สาววัยเกษียณ ทำเกษตรอินทรีย์รอบบ้าน มีรายได้ 400-500 บาทต่อวัน

จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้หลายๆ คน รายรับไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เห็นได้จากสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่มีคนทำงานประจำใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน มาประกอบอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ให้หลากหลาย ทำให้มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้ไม่เกิดหนี้สิน

นอกจากนี้ บางครัวเรือนมีการหาวิธีลดเรื่องค่าใช้จ่าย โดยปลูกพืชผักบริเวณบ้านหรือใช้พื้นที่เล็กน้อยที่มีอยู่ทำการเกษตร เพื่อให้มีผลผลิตที่นำมาประกอบอาหาร สามารถช่วยลดในเรื่องของค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งผลผลิตที่มีมากเกินไป นำมาขายเกิดเป็นรายได้เสริมอีกหนึ่งช่องทางด้วย

คุณนุจรีย์ ทิพย์ประภาวงศ์

คุณนุจรีย์ ทิพย์ประภาวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 1 ตำบลบางระกำ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม มีแนวความคิดใช้พื้นที่บริเวณบ้านมาปลูกผักแบบอินทรีย์ โดยออกแบบให้แปลงผักมีความสวยงามประดับเหมือนเป็นไม้ประดับ จากที่ทำเพื่อไว้กินเองในครัวเรือน ต่อมาเมื่อผลผลิตมีมากขึ้นสามารถขายเกิดเป็นรายได้ให้กับเธอเป็นอย่างดี

จากปัญหาสุขภาพ

ทำให้ใส่ใจในเรื่องอาหาร

คุณนุจรีย์ เล่าให้ฟังว่า อาชีพหลักทำเกี่ยวกับการเกษตรอยู่แล้ว โดยเน้นปลูกพืชผักสวนครัวที่มีการใช้ยาฆ่าแมลงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ต่อมาได้มีโอกาสตรวจสุขภาพ และพบว่าเธอเองเป็นโรคมะเร็ง จึงทำให้มีมุมมองในเรื่องการทำเกษตรแบบใหม่ และเลือกอาหารการกินมากขึ้น จึงตัดสินใจเข้าฝึกอบรมเกี่ยวกับการปลูกพืชแบบอินทรีย์ และนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้กับการปลูกผักบริเวณบ้าน จนเกิดเป็นสวนประดับพืชผักที่ไม่ได้สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่สามารถขายทำเงินอีกด้วย

แปลงผัก

“ช่วงนั้นเราเน้นทำเกษตรแบบเคมีมาตลอด พอได้มีโอกาสได้ไปศึกษาในเรื่องของการทำเกษตรอินทรีย์ครั้งแรก บอกเลยยังไม่เชื่อว่าจะสำเร็จได้ เพราะเราทำแบบใช้เคมีมาทั้งชีวิต มองว่าพืชผักจะต้านทานโรคและแมลงได้ยังไง หากไม่มีเรื่องปุ๋ยยาเข้ามาช่วย แต่พอมาได้ทดลองทำเรื่อยๆ ผลสรุปว่า สิ่งที่มีคนมาบอกสอนนี่ถูกต้องหมด อย่างน้อยการดูแลสุขภาพของเราต้องเริ่มจากอาหารด้วย คือสิ่งที่เราใช้ประกอบอาหารต้องดี ทำให้มีการปรับเปลี่ยนเริ่มที่ตัวเราก่อน ปลูกผักแบบอินทรีย์ เลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ทำให้ทุกวันนี้จากที่เคยคิดจะปลูกเพื่อกินเอง พอผลผลิตมีมากสามารถขายเกิดรายได้ทุกวัน” คุณนุจรีย์ บอกถึงที่มา

จากการใช้พื้นที่บริเวณบ้านให้เป็นประโยชน์ในครั้งนั้น คุณนุจรีย์ บอกว่า เมื่อความชำนาญเกิดขึ้นจากสิ่งที่ทำ จึงได้เปิดบ้านเป็นแหล่งเรียนรู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คน ที่ต้องการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตมาสู่การทำเกษตรอินทรีย์แบบง่ายๆ ด้วยสองมือตนเองก่อน ช่วยให้องค์ความรู้ถูกเผยแพร่เป็นวงกว้าง ทำให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีตามไปเหมือนกับเธอ

มีพื้นที่ว่างตรงไหน

ปลูกพืชผักได้ทั้งหมด

ในขั้นตอนของการปลูกผักอินทรีย์ คุณนุจรีย์ บอกว่า เริ่มทำอย่างจริงจัง ตั้งแต่ ปี 2555 โดยปลูกผักที่ชอบกินเองก่อนโดยยังไม่ได้เน้นขาย ซึ่งดินที่ใช้ปลูกพืชเป็นปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ใบหญ้าที่ทำเอง รวมทั้งมีการนำปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักต่างๆ มาช่วยปรับปรุงบำรุงดินอยู่เสมอ พร้อมแบ่งโซนบริเวณรอบบ้านไว้สำหรับเลี้ยงไก่ไข่และเป็ด เพื่อที่จะได้มีไข่ไว้กินในทุกวันโดยไม่ต้องซื้อเข้ามาให้สิ้นเปลืองในการประกอบอาหาร

ผักกวางตุ้ง

“เนื่องจากอาชีพเดิมเราก็ปลูกผักอยู่แล้ว ทีนี้พอเรื่องสุขภาพมันไม่ค่อยเอื้ออำนวย ก็เปลี่ยนจากไปทำที่สวนในพื้นที่กว้างๆ มาทำอยู่รอบบริเวณบ้าน ใช้วิธีการปลูกผักสวนครัวประดับตกแต่งหน้าบ้านเราให้สวยไปด้วยในตัว เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เราก็ออกแบบให้ผักขึ้นทันเวลา สามารถมีออกขายได้ทุกวัน มันก็สามารถเกิดรายได้ทุกวัน จากการปลูกผักของเรา” คุณนุจรีย์ บอก

โดยผักสวนครัวที่ปลูกหลักๆ เน้นเป็นพืชที่คนสามารถประกอบอาหารได้ทุกวัน คือ คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว และอื่นๆ อีกหลายชนิด ตลอดไปจนถึงต้นหอม ผักชี การดูแลผักก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก จะรดน้ำตามความเหมาะสม ถ้าช่วงไหนที่อากาศร้อนก็รดน้ำมากกว่าทุกวัน พร้อมทั้งมีทำปุ๋ยหมักและฮอร์โมนต่างๆ จากที่ได้ไปอบรมนำมาใช้ ทำให้ต้นทุนการผลิตไม่สูง มีผลกำไรเยอะขึ้นจากการขายผัก

ผักกาดขาว หากแมลงเยอะป้องกันด้วยมุ้ง

ส่วนในเรื่องของการป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชนั้น คุณนุจรีย์ บอกว่า เรื่องหนอนและแมลงต่างๆ ยังไม่มีเข้ามาทำลายพืชผักจนเกิดความเสียหาย เพราะระบบนิเวศภายในสวนค่อนข้างดี คือมีแมลงที่เป็นประโยชน์คอยกำจัดแมลงศัตรูพืช จึงทำให้ภายในสวนผักของเธอไม่มีปัญหาเรื่องแมลง และที่สำคัญผักเจริญเติบโตให้ผลผลิตดีอีกด้วย

“ตอนที่เราเรียนรู้ใหม่ๆ ระบบนิเวศที่ดี เราก็ยังไม่เชื่อมั่นว่าจะดีได้ เพราะจากที่เคยทำเกษตรมาตลอด แมลงศัตรูพืชมันก็กินผักตลอด แต่ถ้าได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าการทำเกษตรอินทรีย์ ระบบภายในสวนมันดูแลซึ่งกันและกันได้ แมลงดีช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืช โดยที่เราไม่ต้องหายาฆ่าแมลงมาฉีดเหมือนสมัยก่อนเลย ที่เห็นได้ชัดๆ คือเรื่องของสุขภาพของเราเอง ที่ดีขึ้นมาเป็นลำดับ ผักที่ปลูกก็สามารถขายได้ทุกต้น เพราะลูกค้าไว้ใจในสิ่งที่ทำ” คุณนุจรีย์ บอก

