ตลาดพร้อมรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา เดินหน้าขยายพื้นที่เป็น 37 จังหวัดทั่วประเทศ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดพิธีลงนาม MOU โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ภาคเอกชนขานรับซื้อจากเกษตรกรทุกอำเภอที่เข้าร่วมโครงการ เผยความสำเร็จโครงการเป็นที่น่าพอใจ ขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 37 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมสนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกรทุกรายที่มีความประสงค์ ยันข้าวโพดหลังฤดูทำนาดูแลเสถียรภาพด้านราคาข้าวได้

นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยในระหว่างพิธีลงนามความร่วมมือโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา โดยมีนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี ณ กรมชลประทาน สามเสน ว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายพื้นที่ดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา เพื่อให้เกษตรกรที่มีความสนใจ มีพื้นที่ที่มีศักยภาพในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างทั่วถึง จากพื้นที่เป้าหมาย 2 ล้านไร่ ใน 33 จังหวัด เพิ่มเติมอีก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย มุกดาหาร ยโสธร และอำนาจเจริญ ซึ่งสมาคมประกันวินาศภัย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

มีความพร้อมและยินดีที่จะสนับสนุนในการเข้าร่วมโครงการฯ รวมเป็น 37 จังหวัด ขณะนี้มีเกษตรกร แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ 127,002 ราย จำนวน 1,080,924.5 ไร่ เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 96,521 ราย จำนวน 812,468.50 ไร่ และมีเกษตรกรแจ้งความต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุนแล้ว 5 หมื่นราย (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2561) โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะไม่มีการนำสินเชื่อค้างชำระของเกษตรกรมาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาการกู้ยืมเงินในโครงการฯนี้ตามนโยบายของรัฐบาล

สำหรับการรับซื้อผลผลิตนั้น ได้มีการประสานความร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และภาคเอกชน เพื่อรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรโดยตรงในทุกอำเภอที่มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายการตลาดนำการผลิต การบริหารจัดการสินค้าเกษตรเพื่อสร้างสมดุลทางการตลาด การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร การเชื่อมโยงการผลิตการตลาดภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน จึงได้จัดทำบันทึกความร่วมมือโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ขึ้นระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เป็นผู้ร่วมลงนาม โดยสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย จะให้ความร่วมมือในการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ด้วยราคาพิเศษ หรือรายการส่งเสริมการขายในรูปแบบอื่นในร้านที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้อง

ส่วนสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย จะให้ความร่วมมือในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโครงการที่เกรดคุณภาพเบอร์ 2 ความชื้นร้อยละ 14.50 ในราคาไม่ต่ำกว่า 8.29 บาท/กิโลกรัม ณ โรงงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล  ลดทอนตามชั้นคุณภาพ และระยะทางอย่างเป็นธรรมแก่เกษตรกร โดยกำหนดมาตรฐานในการรับซื้อเดียวกัน ซึ่งมีตารางหักความชื้นของกระทรวงพาณิชย์เป็นเกณฑ์ เพื่อมุ่งหวังให้เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเกษตรกรรม เกิดความมั่นใจถึงตลาดรับซื้อ ก่อให้เกิดรายได้และอาชีพที่มั่นคง ส่งผลให้ผลผลิตมีความสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เกิดเสถียรภาพในการผลิตสินค้า และลดการพึ่งพาจากภายนอกประเทศได้ในอนาคต