คนไทย ‘ล้างมือ’ สะอาดแค่ 1 ใน 4

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม นพ. ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สบส. ได้ดำเนินการสำรวจพฤติกรรมการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ของประชาชน อายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทั้ง 4 ภาค รวมทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในเดือนตุลาคม 2559 กลุ่มตัวอย่าง 512 คน พบว่า มีกลุ่มตัวอย่างที่มีพฤติกรรมมือสะอาด คือ ล้างมือฟอกสบู่ติดเป็นนิสัย กระทำทุกครั้งหลังจากเข้าห้องน้ำ ห้องส้วม และก่อนรับประทานอาหาร ร้อยละ 25 หรือคิดเป็น 1 ใน 4 คน ผู้หญิงล้างมากกว่าผู้ชาย ร้อยละ 10 กลุ่มที่ล้างมากอันดับ 1 ได้แก่ พนักงานบริษัท ร้อยละ 34 นักเรียน นักศึกษา ร้อยละ 26 และกลุ่มว่างงาน ร้อยละ 24 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือปฏิบัติมากที่สุด ร้อยละ 44 ภาคเหนือ ร้อยละ 41 กรุงเทพฯ และปริมณฑล ร้อยละ 19

นพ. ประภาส กล่าวอีกว่า มีถึงร้อยละ 72 ที่มีพฤติกรรมล้างบ้างไม่ล้างบ้าง และไม่เคยล้างเลย ร้อยละ 3 ซึ่ง 2 กลุ่มนี้มีความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อโรคต่างๆ ที่ติดมากับมือไปสู่คนอื่นได้ เช่น เชื้อโรคอุจจาระร่วง เป็นต้น ทั้งนี้ โรคดังกล่าวพบได้ตลอดปีเฉลี่ยกว่า 1 ล้านราย ต่อปี

“ผลการศึกษาในต่างประเทศ พบว่า ในอุจจาระของคน น้ำหนัก 1 กรัม จะมีเชื้อโรค 1 ล้านล้านตัว หากมีอุจจาระติดมือ เชื้อโรคก็จะติดมาด้วยและมีโอกาสก่อให้เกิดการเจ็บป่วยได้ มีผลการศึกษาเปรียบเทียบในต่างประเทศ พบว่า หากไม่ล้างมือเลย จะตรวจพบเชื้อโรคบนมือได้มากถึง ร้อยละ 44 หากล้างมือด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียว จะช่วยขจัดเชื้อโรคออกจากมือได้ประมาณ ร้อยละ 70 แต่หากล้างมือด้วยน้ำและฟอกสบู่ทั่วไป จะสามารถขจัดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงออกจากมือได้ถึง ร้อยละ 92 ซึ่งให้ผลต่อการป้องกันโรคได้ดีพอๆ กับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค” นพ. ประภาส กล่าวและว่า การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดถูกวิธีมี 7 ขั้นตอน คือ 1. ฝ่ามือถูกัน 2. ฝ่ามือถูหลังมือ และนิ้วถูซอกนิ้ว 3. ฝ่ามือถูฝ่ามือ และนิ้วถูซอกนิ้ว 4. หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 5. ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบฝ่ามือ 6. ปลายนิ้วถูขวางฝ่ามือ และ 7. ถูรอบข้อมือ ทุกขั้นตอนทำ 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง ใช้เวลา 10-20 วินาที” นพ. ประภาส กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน