ราคาข้าวหอมมะลิพุ่ง 48.29% หวั่นปลอมปน-เตือนชาวนาระวังโดนมิจฉาชีพหลอก

สศก. คาด นาปี 2561/62 ผลผลิตข้าวเปลือกลดลง ราคาหอมมะลิพุ่ง 48.29% หวั่นเกิดการปลอมปน มิจฉาชีพหลอก ด้านรัฐพร้อมมาตรการอุ้มชาวนา 10 โครงการ

เตือนชาวนาระวังโดนหลอก – น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สำรวจและการคาดการณ์ผลผลิตข้าวนาปี ปีเพาะปลูก 2561/62 เพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการผลผลิตข้าวตามแผนข้าวครบวงจรได้อย่างถูกต้อง ในพื้นที่แหล่งผลิต 8 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และอุบลราชธานี ระหว่าง วันที่ 29 ต.ค.- 2 พ.ย. 2561 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ ภาครัฐ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย และภาคเกษตรกรร่วมลงพื้นที่

พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือประสบปัญหาภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง ทำให้ต้นข้าวแห้งตาย ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง เกษตรกรบางรายไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ จึงคาดว่าปริมาณข้าวหอมมะลิปีเพาะปลูก 2561/62 จะลดลง สวนทางกับราคาข้าวที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาข้าวที่สูงในขณะนี้อาจทำให้เกิดปัญหาการปลอมปนข้าวโดยนำข้าวสายพันธุ์อื่นมาผสมกับข้าวหอมมะลิ อาจทำให้คุณภาพของข้าวลดลงจึงขอให้เกษตรกรดูแลคุณภาพผลผลิตเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการปลอมปนข้าวในพื้นที่

นอกจากนี้ ขอให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสหลอกลวงเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยมีพฤติกรรมในการชักจูงว่าจะรับซื้อข้าวเปลือกในราคาสูงกว่าท้องตลาด แล้วจ่ายเงินเพียงบางส่วนหรือจ่ายเงินเชื่อ อาจทำให้ถูกฉ้อโกงได้ ดังนั้น เกษตรกรที่จะขายข้าวเปลือกโปรดตรวจสอบราคารับซื้อข้าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด สายด่วน 1569 ก่อนตัดสินใจขาย

ด้านราคาข้าว พบว่า ตั้งแต่ ม.ค.-พ.ย. 2561 ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์ดี โดยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ เฉลี่ยตันละ 15,105 บาท สูงขึ้น 48.29% และข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% เฉลี่ยตันละ 7,716 บาท สูงขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากข้าวไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับผลผลิตข้าวหอมมะลิ ปี 2561 ประสบปัญหาภัยแล้งในบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลง

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/62 ภาครัฐได้ดำเนินการ 2 ด้าน รวม 10 โครงการ ได้แก่ ด้านการผลิต จำนวน 7 โครงการ คือ 1. โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่ หรือนาแปลงใหญ่

2. โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ 3. โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง 4. โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแม่นยำสูง (Precision Farming) 5. โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ 6. โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข 43 เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร

และ 7. โครงการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง และด้านการตลาด จำนวน 3 โครงการ คือ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และ โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ซึ่งผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีตามที่ตั้งแปลงปี 2561/62 ช่วงปลูกของแต่ละจังหวัดตามกรอบระยะเวลาการขึ้นทะเบียน ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2561 ข้อมูล ณ วันที่ 2 พ.ย. 2561 มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนทั้งประเทศ จำนวน 4.229 ล้านครัวเรือน พื้นที่รวม 57.820 ล้านไร่ โดยมีรายชื่อเกษตรกรที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว จำนวน 4.058 ล้านครัวเรือน พื้นที่รวม 54.969 ล้านไร่ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งข้อมูลรายชื่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/62 ให้แก่ ธ.ก.ส. ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้ทยอยโอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรแล้ว