ช่างซ่อมเครื่องยนต์ ปลูกอ้อยครั้งแรกได้ผลผลิต 25 ตัน ต่อไร่

“วร ชื่นสำนวน” มีอาชีพเป็นช่างซ่อมเครื่องจักรหนักอยู่ที่บ้านเทพนคร ตำบลเทพนคร อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร วันหนึ่งชาวนาที่ได้เลิกเช่าที่นาของเขา ช่างวรจึงนำที่ดิน จำนวน 25 ไร่ มาปลูกอ้อย

โดยอาศัยผู้ชำนาญในการปลูกอ้อย คือ “เปี๊ยกอ่าง” หัวหน้าโควต้าอ้อย มาปลูกอ้อยพันธุ์ LK 9211 โดยใช้เครื่องปลูกอ้อยแถวคู่ ระยะระหว่างแถวห่างกัน 1.5 เมตร และใส่ปุ๋ยอินทรีย์เม็ด 50 กิโลกรัม ต่อไร่

หลังปลูกอ้อยไปได้ 4 เดือน ช่างวรจึงมีโอกาสมาซ่อมเครื่องจักรในโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ตราพญานาคพ่นน้ำซึ่งอยู่ใกล้ๆ บ้าน เขาสังเกตเห็นว่าปุ๋ยอินทรีย์ที่โรงงานแห่งนี้ผลิตไม่เหมือนกับที่อื่นๆ เพราะมีการหมักปุ๋ยอินทรีย์เป็นกองใหญ่ๆ โดยใช้วัตถุดิบที่ดีหลายอย่าง ทางโรงงานนำปุ๋ยที่ผสมกันดีแล้วนำไปเข้ารางผสมปุ๋ยขนาด กว้าง 4 เมตร ยาว 80 เมตร จำนวนสองราง เครื่องผสมปุ๋ยที่เดินบนรางรถไฟจะค่อยๆ เดินพลิกกองปุ๋ยหมักที่สูงประมาณ 1.2 เมตร พลิกไปอย่างช้าๆ ใช้เวลาหนึ่งวัน นับเป็นเครื่องจักรที่ทันสมัย ที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

วร ชื่นสำนวน

การปลูกอ้อยที่ใช้ปุ๋ยเคมีโดยทั่วไป จะได้ผลผลิตประมาณ 12-15 ตัน ต่อไร่ ช่างวร ทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตราพญานาคพ่นน้ำชนิดผงกับไร่อ้อยของเขา โดยปรึกษากับ ลุงแก้ว ปันจุติ ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานของโรงงาน ก็ได้รับคำแนะนำว่า ควรใช้ปุ๋ยผงจุลินทรีย์หว่านลงไปที่โคนต้นอ้อย เพราะมีร่มเงาช่วยป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์จำนวนมากถูกแดดเผาตาย ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะทำหน้าที่ป้องกันโรคในดิน และตรึงไนโตรเจนจากอากาศลงเป็นปุ๋ยในดิน ฯลฯ ช่วยสร้างพลังชีวิตของดิน เขียวทน เขียวนาน เพิ่มผลผลิตได้

ช่างวรท้าทายลุงแก้วว่า ถ้าเขาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดผงไปหว่านที่กออ้อยอายุ 4 เดือนแล้ว ได้ผลผลิตถึง 20 ตัน ต่อไร่ เขาจะยอมรับว่าปุ๋ยอินทรีย์ของโรงงานมีคุณภาพดีตามที่ลุงแก้วบอก
ช่างวร สั่งปุ๋ยอินทรีย์ผง จำนวน 300 กระสอบ กระสอบละ 25 กิโลกรัม มาหว่านในไร่อ้อย

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ฝนตกลงมาอย่างหนักจนน้ำท่วมไร่อ้อยทั้งหมดจนต้องรีบสูบน้ำออกจากร่องระบายน้ำทั้งหมด พี่มะลิภรรยาช่างวรบ่นเสียดายเงินค่าปุ๋ยที่ลงทุนไปกว่าห้าหมื่นบาท เพราะเชื่อว่าปุ๋ยคงละลายน้ำออกจากไร่อ้อยไปแล้ว

เมื่อพี่มะลิมาดูในแปลงอ้อยก็พบว่า ปุ๋ยอินทรีย์ผงสีดำๆ ยังคงตกค้างอยู่ตามกออ้อย สิ่งที่น่าชื่นใจก็คือ ต้นอ้อยมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ลำต้นอ้อยอ้วนใหญ่สมบูรณ์และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยอะไรเพิ่มเติมอีก

