เกษตรกรคนขยัน ปลูกทานตะวันสลับกับข้าวโพดหวาน ไอเดียสร้างรายได้ทั้งปี

ปกติเนื้อที่ 17 ไร่ที่เป็นทุ่งทานตะวันได้ใช้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นหลักพอเก็บข้าวโพดขาย ก็ประมาณเดือนกันยายนของทุกเขาไม่อยากให้มีช่วงว่าง เพราะการปล่อยที่ดินไว้เฉยๆ จะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา จึงลงต้นทานตะวัน เพราะเท่ากับจะทำให้มีรายได้จากการขายเมล็ด กิโลกรัมละประมาณ 10 บาท ผลผลิต 180 กิโลกรัม ต่อไร่ จึงทำรายได้จากเมล็ดทานตะวัน 17 ไร่ ทำเงินได้เกือบ 40,000 บาท

หน้าหนาวผมได้ไปชมทุ่งทานตะวันที่หลักกิโลเมตรที่ 7 บนถนนตากฟ้า-พุนกยูง ถนนหมายเลข 1145 ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดนครสวรรค์

เป็นการได้ไปชม ไปถ่ายรูปทุ่งทานตะวันโดยไม่ได้ตั้งใจมาก่อน เพราะความตั้งใจนั้นต้องการไปเที่ยวที่ตัวเมืองนครสวรรค์และพิจิตร

เพียงแต่ได้นั่งรถผ่านไปเห็นโดยบังเอิญ เพราะเห็นร้านขายกาแฟโดดเด่นอยู่ริมทาง พอได้เข้าไปจิบกาแฟ จึงได้มองเห็นทุ่งทานตะวันชัดเจน

มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจจอดรถริมทาง แล้วเดินเข้าไปชมทุ่งทานตะวันที่กำลังบานเต็มที่กันเป็นหลายสิบคน

ผมมารู้ตอนหลังว่า ดอกทานตะวันบานเต็มที่แค่ 10 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ คอตกก้มหน้าลงดิน แล้วก็เหี่ยวไปตามกาลเวลา

แสดงว่าผมโชคดีที่ได้มาพบหน้าตาของดอกทานตะวันที่กำลังอิ่มเอิบเบิกบานเหมือนหญิงสาวที่กำลังมีความรัก

คมสันต์ แหยมวงษ์

หลังจากจิบกาแฟจนพอใจแล้ว รอให้แดดร่มลมตกนิดหน่อย ก่อนชวนเพื่อนร่วมเดินทางบุกเข้าไปชมทุ่งทานตะวันกันเพื่อถ่ายรูปและทักทายดอกที่กำลังบานอยู่ใกล้ๆ

ที่นี่ไม่มีการเก็บค่าผ่านประตู เพราะไม่มีประตูให้เดินผ่าน หรือพูดให้ชัดก็ได้ว่าให้ทุกคนเข้าชมฟรีนั่นเอง

มาคิดดู ดอกทานตะวันถ้ามีเพียงดอกเดียว คงไม่มีใครอยากมาเห็น แต่พอรวมดอกกันเป็นทุ่ง กลับสร้างความสนใจขึ้นมาทันที

ผมเคยรู้มาว่า ทุ่งทานตะวันที่ลพบุรีและสระบุรีนั้น ได้รับการส่งเสริมจากจังหวัดให้ช่วยกันปลูกจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดซึ่งได้ผล เพราะจะมีคนไปชมทุ่งทานตะวันกันจำนวนมากทุกปี

บางคนเจาะจงไปชม แต่ส่วนใหญ่ตั้งใจไปเที่ยวที่อื่น แต่เมื่อต้องนั่งรถผ่าน ก็อดใจไม่ได้ เมื่อเห็นความงามของทุ่งทานตะวัน จึงต้องหยุดชมความงามเสียหน่อย เพื่อไม่ให้ดอกทานตะวันต้องน้อยใจนั่นเอง

บริเวณด้านหน้าของทุ่งทานตะวันมีแผงขายของกินหลายอย่าง เช่น ข้าวโพดต้ม ส้มตำ ลูกชิ้นปิ้ง ต้นอ่อนทานตะวัน มะพร้าวน้ำหอมและเครื่องดื่มอีกหลายชนิด ที่น่าสนใจคือ นมข้าวโพดและข้าวโพดหวาน

