เกษตรกรบึงกาฬ เลี้ยงแพะในสวนยางพาราเสริมรายได้ ช่วงยางราคาร่วง

คุณพันธ์ ยามดี เกษตรกรเจ้าของสวนยางพารา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 14 ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ โทร. 063-137-2489 ปัจจุบันเขามีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ด้วยการเลี้ยงแพะในสวนยางพาราของตนเองมากกว่า 3 ปี โดยเลี้ยงแพะพันธุ์ลูกผสม ที่สามารถต้านทานโรคได้ดี ใช้เวลาเลี้ยงขุนแพะในสวนยางพาราประมาณ 4 เดือน ก็จับแพะออกขายได้ ในราคา ก.ก. ละ 145 บาท

ปัจจุบัน คุณพันธ์ ได้รวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะขุนจำหน่าย ภายใต้ชื่อ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปศุสัตว์พัฒนาเจริญก้าวหน้าบ้านภูทรายทอง” อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ โดยมีสมาชิกกลุ่มฯ จำนวน 59 ราย เลี้ยงแพะขุนรวมกันกว่า 280 ตัว มีตลาดหลักอยู่ที่จังหวัดหนองคาย และ สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีพ่อค้าเข้ามารับซื้อผลผลิตถึงในสวน เพื่อส่งแพะไปขายต่อที่ประเทศเวียดนาม

หลายคนอาจคิดว่า “แพะ” เป็นสัตว์เลี้ยงที่เหม็นสาบ สกปรก กินอาหารไม่เลือก แต่ความจริงแล้ว แพะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่เลี้ยงง่าย เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันมากที่สุด เพราะการเลี้ยงแพะมีจุดเด่นหลายประการ เช่น ให้ผลตอบแทนเร็ว ใช้ระยะเวลาสั้นกว่าการเลี้ยงโค แพะหากินเก่ง กินพืช ใบไม้ได้หลายชนิด แพะทนทานต่อทุกสภาพภูมิอากาศ แพะมีขนาดตัวเล็กใช้พื้นที่น้อย เลี้ยงง่าย และให้ผลผลิตคุ้มค่ากับการลงทุน

คุณพันธ์ ยืนยันว่า การเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราได้เป็นอย่างดี แม้จะมีปัญหาด้านราคายางพาราตกต่ำหรือปัญหาภัยแล้ง ก็ไม่มีผลกระทบต่อรายได้ในการเลี้ยงครอบครัวมากนัก