ผู้เลี้ยงกุ้งอ่วม! กลางวันร้อนจัด กลางคืนเย็น กุ้งน็อกตาย ต้องยอมคว่ำบ่อจับขาย

เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามที่จังหวัดกาฬสินธุ์ กำลังได้รับความเดือดร้อน จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ตอนกลางคืนถึงเช้าหนาวเย็น ขณะที่กลางวันร้อนจัด ประกอบกับเขื่อนลำปาวปิดการส่งน้ำมานานกว่า 1 เดือน ทำให้เกิดน้ำเสีย กุ้งก้ามกรามปรับตัวไม่ทัน ส่งผลให้เริ่มน็อกตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้กุ้งก้ามกรามที่เคยขายดีมีเงินสะพัดกว่า 40 ล้านบาทในช่วงเทศกาลปีใหม่ขาดตลาด

(วันที่ 17 ธันวาคม 2559) จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของชาวบ้านในช่วงฤดูแล้ง ที่จังหวัดกาฬสินธุ์พบว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามกำลังประสบปัญหาในการบริหารจัดการในบ่อกุ้ง ทำให้กุ้งในบ่อที่กำหนดจับขายในหน้าเทศกาลปีใหม่เกิดการน็อกตายจำนวนมาก บางรายต้องระดมสูบน้ำจากบ่อสำรองเติมในบ่อเลี้ยงกุ้ง บางรายต้องคว่ำบ่อจับขายโดยไม่เลือกขนาดว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ซึ่งผู้เลี้ยงกุ้งระบุว่ายังดีกว่าที่จะปล่อยเลี้ยงต่อไปที่ต้องเสี่ยงกับการน็อกตาย ทำให้ขาดทุน

นางสมร ภูผาลาด เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง บ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในช่วงหน้าแล้งนี้ ที่สภาพอากาศแปรปรวน ตอนกลางคืนถึงเช้าหนาวเย็น ขณะที่กลางวันร้อนจัด ประกอบกับไม่มีน้ำเปลี่ยนถ่ายในบ่อกุ้ง เนื่องจากเขื่อนลำปาวยังปิดการส่งน้ำ ซึ่งได้ปิดมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อให้ชาวนาเกี่ยวข้าวและซ่อมแซมคูคลองที่ชำรุด จนถึงขณะนี้กว่า 1 เดือนยังไม่เปิดส่งน้ำ ทำให้น้ำในบ่อกุ้งเกิดการเน่าเสีย จึงเป็นสาเหตุให้กุ้งปรับตัวไม่ทันและเริ่มน็อกตายลงทุกวัน

นางสมรกล่าวอีกว่า เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าว ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามประสบความเดือดร้อน และยากลำบากในการบริหารจัดการ และต่างประสบปัญหาเดียวกันคือน้ำเสีย กุ้งน็อกตาย ต้องคอยระวังโดยหมั่นตรวจเช็กสภาพบ่อกุ้งตั้งแต่เช้ามืด ขณะที่ผู้เลี้ยงกุ้งหลายรายจับกุ้งออกขายก่อนกำหนด โดยไม่เลือกขนาดว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ดีกว่าจะปล่อยเลี้ยงต่อไปที่ต้องเสี่ยงกับการน็อกตาย และทำให้ขาดทุน สำหรับตนเลี้ยงกุ้ง 3 บ่อ กำหนดจับขายช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่เมื่อเกิดปัญหากุ้งเริ่มน็อกตาย จึงได้ขอแรงญาติพี่น้อง ช่วยกันจับกุ้งและสูบน้ำในบ่อสำรองเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้ง ก่อนที่จะน็อกตายทั้งบ่อ

ที่มา มติชนออนไลน์