สศก. ระบุ ดัชนีสินค้าเกษตร ธ.ค. 61 ลดลง 1.62% เหตุ ยาง-ปาล์ม ราคาตก

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือน ธ.ค.61 ลดลง 1.62% เหตุ ยาง-ปาล์ม ราคาตก เดือน ม.ค. ยังร่วง 1.88% แต่ดัชนีรายได้เกษตรกรเดือน ธ.ค.เพิ่ม 1.45%

น.ส.ทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ที่ไร่นาเดือน ธ.ค.2561 อยู่ที่ 124.96 ลดลงจาก 1.62% เมื่อเทียบกับ ปี 2560 แต่เพิ่มขึ้น 0.88% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2561

สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ยางพารา เนื่องจากด้านเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศผู้ใช้ยางพารารายใหญ่ของโลก ทั้งจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ทำให้เกิดการชะลอซื้อของประเทศผู้ใช้ยางพารา และมีการชะลอซื้อขายในตลาดล่วงหน้าจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศเศรษฐกิจหลัก และ ปาล์มน้ำมัน ราคาลดลงเนื่องจากภาวะการค้าในประเทศและการส่งออกชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากผลผลิตได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง ทำให้ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด มันสำปะหลัง ราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการ มีคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น และเป็นช่วงต้นฤดูการเก็บเกี่ยว หัวมันสำปะหลังเริ่มทยอยออกสู่ตลาด และ สุกร ราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงรองรับนักท่องเที่ยวและวันหยุดต่อเนื่องท้ายปี

ด้านดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือน ธ.ค.2561 อยู่ที่ 164.37 เพิ่มขึ้น 3.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 แต่ลดลง 41.01% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.2561 สินค้าสำคัญที่ดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้านาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และ กุ้งขาวแวนนาไม ส่วนสินค้าสำคัญที่ดัชนีผลผลิตลดลง ได้แก่ สับปะรด ปาล์มน้ำมัน สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่

ส่วนทั้งหมดส่งผลให้ดัชนีรายได้เกษตรกรในเดือน ธ.ค. 2561 อยู่ที่ 205.40 เพิ่มขึ้น 1.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 60 ขณะที่แนวโน้มดัชนีรายได้เกษตรกรในเดือน ม.ค. 2562 จะลดลง 1.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลง 0.21%

ในขณะที่ดัชนีผลผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.29% สำหรับสินค้าสำคัญ ที่มีผลผลิตออกมากในช่วงเดือนม.ค. ได้แก่ มันสำปะหลัง และหอมแดง ทั้งนี้ เดือน ก.พ. 2562 คาดว่า ดัชนีรายได้เกษตรกรจะขยายตัวเล็กน้อย ในขณะที่ดัชนีราคามีแนวโน้มลดลง ส่วนดัชนีผลผลิตจะขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์