โซนนิ่งยางพารา ต้องใช้จริงร่วมกับพืชเศรษฐกิจอื่นจึงจะเกิดประโยชน์

นายธีรพงศ์ ตันติเพชราภรณ์ ประธานคณะกรรมการด้านยางพารา สภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องของยางพาราในขณะนี้ คณะกรรมการด้านยางพารา สภาเกษตรกรแห่งชาติได้มีการนำเสนอโครงการลดการกรีดยางเพื่อเป็นการลดซัพพลายออกจากสวนยาง นโยบายนี้รัฐบาลนำไปปฏิบัติได้ก็จะเกิดประโยชน์ในเรื่องวัตถุดิบหรือซัพพลายออกมาน้อยจะทำให้เกิดการขาดแคลน ระบบราคา/ตลาด เพื่อหาซื้อวัตถุดิบจะเขยิบขึ้นเกิดประโยชน์กับเกษตรกรและรัฐบาลก็จะสามารถเขยิบราคายางภายในประเทศได้ ส่วนกรณีที่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะใช้อำนาจตามพ.ร.บ.เศรษฐกิจการเกษตร พ.ศ. 2522 มาตรา 5 โดยคณะกรรมการสามารถพิจารณากำหนดเขตพืชเศรษฐกิจได้ซึ่งจะนำมาใช้กับยางพาราเป็นชนิดแรก เกษตรกรและสภาเกษตรกรฯมีการหารือกันว่าจำเป็นต้องใช้ไหม ด้วยที่ผ่านมาปล่อยให้เกษตรกรปลูกได้ตามใจผลผลิตจึงได้บ้างไม่ได้บ้าง คุณภาพมีบ้างไม่มีบ้าง ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทางภาครัฐต้องใช้ข้อมูลเชิงวิชาการให้ความรู้กับเกษตรกรแล้วกำหนดพื้นที่ที่สามารถปลูกได้อย่างเหมาะสมเพื่อการผลิตที่มีต้นทุนที่ต่ำได้ผลผลิตสูง แต่มองว่าจะใช้กับยางพาราอย่างเดียวไม่น่าจะเกิดประโยชน์อยากให้ครอบคลุมไปถึงพืชชนิดอื่น เช่น ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเกษตรกรมีทั้งบุกรุกป่าและป่าบุกรุกพื้นที่เกษตรกรซึ่งต้องมีแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา ทั้งจากกรณีมีเอกสารสิทธิ์ไม่บุกรุกป่าและบุกรุกป่า กับไม่มีเอกสารสิทธิ์บุกรุกป่าและไม่บุกรุกป่า ส่วนที่เกษตรกรบุกรุกป่าจริงมาตรการ เยียวยาอาจไม่ครอบคลุมและทั่วถึงซึ่งต้องเข้าไปแก้ปัญหาในเรื่องของสิทธิทำกินก่อน

“การประกาศโซนนิ่งจะทำให้เกษตรกรมีการจัดการอย่างมีคุณภาพ ผลผลิตมีปริมาณมากขึ้น ต้นทุนต่ำ คุณภาพสูงเพราะเป็นการปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสม ภาคเหนือ ภาคอีสาน ถ้าเป็นพื้นที่ไม่เหมาะสมรัฐควรจะต้องมีนโยบายในเรื่องของการปรับเปลี่ยนถ้ายังไม่สามารถควบคุมได้ก็ต้องลดการช่วยเหลือ ซึ่งนั่นหมายถึงเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์หรือว่าไม่ปลูกในโซนนิ่งก็ไม่สามารถรับการช่วยเหลือได้ การจัด   โซนนิ่งจึงจะเกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าประกาศแล้วพื้นที่ยังเหมือนเดิมไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรก็เปล่าประโยชน์ แต่ถ้าพื้นที่นั้นไม่เหมาะสมทางกยท.ก็จะมีทางเลือกให้ เช่น ปลูกปาล์มน้ำมัน ไม้เศรษฐกิจ เศรษฐกิจพอเพียงได้ เข้าใจว่ายางพาราใช้เวลาปลูก 25-30 ปี จะให้เกษตรกรโค่นยางขณะที่กำลังได้ผลผลิตก็เป็นไปได้ยาก หากเกษตรกรจะโค่นยางเก่าแล้วขอปลูกยางใหม่ถ้าพื้นที่มีความเหมาะสมทางการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก็สามารถอนุมัติให้ปลูกใหม่ได้” นายธีรพงศ์ กล่าว