พื้นที่ปลูกต้นหอม

ผลผลิตขายได้ทุกวัน

เฉลี่ย 400-500 บาทต่อวัน

ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อขายสินค้า คุณนุจรีย์ บอกว่า ในช่วงแรกที่เริ่มปลูกใหม่ๆ เน้นปลูกเพื่อบริโภคเองภายในครัวเรือน ต่อมาเมื่อผลผลิตเริ่มมีจำนวนที่มากขึ้น ก็จะแจกจ่ายให้กับเพื่อนสนิทมิตรสหายโดยไม่ได้เน้นขายแบบจริงจัง เมื่อคนที่ได้นำผักภายในสวนของเธอไปชิม รู้สึกมีรสชาติอร่อย จึงทำให้บอกกันไปปากต่อปากทำให้มีลูกค้าเข้ามาติดต่อขอซื้อผักอยู่เป็นระยะ

“พอเราเริ่มทำผ่านมาได้ 5-6 เดือน จากการที่เราช่วงแรกก็แจกจ่ายไปก่อน ไม่ได้คิดที่จะขายอะไร เพราะผักที่เราปลูกก็เหมือนความสุขที่ได้ลงมือทำ เสร็จแล้วคราวนี้คนที่เคยนำผักไปกิน เขาก็ติดใจว่า ทำอาหารอร่อย กินสดก็มีรสชาติที่ดี บอกกันไปปากต่อปาก คนก็เริ่มเข้ามาหาซื้อผักเราถึงที่บ้าน โดยมาชมแปลงผักของเราด้วย เขาก็มีแรงบันดาลใจที่อยากจะไปทำเองที่บ้าน พอเราเห็นแบบนี้รู้สึกดีใจมาก ว่าอย่างน้อยสิ่งที่ทำสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนได้ เพราะทำแบบนี้ไม่ได้มีผักไว้กินอย่างเดียว ยังโชว์แทนไม้ประดับได้ด้วย” คุณนุจรีย์ บอก

มะนาวรอบบ้าน

ซึ่งราคาผักที่ขายจะมีราคาแพงกว่าท้องตลาดเล็กน้อย เพราะทุกอย่างปลูกแบบไม่ใช้สารเคมี ดูแลในระบบอินทรีย์ ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าผักทุกต้นที่ผ่านการปลูกด้วยมือของเธอมีคุณภาพแน่นอน โดยผักขายแบบคละชนิด 400 กรัม ราคาอยู่ที่ 25 บาท ซึ่งต่อวันผักที่ขายรวมกับไข่ไก่ที่เลี้ยงไว้ สามารถทำเงินให้เฉลี่ย 400-500 บาทต่อวัน ลูกค้าก็หมุนเวียนซื้อกันทุกวัน ทำให้เธอมีรายได้จากการขายผลผลิตอย่างต่อเนื่อง

การทำเกษตรรอบบ้านแบบเน้นเป็นเกษตรอินทรีย์ คุณนุจรีย์ บอกว่า สามารถมีรายได้และทำเงินได้จริง ในเรื่องของพื้นที่น้อยและมากไม่สำคัญ หากมีการพัฒนาและลงมือทำอย่างจริงจัง ก็สามารถมีรายได้จากผลผลิตที่ทำได้อย่างแน่นอน

ไก่ที่เลี้ยงไว้
ถังแก๊สธรรมชาติโดยใช้ขี้ไก่ทำ

สำหรับท่านใดที่สนใจเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ และอยากเยี่ยมชมสวนสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณนุจรีย์ ทิพย์ประภาวงศ์ หมายเลขโทรศัพท์ 089-824-4322

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561