อย. เร่งออก กม. กำหนดคุณสมบัติผู้ถือครอง ‘กัญชา’ ทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 29 มกราคม นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  กล่าวถึงความคืบหน้าการออกกฎกระทรวง 8 ฉบับ ว่า จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มีการทูลเกล้า พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ อย.จึงต้องเร่งดำเนินการออกกฎหมายลูกภายใน 2 เดือน โดยในจำนวน 8 ฉบับนั้น มี 4 ฉบับ ที่มีเนื้อหาคล้าย พ.ร.บ. เดิม 4 ประกอบด้วย การทำบัญชี รับ จ่าย การนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เป็นต้น

ซึ่งส่วนนี้จะใช้โครงร่างเดิม แต่จะมีระยะเร่งด่วน 4 ฉบับ ที่ต้องเร่งทำ เช่น  1.การปลูก การผลิต การนำเข้า ต้องทำอย่างไรบ้าง 2.การกำหนดให้แพทย์แผนไทยประเภทใดสามารถใช้ได้หรือต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง 3.ข้อบ่งใช้ของโรคชนิดของโรคทั้งแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบันว่าจะใช้แบบใดบ้าง และ 4.การอนุญาตให้ผู้ที่เคยถือครองก่อนที่ พ.ร.บ. จะออกต้องมาแจ้งก่อนภายใน 90 วัน พร้อมกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะสามารถครอบครองกัญชาได้

นพ.สุรโชค กล่าวอีกว่า ทั้ง 4 ฉบับนี้ จะมีการนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ โดยมี 1 ฉบับ คือเรื่องการผลิตนำเข้า เป็นกฎกระทรวงต้องเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และกฤษฎีกาต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีการย้ำเสมอว่า พ.ร.บ. นี้ ต้องได้ประโยชน์กับผู้ป่วยและคนไทยได้ประโยชน์จริงๆ ส่วนการประกาศใช้ ม.44 เพื่อยกเลิกสิทธิบัตรกัญชาของต่างชาตินั้น ไม่เกี่ยวกับกฎหมายทั้ง 8 ฉบับ โดยตรง แต่จะเกี่ยวในทางอ้อม คือ ในส่วนของผู้ที่ต้องการนำกัญชาไปใช้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ เพราะที่ผ่านมาผู้ผลิตอาจกังวลเรื่องรูปแบบการผลิตว่าอาจคล้ายกันและเกรงว่าหากมีการทำออกมา อาจโดนเรื่องสิทธิบัตร ดังนั้น เมื่อมี ม.44 ทุกหน่วยงานต่างๆ ก็กล้าที่จะมาขอผลิตยาต่างๆ และดำเนินการเรื่องต่างๆ ต่อได้

เมื่อถามว่า หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลแล้วอำนาจ ม.44 ในการบังคับให้ยกเลิกสิทธิบัตรจะหมดไปหรือไม่ นพ.สุรโชค กล่าวว่า  หาก พ.ร.บ. ออกแล้ว บริษัทต่างๆ ก็จะสามารถมายื่นขอสิทธิบัตรใหม่ได้ ซึ่ง ม.44 ที่ออกมานั้นมีประโยชน์ทำให้ไม่มีคำยื่นขอสิทธิบัตรเดิมค้างอยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลและหากมีการมายื่นขอจดสิทธิบัตรอีกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วว่ามีสูตรใดบ้าง และคงมีการเฝ้าระวังมากขึ้น เพราะแต่เดิมคงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีการนำกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จนมีหลายๆ บริษัทมายื่นขอจดสิทธิบัตรก่อนหลายปี