| ที่มา | เทคโนโลยีประมง |
|---|---|
| ผู้เขียน | ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา |
| เผยแพร่ |
“AM FARM” จำหน่ายไรแดงแช่แข็งแบบหลอด ใช้ง่าย สะดวก ประหยัด ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งใน/ต่างประเทศ
ไรแดง เป็นแพลงตอนสัตว์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นอาหารธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโปรตีนสูง เหมาะสำหรับการใช้เป็นอาหารสำหรับอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน โดยเฉพาะปลาสวยงามและปลาเศรษฐกิจ ที่นับวันจะนิยมเลี้ยงเพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ปริมาณไรแดงทางธรรมชาติลดน้อยลง ทำให้เกิดอาชีพเพาะเลี้ยงไรแดงขึ้น
แม้จะสามารถผลิตไรแดงขึ้นเพื่อจำหน่ายให้แก่กลุ่มต่างๆ ที่เลี้ยงปลาทั้งอาชีพหรือสมัครเล่น แต่ที่ผ่านมากลับพบว่าคุณภาพไรแดงบางแห่งขาดคุณภาพ อาจส่งผลต่อสุขภาพปลา หรืออาจเป็นไรแดงที่บรรจุใส่ถุงขนาดใหญ่สร้างปัญหาให้แก่ผู้ที่เลี้ยงปลาจำนวนน้อยเนื่องจากใช้ไม่ทัน
สิ่งเหล่านี้จะหมดไป เมื่อ “AM FARM” แบรนด์ผลิตภัณฑ์ไรแดงคุณภาพที่เน้นเจาะทุกกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์น้ำทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นด้วยการผลิตไรแดงแช่แข็งชนิดหลอด ถือเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ที่สร้างความสะดวกให้แก่ลูกค้า ด้วยรูปลักษณ์ขนาดเล็กใช้สะดวก ปริมาณไม่มากเกินไป เก็บรักษาง่าย ควบคุมปริมาณการให้ปลาได้แม่นยำ อาหารไม่ตกค้างในตู้เลี้ยง ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำเน่าเสียได้ง่าย จึงสะดวกและเหมาะกับผู้เลี้ยงปลาที่หาซื้อไรแดงสดยากหรือไม่ค่อยมีเวลา
คุณเตชิต หิรัญจิราภัค หรือ คุณมิน เจ้าของธุรกิจบอกเล่าที่มาของแนวคิดว่า เกิดจากเมื่อครั้งที่เขาเลี้ยงปลาหางนกยูง แล้วต้องการหาไรแดงมาเป็นอาหาร แต่หาไม่ค่อยได้ เมื่อถามชาวบ้านว่าหาได้ที่ไหนก็บอกว่ามักช้อนตามแหล่งน้ำทั่วไป ขณะที่ตัวเองมีความจำเป็นต้องใช้เพราะทราบว่าไรแดงมีคุณค่าทางอาหารสูง
ดังนั้น จึงไปหาข้อมูลพบว่า มีผู้ผลิตไรแดงสดขายเหมือนกัน แต่มักบรรจุใส่ถุงขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว ซึ่งหากใช้ไม่หมดจะส่งผลให้ไรแดงที่เหลือเสียหายต้องทิ้ง เพราะไรแดงสดมีอายุสั้น จึงเกิดคำถามกับตัวเองว่าทำไมจึงไม่มีใครผลิตไรแดงที่เก็บไว้ได้นานและมีปริมาณพอเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ไม่มาก
เมื่อได้คำตอบว่า ไรแดง สามารถแช่แข็งได้ เพราะก่อนหน้านี้มีคนทำเหมือนกันแต่บรรจุใส่ถุงใหญ่เป็นกิโล จึงเกิดความคิดว่าทำไมไม่ทำให้ใช้ง่าย แล้วมีขนาดไม่ต้องใหญ่มาก จากนั้นจึงลองนำไปบรรจุใส่หลอดบีบ (คล้ายกับหลอดยาสีฟัน) ขนาดบรรจุมีปริมาณ 80 กรัม แล้วจำหน่ายปรากฏว่าไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากพบปัญหาความเสียหายด้านการขนส่ง จนต้องนำมาปรับแก้ไขตั้งแต่ขั้นตอนการบรรจุไรใส่หลอด การซีล การแพ็กให้ปลอดภัยในกล่อง จนกระทั่งเริ่มดีขึ้นแล้วสามารถส่งขายได้ตามเป้าหมายในเวลาต่อมา
คุณมิน บอกว่า การผลิตไรแดงแช่แข็งต้องเน้นความสด แล้วต้องทำงานแข่งกับเวลาเพียง 2 ชั่วโมง เพื่อให้ไรยังคงความสด ดังนั้น ในทุกขั้นตอนจะต้องใช้ความเย็นเป็นตัวหล่อเลี้ยง ตั้งแต่การเริ่มช้อนจากบ่อแล้วนำมาใส่ภาชนะก็ต้องใช้น้ำแข็ง จากนั้นจึงรีบจัดการบรรจุใส่หลอดแล้วนำไปเก็บในตู้แช่แข็งทันที แม้กระทั่งการบรรจุใส่กล่องโฟมก็ยังต้องห่อหุ้มด้วยกระดาษ ดังนั้น หัวใจสำคัญของธุรกิจนี้จึงต้องอยู่กับความเย็น
ไรแดงที่นำมาใช้จะรับซื้อจากแหล่งของชาวบ้านในละแวกพื้นที่เป็นหลัก ส่วนปริมาณการรับซื้อไม่แน่นอนต้องดูที่จำนวนออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งในแต่ละรอบ ทั้งนี้ ในช่วงหน้าหนาวยอดการสั่งมีจำนวนน้อย เพราะอากาศมีส่วนทำให้น้ำเย็นแล้วปลากินอาหารลดลงต่างกับหน้าร้อนที่จะขายดีมาก
“จะผลิตตามออเดอร์ แล้วไม่มีการผลิตเก็บไว้ขาย เนื่องจากอายุไรแดงแช่แข็งอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน จึงจะมีความสมบูรณ์ ดังนั้น จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นเวลา 3 ปี ที่ทำธุรกิจนี้ จึงรู้ได้ว่าควรผลิตในช่วงเวลาใด จำนวนเท่าไร เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าโดยไม่เหลือทิ้ง”
สิ่งที่ยากและอาจสร้างความเสียหายกับธุรกิจนี้อย่างหนึ่งคือ การปิดปากถุงด้วยความร้อนหรือการซีล คุณมิน ชี้ว่า ในกระบวนการผลิต โดยเฉพาะขั้นตอนการบรรจุใส่หลอดที่จะต้องซีลปากหลอดด้วยความร้อน เนื่องจากหากซีลไม่เรียบร้อยเพราะต้องอาศัยจังหวะกับความร้อนให้สอดคล้องเหมาะสมกันพอดี
“มิเช่นนั้นอาจทำให้ไรแดงทะลักออกมาจากหลอด ซึ่งเคยเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจนี้มาแล้ว ฉะนั้น ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความชำนาญและทักษะอย่างดี เพราะหากพลาดจะเสียหายใช้งานไม่ได้เลย”
การผลิตไรแดงชนิดหลอดแช่แข็ง แบรนด์ AM FARM ถือเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ที่สร้างความสะดวกให้แก่ลูกค้าด้วยการบีบไรแดงจากหลอดเพียง 1-2 หยด สำหรับผู้ที่เลี้ยงปลาสวยงามจำนวนน้อย ทั้งยังช่วยไม่ให้อาหารปลาเหลือตกค้างในตู้ซึ่งมีส่วนทำให้น้ำเสียได้ง่ายด้วย ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเพราะสามารถนำมาใช้งานได้อีกหลายครั้ง ด้วยการเก็บไว้ในช่องแข็งตู้เย็นธรรมดาตามบ้านทั่วไป นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างลงตัว
