ปศุสัตว์ยกชั้นกันโรคอหิวาต์แอฟริกาหมู สั่งชายแดนตรวจเข้มเนื้อหมูนำเข้า

นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงรายงานของของคณะกรรมการเกษตรไต้หวัน (Council of Agriculture: COA) ว่า มีการตรวจพบการปนเปื้อนสารพันธุกรรมของเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (สุกร) ในผลิตภัณฑ์จากหมู ที่นำเข้ามาจากประเทศเวียดนาม เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2562

แม้ว่ายังไม่มีการรายงาน พบการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรอย่างเป็นทางการ จากรัฐบาลเวียดนาม แต่ นาย Phung Duc Tien รองปลัดกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของประเทศเวียดนาม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อหมู บริเวณชายแดนระหว่างจีนและเวียดนาม ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูอย่างรุนแรง ในประเทศเวียดนาม

ดังนั้น ไทยจึงมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ภายในภูมิภาคอาเซียน และเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในหมู ปนเปื้อนมากับคนและอาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์จากหมู ที่ไม่ผ่านการปรุงสุกเพื่อการบริโภค จึงได้แจ้งเตือนให้จังหวัดตามแนวชายแดน ที่มีความเสี่ยงสูงประกาศเป็นเขตเฝ้าระวังโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู เพื่อยกระดับการเฝ้าระวังในการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู

อีกทั้งได้มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ เฝ้าระวังและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู (war room) ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อเตรียมความพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู

สำหรับความก้าวหน้าของการยกระดับ มาตรการหรือแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันควบคุมโรค ให้เป็นวาระแห่งชาติ ได้รับความเห็นชอบจาก นายกฤษฎา บุญราช รมว. เกษตรและสหกรณ์ แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

นายสรวิศ กล่าวว่า ปัจจุบันจากรายงานขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) พบโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เกิดการระบาดใน 16 ประเทศ แบ่งเป็นทวีปแอฟริกา 4 ประเทศ ทวีปยุโรป 10 ประเทศ และทวีปเอเชีย 2 ประเทศ คือประเทศจีนและมองโกเลีย (ยังไม่นับรวมเวียดนาม)
สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีการระบาดของโรคดังกล่าวนี้ พร้อมทั้งได้ขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรวิชาชีพและสมาคมต่างๆ รวมทั้งพี่น้องเกษตรกร ที่ได้มีส่วนร่วมและร่วมแรงร่วมใจกัน ในการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูอย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพทำให้ประเทศไทยไม่มีการระบาดของโรคดังกล่าวในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม ใคร่ขอความร่วมมือในกรณีผู้ที่เดินทางไปศึกษาดูงานหรือไปทำงานในฟาร์มหมูในประเทศ ที่เกิดการระบาดและมีความเสี่ยงสูงที่มีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู เมื่อเดินทางกลับ ขอให้งดเข้าฟาร์มเลี้ยงสุกรไม่น้อยกว่า 5 วัน พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเคร่งครัด และผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม โรงอาหาร สถานประกอบเลี้ยง ให้งดจำหน่าย จ่าย แจกเศษอาหารเหลือจากการรับประทาน ให้ผู้ที่นำไปเลี้ยงหมู เพื่อป้องกันการระบาดของโรคดังกล่าว

Advertisement

อธิบดีกรมปศุสัตว์ ขอย้ำว่า ขอให้เกษตรกรอย่าได้ตระหนก และขอให้มั่นใจในการดำเนินงานที่เข้มงวดของปศุสัตว์ ในการป้องกันโรคไม่ให้เข้ามาสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรของประเทศไทย รวมทั้งขอย้ำให้เกษตรกร ยกระดับการเลี้ยงหมูให้มีระบบการป้องกันโรคเข้าสู่ฟาร์มตามมาตรฐาน GAP

หากเป็นรายย่อยให้ใช้มาตรฐานการป้องกัน และการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรวจสอบแหล่งที่มาของสุกรก่อนเข้าฟาร์ม และงดเว้นการนำอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก ที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 30 นาที มาเลี้ยงสุกร

Advertisement

นอกจากนี้ ให้สังเกตอาการหมูอย่างใกล้ชิด หากพบแสดงอาการป่วย เช่น มีไข้สูง เบื่ออาหาร ผิวหนังเป็นปื้นแดง และต่อมาเป็นสีเขียวคล้ำ พบภาวะแท้งในแม่หมู และมีจำนวนหมูตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที หรือ call center 063-225-6888 หรือที่แอปพลิเคชั่น DLD 4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งดำเนินการให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที