กลับบ้านเยี่ยมพ่อแม่ หาไก่งวงมาลาบ..แซ่บหลาย

เรื่องราวของสัตว์ปีก โดยเฉพาะไก่ พบหลายลักษณะด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ จึงเรียกแตกต่างกันออกไป อย่างไก่แจ้ ไก่อู ไก่ชน ไก่ต๊อก ไก่งวง ไก่คอล่อน ไก่เก้าชั่ง ไก่เบตง

แต่ละลักษณะที่พบอยู่ มีพันธุ์แยกย่อย เช่น ไก่ชน มีพันธุ์เหลืองหางขาว ประดู่หางดำ เขียวพาลี และอื่นๆ

ส่วนไก่งวง เป็นไก่ตัวใหญ่ มีลักษณะแตกต่างจากไก่ทั่วไป

ไก่งวง ภาษาอังกฤษคือ Turkey จัดอยู่ในวงศ์ไก่ฟ้าและนกกระทา  จัดอยู่ในวงศ์ย่อย Meleagridinae สกุล Meleagris มีปากสั้นเรียวบาง บริเวณหัวบางส่วนและลำคอไม่มีขนที่เห็นชัด แต่มีหนังย่นๆ และตุ่มคล้ายหูด…ขนหางมี 28-30 เส้น แพนหางชี้ตั้งขึ้น ขายาว ลักษณะนิ้วตีนเหมือนกับไก่ในวงศ์ Phasianidae ตัวผู้มีเดือย ขนตามลำตัวเป็นเงา

ไก่งวง ดั้งเดิมเป็นไก่ป่า ที่พบ 2 ชนิด คือ Meleagris gallopavo พบบริเวณตอนเหนือ และตอนกลางของทวีปอเมริกา และ Agriocharis ocellata พบบริเวณประเทศเม็กซิโก และอเมริกากลางตอนเหนือ ลักษณะของไก่งวงป่า ตัวผู้จะมีน้ำหนัก 22-27 กิโลกรัม บริเวณคอและหัวมีลาย คอมีเหนียง มีต่างหูสีสดใสห้อยลงมาตั้งแต่จะงอยปาก และห้อยลงมาทางด้านข้าง ต่างหูนี้สามารถหดหรือขยายตัวได้ ตัวผู้มีกระจุกขนสีดำแข็งบริเวณตรงหน้าอก ขนลำตัวสามารถพองออกได้เหมือนกับนกยูง ขนเป็นมันเงา บริเวณแข้งมีเดือย

ไก่งวงพ่อแม่พันธุ์

มีการค้นพบซากกระดูกของไก่งวงป่าบริเวณในมลรัฐเทนเนสซี่ของสหรัฐ ซากมีอายุประมาณ 1,000 ปี ก่อนคริสตกาล

การเลี้ยงไก่งวงในประเทศไทยยังถือว่าไม่แพร่หลาย เนื่องจากคนไทยไม่นิยมรับประทานเนื้อไก่งวง สำหรับไก่งวงที่เลี้ยงในปัจจุบัน เป็นพันธุ์ที่พัฒนามาจากไก่งวงป่า ชนิด Meleagris gallopavo

พันธุ์ไก่งวงที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย ได้แก่ นอร์ฟอล์กแบล็ค แมมโมท, อเมริกันบรอนซ์, เบลท์สวิลล์ สมอลไวท์, บริทิชไวท์ และไก่งวงพันธุ์ผสม

ไก่งวงชอบกินหญ้า

ไก่งวงอเมริกันบรอนซ์…จัดเป็นไก่งวงสายพันธุ์ใหญ่ มีขนสีบรอนซ์ปนน้ำตาลดำ ปลายขนสีขาวเล็กน้อย แข้งและนิ้วเท้าสีเทาอ่อนปนชมพูซีด ตามีสีน้ำตาล จะงอยปากมีสีเทาอ่อน มีความสามารถอาศัยหากินตามธรรมชาติได้ดี มีอาหารตามธรรมชาติ เช่น เศษอาหาร แมลง สัตว์ในดิน และหญ้า ให้ผลผลิตไข่ประมาณ 70 ฟอง/ตัว/ปี เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ตัวเมียมีน้ำหนักประมาณ 9 กิโลกรัม โดยตัวผู้หนุ่มให้น้ำหนักประมาณ 9 กิโลกรัม ตัวเมียสาวประมาณ 7 กิโลกรัม

