กรมการข้าว ตั้งเป้าขยายถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต ภายในศูนย์วิจัยข้าวกว่า 50 แห่ง ทั่วประเทศ

ปลัดเกษตรฯ เปิดใช้ถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต ภายในศูนย์วิจัยข้าวหนองคาย ตามมาตรการเร่งรัดการใช้ยางพารา พร้อมตั้งเป้าขยายผลกว่า 50 แห่ง ทั่วประเทศ

นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดใช้ถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต ตามมาตรการเร่งรัดการใช้ยางพารา โครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐของกรมการข้าว ณ ศูนย์วิจัยข้าวหนองคาย อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางพารากว่า 4 ล้านตัน/ปี และกว่า 90% ส่งออกต่างประเทศ ทำให้ประสบปัญหาราคาผันผวน จนปัจจุบันมีราคาตกต่ำลงอย่างมากเมื่อเปรียบราคาต้นทุนที่รัฐบาลประเมินไว้

รัฐบาลจึงมีนโยบายส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ โดยการแปรรูปยางพาราให้เป็นผลิตภัณฑ์หรือใช้เป็นส่วนผสมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมในการทำถนนลาดยาง เพื่อสร้างสมดุลของราคายางพาราในตลาด ควบคู่กับการออกมาตรการต่างๆ มารองรับ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราและลูกจ้างในสวนยางให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ถึงแม้ว่า กรมการข้าว จะมีภารกิจดูแลชาวนาทั่วประเทศ แต่ก็ยังมีส่วนร่วมในการทำโครงการที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการเร่งรัดการใช้ยางพาราภายในประเทศ และดำเนินการจนประสบความสำเร็จ และมุ่งหวังว่าหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินโครงการนี้ต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ด้าน ดร. กฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการข้าวมีความภาคภูมิใจที่เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากยางพาราที่ผลิตโดยพี่น้องชาวสวนยาง นอกจากถนนเส้นนี้แล้ว ในปี 2549 กรมวิชาการเกษตร ยังได้ร่วมกับกรมการข้าว ผลักดันให้ศูนย์วิจัยข้าวแพร่ ซึ่งเป็นหน่วยงานของกรมการข้าวนำร่องทำผิวถนนลาดยางผสมยางพารา ด้วยถนนที่มีความกว้าง 3.5 เมตร หนาไม่น้อยกว่า 3 เซนติเมตร ความยาว 2,000 เมตร พื้นที่ประมาณ 6,400 ตารางเมตร โดยใช้ส่วนผสมของยางพารา 6% ในการลาดยางซ่อมผิวถนน โดยถนนดังกล่าวมีอายุการใช้งานนานถึง 10 ปี แต่ยังมีสภาพดี

กรมการข้าว จึงมีความตั้งใจที่จะขยายผลการซ่อมแซมถนนในศูนย์วิจัยข้าว และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกว่า 50 แห่ง ให้เป็นถนนลาดยางพาราเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องชาวสวนยางและประเทศให้มากที่สุด

ทั้งนี้ การสร้างถนนที่มีส่วนผสมของยางพารามีประโยชน์หลายประการ เช่น เป็นถนนที่มีคุณภาพดี เนื่องจากทำให้ผิวถนนมีความลื่นลดลง มีส่วนช่วยลดอุบัติเหตุและอัตราการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งอายุการใช้งานยาวนานกว่าถนนยางแอสฟัลท์หรือยางมะตอยธรรมดา ทำให้ภาครัฐประหยัดงบประมาณในการซ่อมแซมเป็นจำนวนมาก ลดปัญหาการจราจรติดขัดและอุบัติเหตุระหว่างการซ่อมบำรุงผิวทาง

และที่สำคัญคือประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางพารา การใช้ประโยชน์จากยางพาราภายในประเทศจะช่วยทำให้พี่น้องชาวสวนยางมีรายได้และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ เกษตรกรจังหวัดหนองคาย ยังประกอบอาชีพทำสวนยางรองจากการทำนา มีพื้นที่สวนยาง ประมาณ 255,000 ไร่ ผลผลิตรวม 64,700 ตัน

กรมการข้าว จึงได้ดำเนินการก่อสร้างถนนลาดยางผิวทางพาราแอสฟัลติกคอนกรีต ภายในศูนย์วิจัยข้าวหนองคาย โดยแขวงทางหลวงชนบทหนองคายให้ความร่วมมือในการออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง มีระยะทาง 1,950 เมตร กว้าง 4 เมตร หรือคิดเป็นพื้นที่ 7,800 ตารางเมตร โดยผสมยางพารา 5% ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 90 วัน นับเป็นความภาคภูมิใจของพี่น้องชาวสวนยางพาราที่มีส่วนร่วมในการผลิตน้ำยางเพื่อสร้างถนนเส้นนี้ด้วยเช่นกัน