ลมหนาวมาเยือน ตลาดถ่านก่อไฟตามชายแดนนครพนมคึก เงินสะพัดวันละหลายแสน

วันที่  24 พฤศจิกายน 2559  จังหวัดนครพนมในช่วงนี้ สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นจนอุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง  ล่าสุดเช้านี้วัดอุณหภูมิลดลงเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 19 -20 องศาเซลเซียส ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็น  โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ หมั่นดูแลสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วย จากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเริ่มหนาวเย็น พร้อมระดมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ช่วยเหลือนำผ้าห่มออกไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน เตรียมพร้อมรับมีปัญหาภัยหนาว

ขณะเดียวกัน ในช่วงนี้พบว่าตามตลาดการค้าชายแดน จุดผ่อนปรนไทยลาว ไม่เพียงธุรกิจการขายเครื่องนุ่งห่มกันหนาวที่มีประชาชนแห่มาเลือกซื้อ  แต่ยังคึกคักไปด้วยพ่อค้าแม่ค้า  ชาวไทยได้มีการสั่งอนำเข้าถ่านก่อไฟ เพื่อมาสต็อกจำหน่ายหน้าหนาว ภายหลังสภาพอากาศเริ่มหนาวเย็น ทำให้ตลาดไทยมีความต้องการถ่านจำนวนมาก  ส่งผลดีต่อการค้าชายแดน มีเงินสะพัดวันละหลายแสนบาท  เนื่องจากราคาซื้อขายถ่านก่อไฟ จากลาวจะมีราคาถูกกว่าไทยเท่าตัว  ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าชาวลาว จะบรรทุกใส่เรือหางยาวข้ามมาขาย ในราคากระสอบละ ประมาณ  80 -100  บาท โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้า ชาวไทย รวมถึงประชาชนทั่วไป มาติดต่อซื้อไปขาย และไปใช้ในครัวเรือน เพราะถ่านไม้ก่อไฟของไทย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และมีราคาแพงกว่าของลาวเท่าตัว ตกราคากระสอบละ 200 -300  บาท ทำให้กลายเป็นสินค้านำเข้าที่สร้างเงินหมุนเวียนสะพัดรับฤดูหนาว

จากการสอบถามพ่อค้าชาวลาวระบุว่า ถ่านก่อไฟจากลาว เป็นที่นิยมของตลาดไทยอย่างมาก โดยมีพ่อค้า แม่ค้ารวมถึงชาวลาวมารับซื้อไม่อั้น เพราะไม่เพียงราคาถูกกว่าของไทย ยังเป็นถ่านที่มีคุณภาพ  เนื่องจากเผาจากไม้เนื้อแข็ง ทำให้สามารถก่อไฟได้ดี  และให้ความร้อนได้นาน เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการประกอบอาหาร ก่อไฟผิงคลายหนาว โดยเฉพาะร้านเนื้อย่างเกาหลีมาสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงหน้าหนาว ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าไปตรวจสอบควบคุม ป้องกันไม่ให้มีการสั่งซื้อจำนวนมากเกินกำหนด ป้องกันพ่อค้าคนกลางซื้อไปกักตุนเก็งราคา  ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในระยะยาว