กยท. ยันส่วนผสมทำถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ใช้ได้ทั้งน้ำยางสดและน้ำยางข้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของวิธีการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละท้องถิ่น

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ชี้แจงประเด็นกระบวนการนำยางพาราไปเป็นส่วนผสมในการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ด้วยยางธรรมชาติสามารถทำได้กับทั้งน้ำยางสดและน้ำยางข้น โดยนำไปผสมสารผสมเพิ่ม (NR-Preblend) จากโรงงานผู้ผลิตหรือผสมที่หน้างาน ให้ได้ตามสูตรที่คู่มือกรมทางหลวงกำหนด ซึ่งขึ้นอยู่กับความสะดวก เหมาะสมของวิธีการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละท้องถิ่น

นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ กรรมการการยางแห่งประเทศไทย รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวชี้แจงว่า การทำถนนยางพาราซอยด์ซีเมนต์ในโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตรของรัฐบาล ทางกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้จัดทำคู่มือการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ (ยางพารา) สำหรับงานท้องถิ่น ออกมาเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันในแนวทางปฏิบัติ โดยในส่วนของการนำยางพาราไปใช้ในการทำถนน ด้วยการนำน้ำยางสดหรือน้ำยางข้นผสมกับสารผสมเพิ่ม (NR-Pleblend) เพื่อปรับปรุงคุณภาพ และปรับเปลี่ยนคุณสมบัติบางประการของน้ำยางพาราให้มีคุณสมบัติทางวิศวกรรมกำหนด สำหรับในส่วนของราคากลางที่กรมบัญชีกลางออกมาทั้ง 2 ฉบับ คือ หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 4 ซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องของกระบวนการและราคา โดยประมาณการราคา ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2561 ไว้ดังนี้ สำหรับหลักเกณฑ์ฯ ฉบับที่ 2 คำนวณจากราคาน้ำยางข้น FOB และมีกระบวนการทำถนนแบบผสมในโรงผสม เมื่อทดลองคิดราคาตามมาตรฐานของกรมบัญชีกลางอยู่ที่ประมาณ 1.23 ล้านบาท ต่อกิโลเมตร (กว้าง 6 เมตร ระยะทาง 1 กิโลเมตร) และสำหรับหลักเกณฑ์ฯ ฉบับที่ 4 คำนวณจากราคาของน้ำยางสด ตามประกาศราคาของการยางแห่งประเทศไทย และขั้นตอนการทำถนนเป็นวิธีการแบบใช้รถเกลี่ย (Motor Glade)  เมื่อทดลองคิดราคาตามมาตรฐานของกรมบัญชีกลางอยู่ที่ประมาณ 1.12 ล้านบาท ต่อกิโลเมตร (ถนนกว้าง 6 เมตร ยาว 1 กิโลเมตร) ซึ่งราคาที่แท้จริงนั้นขึ้นอยู่กับการประมูลงานในแต่ละท้องที่ และการจัดซื้อจัดจ้างทำถนนยางพาราซอยด์ซีเมนต์ ก็ขึ้นอยู่กับส่วนปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ว่าจะสะดวกดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในรูปแบบใด

“ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่ผลิตน้ำยางผสมสารเคมี หรือผู้ผลิตน้ำยาที่ใช้ในการผสมกับน้ำยางเพื่อใช้ในการทำถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ขอให้มาแจ้งรายละเอียดกับทาง กยท. โทร. 086-389-4240 ฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยาง เพื่อที่ทาง กยท. จะส่งรายชื่อบริษัทผู้ผลิตน้ำยางดังกล่าวให้กับผู้ใช้งานโดยตรง (อบจ. อบต. หรือหน่วยงานที่ต้องการทำถนนพาราซอยด์ซีเมนต์)” นายเยี่ยม กล่าวทิ้งท้าย