ไก่งวงเบลท์สวิลล์ สมอลไวท์…เป็นพันธุ์ไก่งวงขนาดเล็กถึงปานกลาง หนังและขนมีสีขาว แข้งและนิ้วเท้ามีสีชมพูซีด ตามีสีน้ำตาล จะงอยปากมีสีเทาอ่อน หน้าอกมีขนาดใหญ่ ไก่งวงพันธุ์นี้มีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วมาก และให้รสชาติที่อร่อย เป็นพันธุ์ที่เลี้ยงตามธรรมชาติได้ดี ปริมาณไข่ 80 ฟอง/ตัว/ปี น้ำหนักที่เติบโตเต็มที่ของตัวผู้ ประมาณ 7.7 กิโลกรัม ตัวเมีย 5 กิโลกรัม โดยตัวผู้วัยหนุ่มมีน้ำหนัก ประมาณ 6.7 กิโลกรัม ตัวเมียวัยสาว ประมาณ 4 กิโลกรัม

มีการเลี้ยงการบริโภคไก่งวงในเมืองไทยมานานแล้ว แต่มีแพร่หลายบางภูมิภาคเท่านั้น ต่างจากฝรั่งที่กินไก่งวงกันเป็นล่ำเป็นสัน โดยเฉพาะวันขอบคุณพระเจ้า

สำหรับวันขอบคุณพระเจ้า หรือ Thanksgiving day เป็นเทศกาลสำคัญหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา และประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์

ชาวอเมริกันจะเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าในทุกวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน วันสำคัญนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความขอบคุณต่อพระเจ้าเมื่อสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว ในวันขอบคุณพระเจ้าที่ขาดไม่ได้ คือ ไก่งวง แม้ว่าไม่มีใครทราบอย่างแน่ชัดว่า ทำไม ไก่งวงถึงเป็นอาหารจานหลักในวันสำคัญนี้

บางทฤษฎีให้เหตุผลว่า ไก่งวง เป็นสัตว์ที่นักเดินทางจากประเทศอังกฤษและชาวอินเดียนรับประทานในการเฉลิมฉลองการตั้งรกรากในอดีต บางทฤษฎีก็เชื่อว่าพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 เสวยห่านอบในงานเฉลิมฉลองต่างๆ เมื่อนักเดินทางจากประเทศอังกฤษมาตั้งรกรากในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงนำเอาธรรมเนียมนี้ติดมาด้วย แต่เนื่องจากห่านเป็นสัตว์ที่หายาก พวกเขาจึงใช้ไก่งวงแทนห่าน และบางทฤษฎีก็เชื่อว่าเป็นเพราะความพยายามของเบนจามิน แฟรงคลิน ซึ่งเป็นอดีตผู้ร่วมก่อตั้งสหรัฐอเมริกาและผู้ประดิษฐ์สายล่อฟ้า ต้องการผลักดันให้ไก่งวงเป็นสัตว์ประจำชาติของสหรัฐฯ แต่ในที่สุด คนส่วนมากก็ไม่เห็นด้วย และยกให้นกอินทรีกลายเป็นสัตว์ประจำชาติของสหรัฐฯ

ในแต่ละปี มีไก่งวงถูกนำมาเป็นอาหารเลี้ยงฉลองในวันขอบคุณพระเจ้า จำนวน 45 ล้านตัว แต่หากนับรวมกับการบริโภคทั่วไป ปีหนึ่งมีไก่งวงถูกกินไปราว 300 ล้านตัว

คุณดรุณี โสภา หัวหน้ากลุ่มวิจัยและพัฒนาสัตว์ปีก กรมปศุสัตว์ ให้ข้อมูลว่า ไก่งวงในไทยเลี้ยงมานานก็จริง แต่ไม่แพร่หลายอย่างสัตว์ปีกชนิดอื่น แหล่งเลี้ยงที่สำคัญอยู่แถบจังหวัดสระบุรี รวมทั้งจังหวัดในภาคอีสาน ฝรั่งกินไก่งวงโดยการอบ ส่วนคนไทยโดยเฉพาะทางภาคอีสาน นิยมทำลาบ