เปี๊ยกอ่าง หัวหน้าโควต้ายอมรับว่าอ้อยแปลงนี้ที่ตนเองเป็นคนปลูกมากับมือตนเองมีความแตกต่างจากแปลงอื่นๆ คือ มีความสมบูรณ์ของต้นอ้อยทั้งลำใหญ่และยาว น้ำหนักดี สวยงามมาก เสมอกันทั้งแปลง จนผู้นำในวงการอ้อยต่างมาแวะชื่นชมแปลงอ้อยแปลงนี้มิได้ขาดสาย และยอมรับว่าเป็นสุดยอดแปลงอ้อยที่มีคุณภาพแปลงหนึ่งของจังหวัดกำแพงเพชร

เปี๊ยกอ่าง สอบถามกับช่างวรว่าใช้ปุ๋ยอะไร ทำไมอ้อยจึงงามไม่เหมือนคนอื่น ก็ได้รับคำตอบว่า ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผงตราพญานาคพ่นน้ำ จำนวน 300 กิโลกรัม ต่อไร่ เท่านั้น

เมื่อโรงงานน้ำตาลนครเพชรเปิดการหีบอ้อยในเดือนธันวาคม เปี๊ยกอ่างจึงได้ตัดสินใจตัดอ้อย อายุ 11 เดือน ในแปลงนี้ส่งโรงงานน้ำตาลนครเพชร ปรากฏว่าได้ผลผลิตอ้อยมากถึง 625 ตัน มีผลผลิตเฉลี่ย 25 ตัน ต่อไร่ มีค่าความหวานที่ 12 c.c.s.จึงได้ค่าตัวคูณ เพิ่มอีก 1,000 บาท ต่อตัน ซึ่งตามปกติอ้อยที่ตัดช่วงปลายปีหรือต้นปี มักมีค่าความหวานประมาณ 9-11 c.c.s. เท่านั้น

อ้อยตอปีที่สอง แตกหน่อใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 หน่อ ต่อกอ

การทำไร่อ้อยครั้งแรกของช่างวรถือว่า ประสบความสำเร็จมาก เพราะได้ผลผลิตอ้อยมากกว่าทั่วไปถึง 10 ตัน ต่อไร่ จึงได้เงินเพิ่ม 10,000 บาท ต่อไร่ เขาปลูกอ้อย 25 ไร่ เท่ากับได้เงินเพิ่มประมาณ 250,000 บาท ได้เงินคืนทุนพร้อมฟันกำไรก้อนโตในปีแรกทันที

ขณะที่ชาวไร่อ้อยโดยทั่วไปจะได้เงินทุนคืนในปีแรกเท่านั้น ช่างวรจึงตัดสินใจขยายพื้นที่ปลูกอ้อยเพิ่มอีก 75 ไร่ ในช่วงต้นปี 2558 ทำให้เขามีพื้นที่ปลูกอ้อยถึง 100 ไร่

หลังจากตัดอ้อยรุ่นแรก ช่างวรได้ใช้รถไถนา 24 แรงม้า ติดจอบหมุนตีกำจัดหญ้าระหว่างกออ้อย แล้วให้น้ำเข้าร่องเพียงครั้งเดียวโดยไม่มีการให้ปุ๋ยใดๆ เพิ่ม ปรากฏว่าอ้อยตอปีที่สองมีความสมบูรณ์ มีการแตกหน่อใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 หน่อ ต่อกอ

มีการตั้งเดิมพันเล็กๆ อีกครั้งว่า ตัดอ้อยครั้งหน้าจะได้ถึง 30 ตัน ต่อไร่ หรือไม่? ลุงแก้ว บอกว่า อ้อยแต่ละกอจะมีหน่อมากขึ้นอีกหากบำรุงด้วยปุ๋ยผงจุลินทรีย์ 500 กิโลกรัม ต่อไร่ เขาจะได้ผลผลิตถึง 35 ตันต่อไร่! ไม่เชื่อก็ต้องลองพิสูจน์กันดูครับ! สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “ตั้ม-อภิชา ด่านไพบูลย์” 093-584-6654 ผู้จัดการ หจก. โปรบิซิเนส บุญทรงสุข