หอการค้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5 ภาค รองรับงบฯกลุ่มจังหวัด 4 หมื่นล้าน

ในระหว่างการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 34 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศการจัดสรรงบประมาณปี 2561 ให้กับกลุ่มจังหวัด จำนวน 40,000 ล้านบาทกระจายสู่กลุ่มจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมหอการค้า 5 ภาค ในหัวข้อเรื่อง “การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาค 5 ภาคและแนวโน้มเศรษฐกิจ”

โดย นายณรงค์ คองประเสริฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวถึงเป้าหมายของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเหนือตอนบน 1 จะต้องเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนวัฒนธรรมล้านนา ด้วยการรวมเอาอัตลักษณ์ที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่วนภาคเหนือตอนบน 2 จะมุ่งไปสู่เมืองสมุนไพรและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เน้นการบริโภค กิจกรรมเอาต์ดอร์ ภาคเหนือตอนล่าง 1 เน้นเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยเฉพาะจังหวัดตาก และภาคเหนือตอนล่าง 2 ตั้งเป้าให้เป็นแหล่งปลูกอ้อย-มันสำปะหลัง-ข้าวปลอดภัย และไบโออีโคโนมี

“คาดว่าเศรษฐกิจภาคเหนือจะขยายตัว10% มูลค่าการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 176,000 ล้านบาทในปี 2563 และยังมีโอกาสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง”

นายประพันธ์ เตชะสกลกิจกูร ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (20 จังหวัด)กล่าวว่า ภาคอีสานมีโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวหอมมะลิระหว่างปี 2559-2563 มูลค่า 250,000 ล้านบาท เร่งวิจัยและพัฒนาลดต้นทุน ใช้เทคโนโลยีเชื่อมโยงแหล่งผลิตระบบโลจิสติกส์ส่งเสริมการบริโภคข้าวหอมมะลิในโรงแรม ร้านอาหาร และสายการบิน

ขณะที่ ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง กล่าวถึง Flagship Project ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางจะแบ่งเป็น 4 พื้นที่ คือ 1) กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 1 เป็น National Creative Hub หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยนำนวัตกรรมเข้าไปใส่ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งด้านการท่องเที่ยว อาหาร 2) กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 2 เป็น Healthy Kitchen for the Metropolis หรือครัวสุขภาพเพื่อมหานครที่ จ.อ่างทอง 3) กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 เป็น Food Innopolis เป็นเมืองแห่งนวัตกรรมอาหาร และ 4) กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เป็น Food & Ecotourism & Application Hub จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เนื่องจากในพื้นที่มีโครงการในพระราชดำริหลายโครงการ

นอกจากนี้จะส่งเสริมการแปรรูปกล้วยซึ่งตลาดโลกมีความต้องการสูง โดยจะผลักดันให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี

นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ภาคตะวันออก 2020 Flagship ก็คือ เกษตร ได้วางตำแหน่งเป็นศูนย์กลางผลไม้เกษตรปลอดภัยมุ่งสู่ออร์แกนิก ได้แก่ มังคุดและทุเรียน มีจันทบุรีเป็นมหานครผลไม้ของโลก เป้าหมายจะพัฒนาผลผลิตปีละ 1 ล้านตัน มูลค่า 100,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปี ขณะที่กลุ่มภาคกลางตอนกลางวางตำแหน่งไว้ที่มะม่วงกับสมุนไพร

นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ
ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ กล่าวว่า จะผลักดัน 3 โครงการ ใน 3 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ โดยฝั่งอันดามันจะเน้นอาหาร ทิวทัศน์ และบรรยากาศทางทะเล ในส่วนของอ่าวไทยมุ่งสู่การท่องเที่ยวและจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ โคเนื้อศรีวิชัย จังหวัดพัทลุง สำหรับชายแดนใต้นั้นจะเป็น Multicultural Trade & Tourism และยังตั้งเป้ายกระดับการผลิต พัฒนาและการเพิ่มมูลค่าของปาล์มน้ำมัน โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้จาก 60,000 ล้านบาท เป็น 85,000 ล้านบาท