คุณเชษฐา กัญญะพงศ์

คุณเชษฐา กัญญะพงศ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงไก่งวงบ้านคำเกิ้ม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ถือว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงไก่งวงมากที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน เพราะนอกจากเลี้ยงแล้ว ยังมีร้านอาหารจากไก่งวงด้วย

“สาเหตุที่ภาคกลาง นิยมเลี้ยงและบริโภคไก่งวงไม่มากนัก อาจจะเป็นเพราะว่าไก่งวงเมื่อโตเต็มที่มีขนาดใหญ่ ต่างจากไก่ทั่วไป ที่มีขนาดเล็ก เหมาะต่อการบริโภคในครัวเรือน…ส่วนที่ภาคอีสาน นิยมกันมาก เป็นเพราะไก่งวงเข้ากับวัฒนธรรมการกินในท้องถิ่น คือนิยมทำลาบ แล้วก็กินกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ งานบุญบ้าง งานสังสรรค์อื่นๆ…ผมมรีร้านอาหารที่ปรุงจากไก่งวง หากช่วงเทศกาลต้องไปซื้อไก่จากเครือข่ายจังหวัดอื่น เนื่องจากความต้องการมีมาก”

คุณเชษฐากล่าว และบอกต่ออีกว่า

“ที่นครพนม มีผู้นับถือศาสนาคริสต์อยู่บ้าง วันขอบคุณพระเจ้า เดือนพฤศจิกายน ก็มีคนมาสั่งให้อบสำหรับงานเลี้ยงเมื่อก่อนเทศกาลละ 20 ตัว ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 70 ตัว”

คุณทองพูน สุรทัด อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 4 ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ บอกว่า ที่บึงกาฬ ได้ตั้งชมรมผู้เลี้ยงไก่งวงขึ้น เพื่อพัฒนาการเลี้ยง รวมทั้งสร้างตลาด ปัจจุบัน มีสมาชิก 25 คน มีพ่อแม่พันธุ์ไก่งวง มีไก่งวงพร้อมบริโภคจำหน่าย

คุณทองพูน สุรทัด

“เปรียบเทียบกับไก่บ้านแล้วไก่งวงโตเร็วกว่า ไก่บ้านเลี้ยง 6 เดือน ได้น้ำหนัก 1 กิโลกรัม จำหน่ายได้กิโลกรัมละ 100 บาท ไก่งวงใช้เวลาเลี้ยง 6-8 เดือน น้ำหนัก 6 กิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 150 บาท..ไก่งวงชอบกินหญ้า หากไม่กินหญ้าจะไม่โต” คุณทองพูน เล่า

คุณทองพูน บอกว่า ความต้องการพันธุ์ไก่งวงทุกวันนี้มีมากขึ้น นั่นแสดงว่า ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น นอกจากจังหวัดริมโขง อย่างนครพนม บึงกาฬ และจังหวัดเลย นิยมเลี้ยงแล้ว แถวหนองบัวลำภู มหาสารคาม ก็เลี้ยงไก่งวงกัน ส่วนใหญ่เลี้ยงในระบบไร่นาสวนผสม มีสัตว์ชนิดอื่นรวมอยู่ด้วย

“สมัยก่อนมีงาน อาจจะซื้อหมูมาเชือด ปัจจุบันนิยมใช้ไก่งวงมาทำอาหารกัน อย่างไก่งวง 2 ตัว น้ำหนักตัวละ 6 กิโลกรัม นำมาทำลาบ ต้ม เลี้ยงคนได้ 30 คน” คุณทองพูน ยกตัวอย่าง

พืชและสัตว์ เมื่ออยู่แปลกที่แปลกทาง ก็ได้รับการดัดแปลงเสริมแต่ง ให้เหมาะสมกับท้องถิ่นนั้นๆ

ปีใหม่ กลับบ้านเยี่ยมพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย หาไก่งวงมาลาบ ต้ม สังสรรค์กัน อิ่มทั้งคนจากแดนไกล สุขใจทั้งคนที่อยู่บ้าน