ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
---|---|
เผยแพร่ |
คุณไว สายกระสุน อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 3 ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เกษตรกรที่เลี้ยงปลานิลมามากกว่า 20 ปี เล่าว่า ในช่วงแรกที่เลี้ยงปลานิลในบ่อดินพอขนาดใหญ่เริ่มจำหน่ายได้ แม่ค้าที่มารับซื้อถึงบ่อเลี้ยงไม่กล้าจับเพื่อไปจำหน่าย เพราะกลัวเหม็นกลิ่นโคลน หากรับซื้อไปไม่น่าจะมีคนซื้อ
“ที่เราต้องเลี้ยงในบ่อดิน เพราะเราไม่มีแหล่งน้ำที่จะเลี้ยงในกระชัง เพราะว่าเรื่องน้ำเรามีอย่างจำกัด ช่วงแรกนี่แม่ค้ามารับซื้อไม่อยากได้ ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้ลองกินเนื้อปลาเลย ผมก็เอ้า! ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรก็เอาไปจำหน่ายเอง ในตอนนี้คนในสุรินทร์ก็กินปลาในบ่อดินกันหมด เพราะมันไม่ได้มีกลิ่นอย่างที่เข้าใจ” คุณไว กล่าวอธิบาย
บ่อที่เหมาะสมสำหรับเลี้ยงปลานิล ขนาดประมาณ 1-2 ไร่ ความลึกประมาณ 1.20-2 เมตร เตรียมบ่อโดยโรยปูนขาว และที่สำคัญต้องกำจัดปลาที่เหลือออกให้หมด มิเช่นนั้นจะมากินลูกปลาเล็กจนหมดบ่อ
จากนั้นปล่อยลูกปลานิลไซซ์ใบมะขาม ประมาณ 3,200 ตัว ในระยะนี้ให้กินอาหารลูกอ๊อดที่มีโปรตีน 32 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเลี้ยงได้ประมาณ 1 เดือน จึงเปลี่ยนเป็นอาหารที่มีโปรตีน 30 เปอร์เซ็นต์ ให้กิน 2 เวลา คือ เช้าและเย็น จนกว่าจะจับจำหน่ายได้
ด้านการป้องกันโรค คุณไว บอกว่า ปลานิลที่เลี้ยงในบ่อดินไม่ค่อยเกิดปัญหามากนัก ซึ่งการเลี้ยงภายในบ่อไม่ค่อยมีโรคที่มากับน้ำเหมือนปลากระชังที่เลี้ยงในแม่น้ำ หากเจอโรคก็มีบางครั้งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เราเลี้ยงนี่เราจะรู้ว่าช่วงไหนที่ปลามีอาการแบบไหนบ้าง อย่างอากาศเปลี่ยนนี่ก็จะมีปลาตายบ้าง จะเตรียมพร้อมรับมือเพื่อป้องกัน เพราะเจออาการแบบนี้ต้องทำยังไง ประสบการณ์จะสอนเราเอง” คุณไว กล่าว