ข้าวโพดหวานเป็นข้าวโพดที่เด็ดจากต้นมากินดิบได้เลยโดยไม่ต้องต้ม

ถึงตรงนี้ นอกจากผมได้อุดหนุนด้วยการซื้อนมข้าวโพดแช่เย็นหอมหวานดื่มแล้ว ผมยังได้ซื้อข้าวโพดหวานกลับบ้านอีก 2 กิโล

ปรากฏว่าคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับคนขายข้าวโพดเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันแห่งนี้ ผมจึงสนใจอยากพูดคุยกับเขา เพราะต้องการทราบถึงความเป็นมา

เขาแนะนำตัวเองว่า ชื่อ คมสันต์ แหยมวงษ์ ปัจจุบันอายุ 33 ปี มีครอบครัวแล้ว

จากการที่ผมได้พูดคุยกับคมสันต์ จึงได้รู้ว่า ทุ่งทานปี ก็จะมีช่วงว่าง แปลว่ากว่าจะลงต้นข้าวโพดใหม่ต้องรออีกประมาณ 4 เดือน

ตะวันแห่งนี้ ที่ต้องกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า เพราะปกติเนื้อที่ 17 ไร่ที่เป็นทุ่งทานตะวันได้ใช้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก

พอเก็บข้าวโพดขาย ก็ประมาณเดือนกันยายนของทุกเขาไม่อยากให้มีช่วงว่าง เพราะการปล่อยที่ดินไว้เฉยๆ จะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา จึงลงต้นทานตะวัน เพราะเท่ากับจะทำให้มีรายได้จากการขายเมล็ด กิโลกรัมละประมาณ 10 บาท ผลผลิต 180 กิโลกรัม ต่อไร่ จึงทำรายได้จากเมล็ดทานตะวัน 17 ไร่ ทำเงินได้เกือบ 40,000 บาท

เก็บเมล็ดทานตะวันเสร็จแล้วก็ลงข้าวโพดต่อ หมุนเวียนไปอย่างนี้ทุกปี

เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ทานตะวันกำลังออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วทุ่ง ปรากฏว่ามีคนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาพากันจอดรถลงมาถ่ายรูปกับทุ่งทานตะวันกันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เขาเกิดความคิดจัดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเสียเลย ด้วยการทำสะพานทางเดินไปกลางทุ่งทานตะวัน ตกแต่งทำซุ้มและที่นั่งถ่ายรูป

ด้านหน้าซึ่งเป็นทางเข้าก็ทำเป็นแผงขายผลไม้ ขายของกิน และร้านขายกาแฟ

รายได้หลักของทุ่งทานตะวัน อยู่ที่ขายกาแฟและขายของกิน แต่จะมีรายได้เฉลี่ยปีละไม่กี่วันเท่านั้น ซึ่งอยู่ในช่วงที่ดอกทานตะวันบาน พอพวกมันพร้อมใจกันเหี่ยวคอตกไปทั้งท้องทุ่ง ก็จะไม่มีใครสนใจแวะชมอีก ต้องรอไปปีต่อไป

แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะหลังจากดอกเหี่ยว ก็จะเก็บเมล็ดทานตะวันส่งขายโรงงานได้ เพราะต้นทานตะวันขายได้ทั้งดอกและเมล็ด

สุดท้าย คมสันต์ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกทานตะวันว่า แค่หว่านเมล็ดลงไป พวกมันก็พร้อมใจกันงอก เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายมาก

ที่ดินในเมืองไทยปลูกได้เกือบทุกแห่ง

ข้อสำคัญจะต้องอยู่ในที่โล่งแจ้ง เพราะเป็นต้นไม้ที่ไม่กลัวแสงอาทิตย์ เวลามีดอก ก็จะหันดอกไปสู้กับแสงอาทิตย์ได้ทุกเช้าอย่างองอาจ

ทานตะวันเป็นดอกไม้ที่หันดอกไปยังทิศตะวันออกเสมอ จะไม่ยอมหันหลังให้ดวงอาทิตย์เด็ดขาด

“ฉะนั้นจะต้องทำทุ่งทานตะวันอยู่ด้านทิศตะวันตกของถนน เพื่อว่านักท่องเที่ยวที่มองจากถนนจะได้เห็นด้านหน้าของดอกทานตะวัน” เขาตบท้ายก่อนจากกัน

 

ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์