างหนึ่ง มวยแบบไหนยังโสด มวยเฉไปข้างไหนมีเหย้าเรือนแล้ว มวยยังไงให้คนรู้ว่าเป็นม่าย สมัยก่อนฉันเคยได้ยินเรื่องแบบนี้จากไทยทรงดำบ้านนาป่าหนาด เชียงคาน วัยสาวเลือดเฟมินิสต์พุ่งพล่าน ฉันคิดไปถึงการกดข่มทางเพศ ผู้ชายไม่เห็นมีสัญลักษณ์บ่งบอกว่าโสดไม่โสด ม่ายไม่ม่าย แต่เมื่อมาคิดอีกทีเป็นกุศโลบายของคนแต่ก่อน ชายใดเห็นสตรีไทยทรงดำจะได้ไม่ละเมิด

ป้าถนอม คงยิ้มละมัย

เอาเถอะ แม้อย่างไรก็ดูไม่ยุติธรรมอยู่ดี ทว่าก็เป็นวัฒนธรรมประเพณีที่เขายอมรับสืบทอดกันมานาน ทั้งผ่านมาถึงยุคดิจิตอลนี้แล้ว หญิงสาวไทยทรงดำเขาก็ก้าวล้ำไกลเกินทรงผมไปแล้ว

นานเกิน 10 ปี ที่ฉันได้รู้จักกับชาวไทยทรงดำที่เชียงคาน กว่าจะได้มารู้จักไทยทรงดำที่เขาย้อย เพชรบุรี แรกได้คุยกับป้าหนอม หรือที่เขาเรียกนามอย่างเป็นทางการว่า อาจารย์ถนอม คงยิ้มละมัย ผู้รอบรู้เรื่องลาวโซ่งหรือไทยทรงดำ ฉันก็หลงเสน่ห์ป้าในบัดดล แรกเลยป้านำทางเราไปกินข้าวที่ร้านอาหารรสแท้ชาวไทยทรงดำ แกงหน่อส้ม กบทอด หมูสามชั้นทอด ต้มยำปลาทู และอื่นๆ ล้วนเลอรส ป้าหนอมพูดติดตลกว่า…ได้มาอาศัยเขากินฟรีอีกแล้ว

ป้าหนอม ชอบพูดติดตลกอยู่เสมอ ความจริงถ้าไม่ได้ป้าหนอมนำทางเราคงไม่ได้ลิ้มรสอาหารที่ร้านนี้ โดยเฉพาะกบซึ่งนับเป็นอาหารประจำชาติพันธุ์ไทยทรงดำ กบเขียดเป็นสัตว์เล็กๆ ที่มีความหมาย เพราะเสียงร้องของมันบอกว่าฝนกำลังจะตก ฝนที่ตกต้องตามฤดูกาลหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ที่บันดาลข้าวปลาอาหารเลี้ยงชาวไทยทรงดำ กบเขียดมีความหมายให้เริงใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กินมัน หน้าที่อีกอย่างของกบเขียดคือเป็นอาหารโอชารสเพิ่มโปรตีน จะกล่าวว่าเป็นอาหารแห่งฤดูกาลอันเบิกบานก็ไม่น่าจะผิด

มุ้งดำ ของคู่ผัวเมีย

หลังจากอิ่มเอมโอชารสด้วยกับข้าวที่สั่งมาเต็มโต๊ะ ป้าหนอมก็นำทางเราไปบ้านที่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ปานถนอม   จัดแสดงเรื่องราวของไทยทรงดำ นั่งพักพอข้าวย่อยป้าหนอมก็แนะให้เราชมหอแถนที่ตั้งสูงอยู่หน้าบ้าน ไทยทรงดำบูชาแถนในฐานะสิ่งศักดิ์สูงสุด หรือเทพผู้เป็นใหญ่บนท้องฟ้า จะเรียกว่าผีฟ้าก็ได้เช่นกัน เหนือแถนยังมีแถนหลวงที่นับเป็นหัวหน้าแถนทั้งปวง คอยกำกับการทำงานของแถนต่างๆ อีกที น่าจะคล้ายๆ รัฐบาลผู้ปกครองบ้านเมือง

จากนั้น ป้าหนอม นำชมพิพิธภัณฑ์ เป็นการชมพิพิธภัณฑ์บ้านๆ ที่สนุกสนานเพลิดเพลิน เพราะป้าไม่ได้ให้ความรู้แบบท่องจำข้อมูลกระด้างๆ ป้าหนอมให้ความรู้ด้วยการเล่าเรื่องผ่านสิ่งของต่างๆ อย่างสนุกสนาน ฟังเพลิดเพลินจบโดยไม่รู้สึกตัว หลากหลายเรื่องราวยากจะเล่าได้จบ นอกจากจะต้องไปเยี่ยมชมป้าหนอมและพิพิธภัณฑ์ด้วยตัวเอง

