ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
---|---|
เผยแพร่ |
ปลานิล เป็นปลาน้ำจืดที่ได้รับความนิยมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เพราะเนื้อปลามีรสชาติที่อร่อยราคาขายไม่แพงมาก และหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด จึงทำให้ยังมีคนนิยมบริโภคเป็นที่ต้องการของตลาด ส่งผลให้มีการเลี้ยงปลานิลกันอย่างแพร่หลายเพื่อเป็นอาชีพ
การที่จะได้ปลานิลให้เป็นปลาเนื้อที่มีคุณภาพนั้น สิ่งที่สำคัญขาดเสียไม่ได้คือ เรื่องของลูกพันธุ์ปลานิล ต้องมีการเพาะพันธุ์ที่ดี พร้อมทั้งมีการลดต้นทุนในเรื่องของการเลี้ยงเข้ามาช่วยอีกหนึ่งช่องทาง ก็จะส่งผลให้การเลี้ยงปลานิลสร้างผลกำไรให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงได้อย่างยั่งยืน
คุณจิรทีปต์ คงทอง อยู่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ที่ 4 ตำบลหนองตีนก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่เพาะพันธุ์ปลานิลที่มีคุณภาพ ทำให้ลูกพันธุ์ปลาที่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด เกิดเป็นรายได้ให้กับคุณจิรทีปต์มากว่า 20 ปีทีเดียว โดยมีการผลิตเป็นแบบปลานิลแปลงเพศและปลานิลแบบปกติที่ลูกค้าสามารถนำไปเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์ต่อไปได้

จากผู้เลี้ยงปลาเนื้อ
สู่ผู้ผลิตลูกพันธุ์ปลานิลคุณภาพ
คุณจิรทีปต์ เล่าให้ฟังว่า ผู้ที่ริเริ่มมาดำเนินการประกอบอาชีพทางการประมง คือ คุณแม่ โดยในช่วงแรกนั้นยึดการเลี้ยงเป็นปลาเนื้อเพื่อส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้า เมื่อเลี้ยงมาได้สักระยะปลาที่อยู่ภายในบ่อเลี้ยง เริ่มมีการขยายพันธุ์กันเองออกมาเต็มบ่อ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณแม่ของคุณจิรทีปต์นำลูกพันธุ์ปลาที่ได้นำมาใช้ทดแทน ไม่ต้องซื้อลูกพันธุ์ปลาจากที่อื่นเข้ามาใช้ภายในฟาร์ม และนำส่วนที่เหลือออกขายให้กับเกษตรกรรายอื่น จึงเกิดเป็นรายได้หลากหลายช่องทาง
“ช่วงนั้นที่บ้านก็เน้นเลี้ยงปลานิลเป็นหลัก มีปลาชนิดอื่นด้วย แต่พอคิดที่จะเพาะพันธุ์เพื่อเป็นการค้า ก็เลือกเป็นปลานิลที่จะเพาะพันธุ์ โดยรวมแล้วปลานิลนี่ถือว่าเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ลูกค้าสมัยนั้นนิยมเลี้ยงปลานิล และนำปลาชนิดอื่นๆ เข้ามาเลี้ยงผสมกันไป จึงทำให้ที่บ้านจากเป็นผู้เลี้ยงปลาเนื้อส่งขาย ก็ปรับเปลี่ยนมาเพาะพันธุ์ปลานิลแทน ทำมาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้” คุณจิรทีปต์ เล่าถึงที่มา
ช่วงแรกก่อนที่จะลงมือทำให้เกิดความชำนาญ มีการศึกษาองค์ความรู้กับสำนักงานประมงในพื้นที่ และเรียนรู้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง พร้อมทั้งทดลองทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อประสบผลสำเร็จและมีตลาดแน่นอนจึงขยับขยายไปเรื่อยๆ เพื่อให้จำนวนลูกพันธุ์ปลานิลที่ผลิตได้มีเพียงพอต่อความต้องการของตลาด

ใช้พ่อแม่พันธุ์ปลานิล
อายุอย่างต่ำ 6 เดือน ขึ้นไป
การเพาะพันธุ์ปลานิลให้ได้คุณภาพตามที่ตลาดต้องการนั้น คุณจิรทีปต์ บอกว่า ใช้พ่อแม่พันธุ์ที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยพ่อแม่พันธุ์เป็นปลาที่เลี้ยงไว้เดิมอยู่แล้ว เมื่อต้องการใช้สำหรับผสมพันธุ์ให้ได้ลูกปลาที่ดีมีคุณภาพออกขาย จะคัดเลือกปลานิลที่มีทรงสวยทรงดีมาเป็นพ่อแม่พันธุ์
ซึ่งบ่อสำหรับเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ เป็นบ่อขนาด 1 ไร่ โดยปล่อยแม่พันธุ์ อยู่ที่ 1,000 ตัว ต่อพ่อพันธุ์ 300 ตัว อาหารที่ให้กินเป็นรำข้าวส่วนใหญ่ และถ้าต้องการเสริมโปรตีนให้กับปลา จะมีการผสมปลาป่นเข้ามาเสริมด้วยอีกหนึ่งช่องทาง ให้กิน 2 เวลา ในช่วงเช้าและเย็น

“การเพาะพันธุ์ลูกปลาในฟาร์มเรามี 2 แบบ ถ้าเป็นลูกปลาธรรมดาไม่ได้ผ่านการแปลงเพศ ก็จะลากอวนหรือช้อนลูกปลาขึ้นมาทุก 15 วันครั้ง และนำลูกปลานิลที่ได้มาคัดไซซ์อีกครั้ง มีทั้งหมด 4 ขนาด คือ ไซซ์จิ๋ว ไซซ์เล็ก ไซซ์กลาง และไซซ์ใหญ่ ซึ่งลูกปลาชุดนี้คัดแล้วก็สามารถส่งขายได้ทันที ส่วนลูกปลาอีกแบบคือ การนำมาแปลงเพศ จะเก็บไข่ทุก 7 วัน จากนั้นนำไข่มาฟักให้เป็นตัว และให้กินอาหารที่ผสมฮอร์โมนเพื่อเป็นการแปลงเพศต่อไป” คุณจิรทีปต์ บอก
เมื่อลูกปลานิลฟักออกจากไข่แล้ว จะนำปลาทั้งหมดไปอนุบาลอยู่ในกระชัง ขนาด 2×4 เมตร ในอัตราส่วน 20,000 ตัวต่อกระชัง โดยใส่ฮอร์โมนแปลงเพศทุก 2 ชั่วโมงครั้ง พร้อมกับผสมฮอร์โมนกับอาหารให้กินตั้งแต่เช้าไปจนถึงเย็น เป็นเวลาทั้งหมดถึง 21 วัน เคล็ดลับในการแปลงเพศคือ ต้องมีความต่อเนื่องของฮอร์โมนและเวลาต้องตรงไม่คลาดเคลื่อน ลูกปลานิลก็จะเปลี่ยนเพศเป็นตัวผู้และได้ขนาดไซซ์ที่พร้อมส่งขายให้กับลูกค้าได้
ส่วนในเรื่องของโรคที่จะเกิดขึ้นกับลูกปลานั้น คุณจิรทีปต์ บอกว่า ยังไม่มีโรคที่เกิดขึ้นกับปลาจนเกิดความเสียหาย เพราะการอนุบาลลูกปลานิลทำเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ส่วนในเรื่องของสภาพบ่อที่ใช้เลี้ยงมีการจัดการและดูแลเป็นอย่างดี จึงไม่มีเชื้อโรคสะสมบวกกับน้ำมีความสะอาดก็ทำให้ปลอดภัยจากโรคต่างๆ

ส่งขายลูกปลานิล
ให้กับลูกค้าได้ทั่วประเทศ
ในเรื่องของการตลาดขายลูกพันธุ์ปลานิลนั้น คุณจิรทีปต์ เล่าว่า ด้วยประสบการณ์ของการเลี้ยงปลาเนื้อมาก่อน และช่วงที่เริ่มเพาะพันธุ์ปลานิลใหม่ๆ มีลูกค้าเข้ามาติดต่อซื้ออยู่เรื่อยๆ จึงทำให้การตลาดสามารถส่งขายได้อยู่ตลอดเวลา โดยราคาขายแตกต่างกันไปตามขนาดไซซ์ของลูกปลา ส่วนปลานิลแปลงเพศจะขายอยู่ราคาเดียว เพราะมีขนาดไซซ์อยู่เพียงไซซ์เดียว

“ราคาลูกปลาที่ไม่ได้ผ่านการแปลงเพศหรือทำหมัน ราคาก็จะลดหลั่นกันไปตามขนาดไซซ์ เริ่มจากไซซ์ใหญ่ ตัวละ 40 สตางค์ และไซซ์จิ๋วอยู่ที่ 10 สตางค์ ส่วนปลานิลที่ผ่านการแปลงเพศ ราคาก็ยืนพื้นอยู่ที่ ตัวละ 30 สตางค์ ซึ่งราคาขายสามารถขึ้นลงได้ตามกลไกตลาด โดยลูกค้าที่เข้ามาติดต่อซื้อ ก็เดินทางมาจากทั่วประเทศ มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ เพื่อนำไปเลี้ยงเป็นการค้า บางช่วงที่ผลิตไม่ทันก็จะจองคิวกันไว้ ก็ถือว่ายังสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี” คุณจิรทีปต์ บอก

ซึ่งลูกค้าที่เป็นเกษตรกรมือใหม่ที่อยากจะนำปลานิลไปเลี้ยงเป็นการค้า คุณจิรทีปต์จะมีการสอบถามลูกค้าก่อนเสมอว่าต้องการเลี้ยงทางด้านใด จะเน้นให้ข้อมูลและสอบถามการเลี้ยงและพื้นที่ของลูกค้าก่อน โดยไม่คิดที่จะขายลูกพันธุ์ปลาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความใส่ใจในทุกรายละเอียดให้ลูกค้าเลี้ยงได้ประสบผลสำเร็จ เพื่อที่อาชีพการเลี้ยงปลานิลมีความยั่งยืนต่อไปด้วย
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะะเลี้ยงปลานิลเพื่อประกอบเป็นอาชีพสร้างรายได้ คุณจิรทีปต์ แนะนำว่า การเลี้ยงปลานิลไม่ใช่เรื่องที่ยาก เพราะปลานิลเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย กินอาหารง่าย แต่สิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องมีความสนใจมากที่สุดคือ เรื่องการประหยัดต้นทุนการเลี้ยง โดยหาแหล่งของอาหารที่มีอยู่ภายในท้องถิ่น เพื่อให้การเลี้ยงสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ดี ก็จะทำให้การเลี้ยงปลานิลมีผลกำไรที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้ไปพร้อมกับความสำเร็จอย่างแน่นอน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณจิรทีปต์ คงทอง หมายเลขโทรศัพท์ 081-374-6014, 081-744-7946
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกวันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2562