เตือน! กระทงขนมปัง ทำลายธรรมชาติมากที่สุด ทำจากโฟม ยังไม่ขนาดนี้!

ซึ่งในปีนี้ (2561) วันลอยกระทง คือวันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ย. ซึ่งตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี และในแต่ละที่ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะริมแม่น้ำ ทะเลสาบ ลำคลองต่างๆ ก็จะจัดงานลอยกระทงขึ้น เพื่อให้ทุกคนนำกระทงมาลอย ตามความเชื่อที่ว่า “เป็นการขอขมาพระแม่คงคา” เป็นต้น

โดยกระทรงก็จะมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ทำจากธรรมชาติ โฟม กระทงน้ำแข็ง ยันกระทงที่ทำจาก “ขนมปัง” และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า “กระทงแบบใด” ที่ในเมื่อลอยไปแล้ว จะส่งผลเสียต่อธรรมชาติและลำน้ำคูคลอง มากกว่ากัน

21 พ.ย. ผศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Jessada Denduangboripant แสดงความเห็นถึงกรณี “กระทงขนมปัง” ทำลายธรรมชาติอย่างไร? โดย อ.เจษ ระบุว่า

“กระทงขนมปัง” คือ กระทงที่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมที่สุด ควรหลีกเลี่ยงถ้าคิดจะลอย

ถ้ายังตัดใจเลิกลอยกระทงไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอให้หลีกเลี่ยงความเชื่อผิดๆ เรื่อง “ลอยกระทงขนมปังเพื่อสิ่งแวดล้อม” ครับ กระทงขนมปังเนี่ย ทำน้ำเน่าเสียมากกว่าอย่างอื่น เพราะกระทงขนมปัง มันเป็นสารอินทรีย์ ลงน้ำก็ยุ่ยและเน่าอย่างรวดเร็ว จะเก็บขึ้นแบบกระทงใบตองหรือโฟมก็ไม่ได้ ปลาก็ไม่ค่อยกิน แล้วถ้ากินไม่หมด มันก็จะกลายเป็นอาหารของเชื้อจุลินทรีย์ให้น้ำ ทำให้น้ำเน่าเสียหนักขึ้นอีก

ดร. ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า กระทงขนมปัง ถ้าใช้ลอยในแหล่งน้ำไม่ว่าจะเปิดหรือปิด ยกตัวอย่าง เช่น หากเป็นแหล่งน้ำปิดแล้วมีบ่อปลา ก็จะสามารถใช้ได้ จะมีประโยชน์ เพราะปลาสามารถกินขนมปังได้ แต่ถ้าเป็นแหล่งน้ำปิดแล้วไม่มีบ่อปลา จะอันตรายต่อสภาพน้ำ เพราะขนมปังจะเกิดการยุ่ย และทำให้น้ำมีค่าบีโอดี หรือค่าสารอินทรีย์สูง ไม่สมควรนำมาลอย

ดร.อาภา หวังเกียรติ ผู้ช่วยคณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า สำหรับกระทงขนมปังถึงจะย่อยสลายได้ แต่ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำเน่าได้ เพราะขนมปังเป็นประเภทสิ่งที่เป็นสารอินทรีย์ ซึ่งสารอินทรีย์ก็คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โดยธรรมชาติหากสารอินทรีย์พวกนี้ลงไปอยู่ในแม่น้ำ มันก็จะมีจุลินทรีย์พวกแบคทีเรียมากินเป็นอาหาร หากปริมาณของสารพวกนี้ไม่มากนักไม่ถือว่าส่งผลเสีย เพราะมันก็จะเปลี่ยนแป้งไปเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ หากใช้กระทงขนมปังลอยน้ำในปริมาณมาก กระบวนการนี้ก็จะมีดึงออกซิเจนในน้ำมาใช้ เมื่อใช้ออกซิเจนในน้ำมากไป จะกลายเป็นสาเหตุของน้ำเน่าเสียได้