“เมื่อต้องการใช้ให้นำออกมาจากช่องแข็ง ปล่อยทิ้งไว้สักพักให้ละลาย หรือให้ผ่านน้ำ แล้วดูด้วยสายตาหรือจับว่ามีความนิ่มแล้วเปิดฝาจุกออกบีบได้เลย ควรค่อยๆ บีบ อย่าบีบแรง หากใช้ไม่หมดให้ปิดฝาจุกให้สนิท ตั้งหลอดขึ้นแล้วนำกลับไปแช่แข็งเหมือนเดิม”
สินค้าแบรนด์ AM FARM นอกจากผลิตไรแดงหลอดแช่แข็งแล้ว ยังต่อยอดเพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่มต่างๆ ด้วยไรแดงขนาดบรรจุถุงกิโล ไรแดงบรรจุถุงครึ่งกิโลชนิดฝาซิปถ้าใช้ไม่หมดยังเก็บได้ หรือแม้กระทั่งไรสดที่มีขายเฉพาะกลุ่มลูกค้าประจำเท่านั้น
มีลูกค้าจำนวนมากสงสัยถามมาว่า การใช้ไรแดงแช่แข็งจะมีคุณภาพต่างกับไรแดงสดอย่างไร คุณมิน บอกว่า ถึงแม้การแช่แข็งจะทำให้คุณค่าของไรแดงลดน้อยลงเมื่อเทียบกับไรสด 10-20 เปอร์เซ็นต์ แต่กระบวนการผลิตแต่ละขั้นตอนจะให้ความสำคัญทางด้านความเย็นเพื่อรักษาความสดและคุณค่าของไรแดงที่มีโปรตีนสูงไว้ อย่างไรก็ตาม ไรแดงถือเป็นอาหารตามธรรมชาติที่มีประโยชน์กับปลาและสัตว์น้ำช่วยให้มีการเจริญเติบโตและสมบูรณ์ได้ดีกว่าอาหารทางวิทยาศาสตร์
ผลิตภัณฑ์ไรแดงหลอดแช่แข็ง สามารถผลิตได้ วันละ 500-600 หลอด โดยเฉลี่ยการผลิตจะประมาณสัปดาห์ละ 3-4 วัน มีลูกค้า 2 กลุ่มหลัก คือแบบขายส่งกับขายปลีก ทั้งนี้ คุณมินวางแผนการตลาดด้วยการกำหนดราคาเป็นแรงจูงใจ โดยราคาขายปลีก หลอดละ 45 บาท แต่ถ้าซื้อจำนวนมากคิดในราคาขายส่ง ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยต้องติดต่อคุยรายละเอียดกันเอง
โดยลูกค้า 2 กลุ่มนี้ มีภายใน/ต่างประเทศ สำหรับภายในประเทศลูกค้ามักซื้อแล้วนำไปขายปลีกหน้าร้าน มักจะสั่งเดือนละ 1 ครั้ง ประมาณ 200-300 หลอด ต่อราย หรือถ้าเป็นลูกค้าต่างประเทศมักจะขายผ่านชิปปิ้งเพื่อส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ลาว ทั้งนี้ ตลาดต่างประเทศจะสั่งคราวละ 3-4 ลัง (บรรจุลังละ 300 กว่าหลอด) โดยมักจะสั่งทุก 3 เดือน
“เท่าที่ตรวจสอบยังไม่พบว่ามีใครผลิตไรแดงแบบเป็นหลอดจำหน่าย และกำลังอยู่ระหว่างขอจดลิขสิทธิ์แต่สิ่งที่ต้องการตอนนี้คือ ผู้แทนจำหน่าย เพื่อต้องการขยายตลาดให้มากขึ้นก่อน สร้างความเข้มแข็งให้แก่ผลิตภัณฑ์ก่อน แล้วค่อยวางแผนทำอย่างอื่น” เจ้าของธุรกิจรายนี้กล่าว
การเปลี่ยนไปของสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีวิวัฒนาการสมัยใหม่ขึ้น จากเดิมที่ต้องช้อนไรแดงจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติเพื่อมาใช้เป็นอาหารของสัตว์น้ำ จนมาถึงวันนี้ผู้เลี้ยงปลามืออาชีพหรือสมัครเล่นหยิบมือถือแล้วสั่งซื้อไรแดงแช่แข็ง แบรนด์ AM FARM ตามช่องทางติดต่อได้ทาง Page Facebook : AMFarm หรือโทรศัพท์ (087) 706-7555 เท่านี้ก็ช่วยให้ท่านเกิดความสะดวกสบายเป็นเงาตามตัว โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง และนี่นับเป็นความก้าวหน้าอีกด้านหนึ่งในยุค 4.0
