รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบเกษตรกรบ้านโคกม่วง ต.เมืองเก่าพัฒนา อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น

นายกฤษฎา  บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ บ้านโคกม่วง หมู่6 ต.เมืองเก่าพัฒนา อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น เพื่อพบกับ นายประดิษฐ์ ศิริธรรมจักร หมอดินอาสาของกรมพัฒนาที่ดิน และเจ้าของศูนย์เรียนรู้ด้านการพัฒนาที่ดิน ที่สืบสานอาชีพเกษตรกรรมจากบรรพบุรุษตั้งแต่ปี 2543 โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่เกษตรจำนวน 19 ไร่ จากนาข้าวและมันสำปะหลัง เป็นเกษตรผสมผสาน จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ปรับปรุงบำรุงดิน โดยได้รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตจากกรมพัฒนาที่ดิน ทำปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี มีรายได้หลักจากการปลูกผักหวานป่า ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 200,000 บาท และได้พบปะกับกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา สานพลังประชารัฐ นำโดยนายประหยัด  ชำนาญรบ อำเภอชุมแพ ทั้งนี้ ได้กล่าวขอบคุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา โดยใช้กลไกสหกรณ์บริหารจัดการตั้งแต่การพิจารณาพื้นที่ปลูก  กระบวนการส่งเสริมการผลิต จัดหาเมล็ดพันธุ์ ปัจจัยการผลิต การดูแลพื้นที่เพาะปลูก การเก็บเกี่ยว รวบรวมผลผลิต ตลอดจนตลาดรับซื้อจากเกษตรกรสมาชิก

นอกจากนั้น ได้พบกับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่โครงการพัฒนาดินเค็มทุ่งเมืองเพีย อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น นำโดยกำนันตำบลหัวหนองและแม่ระเบียบ สละ จากเดิมมีปัญหาพื้นที่รกร้าง ประสบกับปัญหาดินเค็ม น้ำเค็ม จนไม่สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ กรมพัฒนาที่ดินจึงได้เข้าสำรวจระดับความเค็ม ความลึกของชั้นเกลือ และวางระบบทางวิศวกรรม ร่วมกับการจัดการดินและพืชตามหลักวิชาการ ปัจจุบันพื้นที่กว่า 5 หมื่นไร่ ได้รับการแก้ปัญหา มีเกษตรกรร่วมโครงการและสร้างเครือข่ายกว่า 3,000 ราย เกษตรกรปลูกข้าวได้ผลผลิตดี ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ปรับสภาพแวดล้อมด้วยพืชทนเค็ม ทำให้มีรายได้ต่อเนื่องและมั่นคง

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวให้กำลังใจและกล่าวชื่นชมกลุ่มเกษตรกร พร้อมมอบแนวทางให้เกษตรกรยึดหลักทำการเกษตรแบบยั่งยืน ปลูกพืชผสมผสาน ให้พึ่งพาตนเองได้ ตามหลักศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 หากจะผลิตพืชผลชนิดใด ให้ใช้หลักการตลาดนำการผลิต เช่นเดียวกับโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาที่มีตลาดรับซื้อ และเน้นย้ำให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันผลิต มีความรัก ความสามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ทิ้งกัน..จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ และมีความมั่นคงในอาชีพการเกษตรมากยิ่งขึ้น