เครื่องแกะและปอกกระเทียมขนาดเล็ก ลดต้นทุนปลาส้ม-แก้ปัญหาโรคหอบหืด

ด้วยปัญหาการสัมผัสกับสารสกัดบิวทานอล จากการปอกกระเทียมเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดอาการหอบหืดและโพรงจมูกอักเสบเมื่อสูดดมหรือสัมผัสกระเทียมเป็นเวลานานๆ นักวิจัยเชิงพื้นที่วิทยาลัยธาตุพนม มหาวิทยาลัยนครพนม จึงคิดค้น “เครื่องปอกกระเทียม” เพื่อลดปัญหาด้านสุขภาพให้กับผู้ประกอบการแปรรูปอาหารจากปลาตะเพียน บ้านท่าบ่อ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ตำบลท่าบ่อสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม

ในแต่ละวันกลุ่มแม่บ้านดังกล่าวต้องผลิตปลาส้มเฉลี่ย 1,000 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์ ต้องใช้กระเทียมปริมาณมากในการแปรรูป ที่ผ่านมาชาวบ้านต้องจ้างคนงานปอก ในราคากิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งนับเป็นต้นทุนที่สูง จากการสำรวจและลงพื้นที่อำเภอศรีสงคราม ทำให้นักวิจัยวิทยาลัยธาตุพนมเล็งเห็นปัญหา จึงเกิดการพัฒนาและออกแบบเครื่องแกะและปอกกระเทียมขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบูรณาการงานวิจัยเพื่อการพัฒนาพื้นที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นงานวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือของผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ที่ช่วยกันเสนอข้อคิดเห็นตลอดขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาเครื่องปอกกระเทียม ทำให้นักวิจัยสามารถพัฒนาเครื่องปอกกระเทียมได้ตรงกับความต้องการของชุมชน

อาจารย์รชต มณีโชติ วิทยาลัยธาตุพนม มหาวิทยาลัยนครพนม ผู้คิดค้นประดิษฐ์เครื่องแกะกลีบกระเทียมขนาดเล็กเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร หัวหน้าโครงการการพัฒนาเครื่องแกะและปอกกลีบกระเทียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เปิดเผยถึงการพัฒนาเครื่องปอกและแกะกระเทียมว่า เป็นการพัฒนาจากเครื่องที่มีตามท้องตลาด ซึ่งอาจตอบโจทย์ของผู้ใช้ประโยชน์ได้ตรงจุด จึงคิดเครื่องแกะและปอกเปลือกกระเทียมขนาดเล็ก ทำจากแผ่นเหล็กสแตนเลส ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหาร GMP มีขนาดสูงเพียง 60 เซนติเมตร กว้าง 50 เซนติเมตร ใช้หลักการเสียดสี โดยใช้ยางทรงกรวย 2 แผ่น ทำจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติทนแรงฉีก แรงดึง แรงเสียดทานได้ดี

การเคลื่อนที่ในการหมุนของลูกนวดใช้หลักการหมุนแรงเหวี่ยงแบบไซโคลน ทำให้หัวกระเทียมเคลื่อนที่โดยน้ำหนักจะตกลงในแนวดิ่ง ทำให้เกิดแรงบีบอัดและแรงเฉือน ทำให้หัวกระเทียมแตกออกเป็นกลีบ ทำให้กระเทียมไม่แตกช้ำ มีช่องเป่ากากหรือเปลือกกระเทียมอยู่ด้านหน้า เมื่อใส่กระเทียมด้านบน เครื่องจะเริ่มปอกและเป่ากากออกทางด้านข้าง

“จากการทดลองใช้กระเทียม 2 ชนิด ได้แก่ กระเทียมแก้ว ซึ่งเป็นกระเทียมพื้นบ้านของจังหวัดนครพนม และกระเทียมจีนนำเข้า จำนวนครั้งละ 500 กรัม/ครั้ง พบว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพโดยระยะห่างและความเร็วรอบที่ต่างกันโดยหากต้องการปอกกระเทียมแก้ว ที่ระยะห่างของลูกนวด 1 เซนติเมตร และความเร็วรอบเฉลี่ย 200 รอบ/นาที สามารถปอกกลีบกระเทียมได้ จำนวน 500 กรัม ได้ค่าเฉลี่ยกระเทียมที่ปอกเปลือกดีที่สุด เฉลี่ยเวลา 0.41 วินาที หากเป็นกระเทียมจีน ระยะห่างของลูกนวดที่ 1 เซนติเมตร และความเร็วรอบเฉลี่ย 250 รอบ/นาที สามารถแกะและปอกกลีบกระเทียม จำนวน 500 กรัม ได้ค่าเฉลี่ยกระเทียมที่ปอกดีที่สุด ใช้เวลา 0.44 วินาที โดยเฉลี่ยในการใช้เครื่องปอกกระเทียมทั้ง 2 ชนิด จำนวน 1 กิโลกรัม ใช้เวลาเฉลี่ย 1.43 นาที และใช้เครื่องแกะและปอกกลีบกระเทียม ระยะเวลา 1 ชั่วโมง ได้ค่าเฉลี่ยกระเทียมที่แกะและปอกเปลือก ประมาณ 42 กิโลกรัม หรือ 336 กิโลกรัม/1 วัน”

นอกจากจะช่วยลดปัญหาด้านสุขภาพของชาวบ้านแล้ว เครื่องปอกกระเทียมยังมีศักยภาพในการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ โดยผลการวิเคราะห์เชิงเศรษฐกิจศาสตร์วิศวกรรม พบว่าการใช้เครื่องแกะและปอกกลีบกระเทียมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สามารถทำให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดต้นทุนได้ ประมาณ 6,994.26 บาท/เดือน และระยะเวลาคืนทุน อยู่ที่ 5 เดือน