กยท. เดินหน้าตามนโยบายรัฐฯ โครงการควบคุมปริมาณการผลิต ส่งเสริมชาวสวนยางปลูกแทนด้วยพืชสำคัญทางเศรษฐกิจมุ่งเป้า 4 แสนไร่/ปี

การยางแห่งประเทศไทย เดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล โครงการควบคุมปริมาณการผลิต ส่งเสริมเกษตรกรชาวสวนยางโค่นยางเก่า  ต้นยางทรุดโทรมเสียหาย หรือต้นยางที่ให้ผลผลิตน้อย ปลูกแทนด้วยพืชสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยปรับเปลี่ยนชนิดพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่  ตั้งเป้าส่งเสริมปลูกแทนด้วยยางพารา  3 แสนไร่/ปี และพืชชนิดอื่นอีก 1 แสนไร่/ปี

ดร. ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ดำเนินการตามภารกิจการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทน ตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ด้วยการปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดี หรือไม้ยืนต้นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ กอปรกับทางรัฐบาลได้มีนโยบายโครงการควบคุมปริมาณการผลิต เพื่อลดพื้นที่การปลูกยาง สร้างสมดุลและปริมาณยางพาราภายในประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ กยท. จึงเดินหน้าส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนยางที่ปลูกยางแต่ได้รับผลผลิตน้อย ติดต่อรับสิทธิ์ขอทุนในการปลูกแทนได้ และที่สำคัญ กยท. จะเร่งให้ความรู้แก่เกษตรกรในการเลือกปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยเกษตรกรสามารถเลือกปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดี  หรือไม้ยืนต้นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง ซึ่งจะมีพนักงานของ กยท. ให้ข้อมูลแก่เกษตรกรในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด หรือเกษตรกรชาวสวนยางสามารถขอรับคำปรึกษาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กยท. ทุกสาขาทั่วประเทศ

ด้าน นายกฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาการผลิต การยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกแทนของ กยท. เกษตรกรสามารถขอรับทุนได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสมของพื้นที่ที่เกษตรกรมีอยู่ เช่น ต้นยางพาราที่ปลูกมีความทรุดโทรมเสียหาย หรือให้ผลผลิตน้อย แม้สวนยางจะได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว แต่ยังคงให้ผลผลิตน้อยอยู่ และต้นยางมีอายุเกิน 15 ปี เปิดกรีดแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือเกษตรกรที่เป็นผู้รับการปลูกแทนอยู่แล้วต้องการเปลี่ยนมาปลูกไม้ยืนต้นหรือพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอื่นๆ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนแทนยางพารา สามารถติดต่อขอรับสิทธิ์หรือขอคำปรึกษาได้ที่ กยท. จังหวัดหรือสาขาที่อยู่ในพื้นที่ของเกษตรกรเพื่อขอรับการส่งเสริมปลูกแทนได้ ในอัตราไร่ละไม่เกิน 16,000 บาท ต่อไร่