กรมส่งเสริมการเกษตร แนะป้องกันหนอนกระทู้หอมทำลายผลผลิตช่วงหนาวต่อร้อน

กรมส่งเสริมการเกษตร แนะวิธีป้องกันกำจัดหนอนกระทู้หอมเข้าทำลายผลผลิตในช่วงฤดูหนาวต่อฤดูร้อน

นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า หนอนกระทู้หอมทำลาย
พืชเศรษฐกิจมากกว่า 30 ชนิด ทั้งพืชผัก พืชไร่ ไม้ผลและไม้ดอก โดยเฉพาะพืชผักตระกูลหอม ซึ่งหนอนกระทู้หอมมักระบาดในช่วงฤดูหนาวต่อฤดูร้อนจึงขอแนะนำเกษตรกรผู้ปลูกหอม ทั้งหอมแดง หอมแบ่ง หอมหัวใหญ่ หมั่นสำรวจแปลงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หากพบกลุ่มไข่ให้เก็บทำลาย กรณีเริ่มพบหนอน สามารถใช้ชีวภัณฑ์ เช่น เชื้อแบคทีเรีย (บีที) เชื้อไวรัส เอ็นพีวี มาฉีดพ่นกำจัดหนอนกระทู้หอมในแปลงได้ โดยใช้ตามคำแนะนำในฉลาก ซึ่งเชื้อทั้ง 2 ชนิด จะทำให้หนอนเกิดโรคและตายในที่สุด สำหรับตัวเต็มวัยของหนอนกระทู้หอมที่เป็นผีเสื้อกลางคืนสีน้ำตาลปนเทา ขนาด 2 เซนติเมตร (เมื่อกางปีก) กลางปีกคู่หน้ามีจุดสีน้ำตาลอ่อน 2 จุด ปีกคู่หลังสีเทาใส กำจัดได้โดยการใช้กับดักที่ประดิษฐ์ได้โดยภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งการใช้ชีวภัณฑ์เป็นวิธีการที่ปลอดภัยต่อเกษตรกรผู้ใช้ ไม่มีพิษตกค้างในผลผลิต นอกจากนี้ การใช้เชื้อไวรัส เอ็นพีวี สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ เนื่องจากเกษตรกรสามารถผลิตได้ด้วยตัวเอง

กรณีจำเป็นต้องใช้สารเคมีให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร โดยใช้สารเคมีป้องกันกำจัดหนอนกระทู้หอม ได้แก่ อีมาเม็คติน เบนโซเอท 1.92% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคลอแรนทรานิลิโพรล 5.17% เอสซี อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คลอร์ฟีนาเพอร์ 10% เอสซี อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อินโดซาคาร์บ 15% เอสซี อัตรา 30 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคลอร์ฟลูอาซูรอน 5% อีซี อัตรา 20-30 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นกำจัดแมลงทุก 7 วัน ติดต่อกัน 2 ครั้ง และต้องสลับกลุ่มสารทุก 30 วัน เพื่อลดความต้านทานชนิดสารเคมีของศัตรูพืช

อย่างไรก็ตาม หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เกษตรกรควรไถตากดินเพื่อกำจัดดักแด้ และเก็บเศษซากพืชอาหารเพื่อลดแหล่งอาหารในการขยายพันธุ์ของหนอนกระทู้หอม เพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์อีกทางหนึ่งด้วย