หนุ่มชัยนาท ปลูกข้าวเวสสันตะระ (เหนียวเล้าแตก+หอมมะลิ) ปลูกโดยวิธีธรรมชาติ ผลผลิตไม่พอจำหน่าย

อำเภอสรรคบุรี เป็นพื้นที่รับน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท โดยทั่วไปจึงอุดมสมบูรณ์ ที่เห็นอยู่นอกจากนาข้าวแล้วยังมีแปลงปลูกส้มโอขาวแตงกวา รวมทั้งพืชเกษตรอื่นๆ

คุณเสบียง มั่นคงจรัลศรี ปัจจุบันอายุ 54 ปี จากบ้านเกิดเมื่อปี 2525 เข้าไปทำงานกรุงเทพฯ เขากลับบ้านเมื่อ ปี 2552 มาปักหลักทำเกษตรอยู่ บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 10 ตำบลเที่ยงแท้ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

“จบ ม.6 เข้าไปทำงานบริษัทในกรุงเทพฯ จากนั้นทำงานอีกหลายแห่ง ต่อมาถึงเวลาต้องกลับบ้าน ก็มาทำนา แต่ไม่ได้ทำแบบคนอื่นเขา เพราะเรามีเพื่อน มีกลุ่ม ได้เรียนรู้วิธีทำนา รวมถึงพันธุ์พืชที่มีประโยชน์ เราไม่ได้ทำนาอย่างเดียว” คุณเสบียง บอก

รอบๆ นาของคุณเสบียง ชาวนาส่วนใหญ่ ทำการเกษตรสมัยใหม่ ใช้ปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะสารกำจัดศัตรูพืช มีตั้งแต่วัชพืช แมลงศัตรูพืช โรคพืช นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของปุ๋ยเคมี สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะหากใช้อย่างเหมาะสมแล้วจะปลอดภัย แต่คุณเสบียงเลือกผลิตแบบวิธีธรรมชาติ

คุณเสบียง มั่นคงจรัลศรี

จริงๆ แล้วการผลิตแบบธรรมชาติ ต้องย้อนไปโน่นเลย 50-60 ปีที่แล้ว

แต่คุณเสบียงนำมาใช้กับยุคปัจจุบัน

ข้าวพันธุ์เด่น “เวสสันตะระ”

คุณเสบียง เรียนรู้การปลูกข้าวมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่เขานำมาผลิตคือ ข้าวพันธุ์เวสสันตะระ ที่ผสมและคัดเลือกพันธุ์โดยตุ๊หล่าง หรือ คุณแก่นคำกล้า พิลาน้อย ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รวบรวมและศึกษาพันธุ์ข้าวมากกว่า 100 พันธุ์ ที่จังหวัดยโสธร กลุ่มของตุ๊หล่าง มีการผลิตข้าวรู้จักกันดีในกลุ่มข้าวคุณธรรม มีแนวทางปฏิบัติเฉพาะกลุ่ม ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ผลิต ผู้บริโภคข้าวก็ได้รับสิ่งที่ดีนั้นด้วย

ข้าวเวสสันตะระ มีความเป็นมาอย่างไร มีคุณสมบัติโดดเด่นแค่ไหน

ตุ๊หล่าง พยายามแก้ไขปัญหาผลผลิตข้าวในนาของตนเอง ซึ่งได้ผลผลิตต่อไร่น้อย โดยนำข้าวพื้นเมืองพันธุ์ “เหนียวเล้าแตก” เป็นพ่อ ผสมกับพันธุ์แม่ “ขาวดอกมะลิ 105” (หอมมะลิ 105) งานคัดเลือกใช้เวลานานถึง 8 ปี จึง “นิ่ง” และสามารถเผยแพร่ได้

ผลที่ออกมา ได้ข้าวเจ้า มีกลิ่นหอมใบเตยเหมือนแม่ คือ หอมมะลิ 105 ส่วนผลผลิตสูงเหมือนพ่อ คือ เหนียวเล้าแตก

ข้าวในแปลง

ลักษณะเด่น…ข้าวมีสีเหลืองนวล มีวิตามินบีรวม ช่วยฟื้นฟูแขนขาอ่อนแรง วิตามินบี 1 บี 2 ป้องกันโรคเหน็บชา โรคเส้นประสาทหลงลืม อุดมด้วยธาตุสังกะสี ช่วยพัฒนาระบบสืบพันธุ์ ช่วยสร้างตัวอสุจิให้แข็งแรง มีธาตุทองแดงช่วยสร้างเม็ดสีเมลานิน และธาตุเหล็ก ช่วยพัฒนาสมองในเด็ก

“เพราะคุณสมบัติเด่น คือ ผลผลิตสูง รสชาติดีกว่าพ่อแม่ รวมทั้งเป็นข้าวที่สวย ผู้ผสมและคัดเลือกจึงตั้งชื่อว่า ‘เวสสันตะระ’ ทางอีสานเรียกว่า ‘พระเหวด’ หรือพระเวสสันดร นั่นเอง” คุณเสบียง พูดถึงที่มาของชื่อ

ผลิตแบบธรรมชาติ

คุณเสบียง บอกว่า ตนเองปลูกข้าวโดยวิธีธรรมชาติ

พื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่เศษ เขาทำคันนาค่อนข้างใหญ่และกว้าง จากนั้นปลูกพืชยืนต้น อย่าง มะพร้าว มะม่วง แต่ที่มากหน่อยคือ อ้อยคั้นน้ำสุพรรณบุรี 50

ผลผลิต ปี 2561

สาเหตุที่ปลูกพืชบนคันนานั้นเพราะต้องการไม่ให้สารเคมีกระจายมายังแปลงนาของเขา ถึงแม้กันได้ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ช่วยได้มาก ผลพลอยได้คือ ผลผลิต โดยเฉพาะอ้อยคั้นน้ำ วันที่ไปพูดคุยและขอข้อมูล คุณเสบียงคั้นแช่เย็นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ลองดื่มแล้วหวานชุ่มคอชื่นใจดีมาก

การสร้างคันนาหรือคันดิน เขาขุดดินจากพื้นนา ทำให้เกิดพื้นที่น้ำ จึงมีความเหมาะสมสำหรับเลี้ยงปลา เจ้าของบอกว่า ปล่อยปลาไปหลายชนิด ปลาธรรมชาติก็มาอาศัยอยู่มาก

คันดินหรือคันนา ทำให้เจ้าของมีพื้นที่ปลูกพืชเพิ่มเติมหลายชนิด ซึ่งสร้างรายได้เสริมอย่างดี โดยเฉพาะพืชผัก

“ผมไม่เผาฟาง ไม่ใช้สารเคมี ศัตรูจำพวกแมลงมากินบ้างก็ช่วงหัวมัน…หญ้าขึ้นไม่ใช้ยาพ่น ผมจะเดินลุยเก็บ”เจ้าของยืนยัน

ข้าวเวสสันตะระ เป็นข้าวนาปี อายุ 120-135 วัน แล้วแต่ช่วงแสง ปี 2561 คุณเสบียง เก็บเกี่ยวข้าว วันที่ 21 พฤศจิกายน เขาบอกว่า หากจะปลูกอีกครั้ง ต้องนาปีครั้งใหม่ เริ่มปี 2562…ดังนั้น เมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จ เขาจะไม่เผาฟาง แต่จะหมักฟางให้ย่อยสลาย จากนั้นจะปลูกข้าว กข 43 เมื่อเก็บเกี่ยวข้าว กข 43 จึงพักแปลง เพื่อรอปลูกข้าวเวสสันตะระฤดูกาลใหม่

ผลผลิตไม่สูง

ผลผลิตไม่พอจำหน่าย

คุณเสบียง ปลูกข้าวเวสสันตะระหลายรอบแล้ว บนพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ 2 ถังครึ่ง ซึ่งปริมาณลดลงเรื่อยๆ เพราะหลังๆ ทำนาดำ

ช่วงข้าวออกรวง

เขาบอกว่า ผลผลิตที่ได้จากการเก็บเกี่ยวในพื้นที่ 6 ไร่ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา 2,140 กิโลกรัม ถือว่าไม่มาก หากเปรียบเทียบกับแหล่งดั้งเดิม เจ้าตัวบอกว่า ต้องอาศัยเวลาในการปรับตัว อีกทั้งเขาผลิตแบบธรรมชาติจริงๆ

ข้าวเปลือกที่ได้ 1,000 กิโลกรัม เมื่อนำไปสี จะได้ข้าวสาร 600 กิโลกรัม โรงสีที่สีข้าวธรรมชาติ จะมีเครือข่ายในจังหวัดชัยนาท อยู่ไม่ไกลจากบ้านคุณเสบียง ข้าวที่มีอยู่เขาไม่นำไปสีร่วมกับโรงสีข้าวทั่วไป

“แรกๆ ขายผลผลิตปีชนปี ต่อมาคนรู้จักมากขึ้น ขายหมดเร็ว ผลผลิตไม่พอขาย ที่ขายอยู่กิโลกรัมละ 120 บาท ข้าวตันหนึ่งมีรายได้ราว 6 หมื่นบาท รวมๆ ก็พออยู่ได้ ส่วนหนึ่งน้องสาวนำวัตถุดิบไปแปรรูปจำหน่ายที่ปทุมธานี… ขายข้าวเป็นหลัก อย่างอื่นที่แปรรูปมี สบู่ แชมพู น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สครับฟักข้าว…ผู้ซื้อมาจากทั่วไป เชียงใหม่ ภูเก็ต ทางอีสานก็มี ส่งสะดวกมาก”

คุณเสบียง บอก และพูดถึงรายได้ว่า

พร้อมจำหน่าย

“ทำงานไม่หยุด แต่ก็ดูว่า ร้อนเราก็เข้าทำงานในร่ม ถอนหญ้าใต้ร่มไม้ แปรรูปสมุนไพร รายได้พออยู่ได้ บางครั้งไม่มีเงิน แต่ไม่เคยหมด เหมือนจะไม่มีเงิน เดี๋ยวออเดอร์ข้าวมาแล้ว ก็ได้เงินมาทำทุนต่อ…เรื่องครอบครัวเคยมี ตอนนี้แยกทางกันแล้ว เลยทำงานคนเดียว แม่ไปอยู่กับน้องสาวที่ปทุมธานี”

หลังจากพูดคุยขอข้อมูล คุณเสบียง ได้ยกหม้อข้าวที่หุงข้าวเวสสันตะระ พาไปชิมข้าวที่ร้านอาหารในท้องถิ่น ได้ชิมแล้วข้าวเขานุ่ม มีกลิ่นหอม เพราะเป็นลูกหอมมะลิ มีความหนึบ เพราะมีพ่อเป็นข้าวเหนียว

หลังกินข้าว คุณเสบียง ยังให้น้ำอ้อยสุพรรณบุรี 50 ให้ไปดื่มเป็นเสบียงระหว่างทางอีกด้วย การเดินทางไกลที่ร้อนระอุ จึงชุ่มฉ่ำ และรื่นรมย์ถึงกรุงเทพฯ

ผู้อ่านท่านใดต้องการมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนที่รู้จัก คนที่เคารพนับถือ ข้าวสารผลิตแบบธรรมชาติ “เวสสันตะระ” เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ หรือจะซื้อมากินเองก็ได้

สนใจสอบถามได้ที่ คุณเสบียง มั่นคงจรัลศรี โทร. 095-912-9832 FB:เสบียง มั่นคงจรัลศรี หากเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป สอบถามได้ที่ คุณยลวรรณ มั่นคงจรัลศรี (น้องสาวคุณเสบียง) โทร. 084-642-2370

ตรงนี้เลี้ยงปลา
น้ำอ้อยสุพรรณบุรี 50
ข้าวกล้อง “เวสสันตะระ” หอม นุ่ม หนึบ
สบู่

…………………………….

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน, มติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น!  คลิกดูรายละเอียดที่นี่