ที่อยู่ของแถนหรือผีฟ้า

ฉันชอบมุ้งสีดำของไทยทรงดำ ด้วยเรือนชานของคนแต่ก่อนที่ไม่ได้มีห้องหับเป็นสัดส่วน หญิงชายที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่แยกเรือน จึงกางมุ้งดำเพื่อความเป็นส่วนตัวในการประกอบกิจกรรมบางอย่าง ให้พ้นจากสายตาสมาชิกในครอบครัว ที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน

นอกจากนำชมบ้านที่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว ป้าหนอมยังนำทางไปรู้จักกับที่ฝังกระดูกคนตายผู้หญิง และเรือนไทยทรงดำแบบเดิม ที่ฉันชมชอบหลังคาอันประณีตงดงามของเขามาก

เดิมทีชาวไทดำ ลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำ ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่เมืองแถง แคว้นสิบสองจุไท ซึ่งคือส่วนหนึ่งของเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม สิบสองจุไทได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งขุนเขาหมื่นยอด ด้วยว่าเต็มไปด้วยขุนเขาใหญ่น้อยสลับสล้างซับซ้อน มีทุ่งราบเป็นพื้นที่ทำนาอยู่ไม่มากนัก

ทรงบ้านแบบดั้งเดิม

ล้านเจือง ผู้นำในตำนานของไทดำเมืองแถง ได้ทำศึกออกตระเวนตีหัวเมืองน้อยใหญ่เพื่อขยายอาณาเขต ตีไปเรื่อยๆ จนถึงภูฟ้าที่มีน้ำไหลผ่านกลางทุ่งนาจากเหนือไปใต้เหมาะใจยิ่งนัก จึงสั่งให้ไพร่พลลงมือปลูกบ้านแปงเรือน ตั้งชื่อเมืองหม่วย เป็นเมืองหลวงศูนย์กลางการปกครองแคว้นสิบสองจุไทแต่นั้นมา

แคว้นสิบสองจุไทถูกรุกรานมาตลอด จนในที่สุดก็แตกพ่ายไปคนละทิศละทาง มีบางกลุ่มหนีไปอยู่ทางประเทศลาว   เมื่อลาวแตกก็พากันอพยพอีกครั้ง ส่วนหนึ่งเข้ามาอาศัยในประเทศไทย มีลูกหลานแตกสายออกไปจนทุกวันนี้

“เดี๋ยวพาไปดูทิวทัศน์แบบเมืองแถง” ป้าหนอม ว่าพลางบอกเส้นทางคนขับรถ จนพาเรามาถึงถนนสายหนึ่งขนาบข้างด้วยทุ่งนากว้าง ไกลตาไปโน่นมีแลเห็นเทือกทิวเขาโอบล้อม ป้าหนอม บอกว่า ทิวทัศน์แบบนี้เหมือนกับทางเมืองแถงที่ป้ากับชาวไทยทรงดำได้มีโอกาสไปเยือนมา เมืองแถงหรือเดียนเบียนฟูปัจจุบันนั่นแหละ

ที่ฝังกระดูกผู้หญิง

ป้าหนอม เล่าว่า ตอนเข้ามาอยู่ในเมืองไทย เขาจะให้พวกไทยทรงดำไปอยู่ทะเล แต่ไม่มีใครอยากไปไทยทรงดำกลุ่มหนึ่งก็มาหาที่อยู่กันเอง มาพบที่เขาย้อยซึ่งเหมือนกับที่อยู่เดิมที่เมืองแถง เมืองที่มีภูเขาใหญ่น้อยสลับสล้าง มีที่ราบทำนาและน้ำไหลผ่าน ไทยทรงดำต้องอยู่กับภูเขาไม่ใช่ทะเล ต้องมีป่ามีไผ่ให้เก็บหน่อไม้ มีเสียงกบเขียดระงม

และอยู่ตรงไหน ไทยทรงดำก็ต้องมีแถนไว้กราบไหว้บูชาไว้ยึดถือ ไว้ขอฟ้าขอฝนตามฤดูกาลเพื่อบันดาลข้าวปลาอาหารบริบูรณ์

ไทยทรงดำจะอยู่ที่ไหน ก็ไทยทรงดำนั่นแหละ

ไทยทรงดำต้องปั้นเกล้าหรือมุ่นมวยแบบนี้
ทิวทัศน์ละม้ายเมืองแถง