เปิดประสบการณ์ บ้านบางแก้วหัวหิน แนะเป็นแนว คนรักบางแก้ว

“เมื่อก่อนผมเป็นครูโรงเรียนราษฎร์ หลังเรียนจบมาได้ไม่เท่าไร รู้สึกรายได้ไม่ค่อยมั่นคง เลยคุยกับเพื่อน เอาความรู้ที่เรียนมา มาใช้ประโยชน์ ทำให้ผมตัดสินใจลาออกจากอาชีพครู มาทำอินทีเรียดีไซน์ ตามที่เรียนมา ทำงานอาชีพนี้แค่ 7 วัน ได้เงินเท่ากับอาชีพครูตอนนั้น 5 เดือน เลยรู้สึกว่า เรามาถูกทางแล้ว”

นี่เป็นแนวการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ของ คุณพงศกร จิระสกุล ที่หันหลังให้กับอาชีพครู แล้วเดินหน้าอาชีพอินทีเรียดีไซน์ ที่ร่ำเรียนมา เมื่อรู้ว่าเดินมาถูกทาง มีรายได้ที่มั่นคงและมากพอสำหรับการตั้งตัวของคนวัยทำงานขณะนั้น ก็มุ่งหน้าทำงานอย่างเต็มที่ กระทั่งเกิดฟองสบู่แตกในปี 2540 จึงคิดจะเปลี่ยนสถานที่ทำงาน

ก่อนหน้านี้คุณพงศกร ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพมหานครมาตลอด เมื่อมีโอกาสมาหาเพื่อนที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คุณพงศกร บอกว่า รู้สึกได้ว่าหัวหินเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ อากาศดี การเดินทางสะดวก จึงตัดสินใจย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่อำเภอหัวหิน และเปิดร้านรับทำอินทีเรียดีไซน์ กระทั่งเก็บเงินซื้อโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ได้ 1 แห่ง ถึงปัจจุบัน คุณพงศกร ทำเฟอร์นิเจอร์ รับตกแต่ง และทำอินทีเรียดีไซน์ มายาวนานเกือบ 20 ปีแล้ว

คุณพงศกร จิระสกุล กับ พ่อพันธุ์บางแก้ว

เกี่ยวข้องกับสุนัขพันธุ์บางแก้ว ได้อย่างไร

คุณพงศกร เล่าว่า เริ่มต้นจากความชอบเลี้ยงสุนัข และต้องเป็นสุนัขพันธุ์บางแก้ว เพราะเป็นสุนัขไทย เลี้ยงง่าย สวยและมีเสน่ห์ ซึ่งความสวยและเสน่ห์ของสุนัขพันธุ์บางแก้วไม่แพ้สายพันธุ์ต่างประเทศ โดยเฉพาะความซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้าของ สุนัขพันธุ์บางแก้ว เป็นสุนัขที่มีความเป็นเลิศทางด้านนี้

“ผมไปงานประกวดสุนัขที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ไปซื้อสุนัขพันธุ์บางแก้ว มา 2 ตัว เป็นเกรดเลี้ยงเล่น เอามาเฝ้าโรงงาน ความตั้งใจของผมคือ ต้องการเลี้ยงให้ดุ เพื่อเฝ้าโรงงาน แล้วเขาก็ดุได้ใจจริงๆ แม้โรงงานจะไม่มีคนอยู่ แต่ก็ไม่เคยมีคนแปลกหน้ากล้าเข้าไป”

ไม่นานสุนัขพันธุ์บางแก้วที่เลี้ยงไว้ก็ผสมพันธุ์และให้ลูก คอกแรกและคอกที่ 2 คุณพงศกร แจกจ่ายให้กับคนที่อยากเลี้ยง แต่คอกที่ 3 ที่ได้มา อยู่ในช่วงที่งานทุกอย่างลงตัว คุณพงศกรมีเวลาว่างมากพอ จึงคิดจะบรีด (พัฒนาสายพันธุ์) สุนัขพันธุ์บางแก้วด้วยตนเอง เพื่อให้ได้ลูกสุนัขที่ดี ก่อนจะขายให้กับผู้ที่รักและสนใจจริงๆ ซึ่งขณะนั้นคิดจะทำฟาร์มเล็กๆ ตามความฝัน จึงตั้งชื่อฟาร์มว่า บ้านบางแก้วหัวหิน และเริ่มหาสายพันธุ์ดีๆ ระดับแชมป์มาเป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์

นับเป็นเวลาเกือบ 20 ปีที่เริ่มเลี้ยง แต่หากนับเวลาที่ตั้งใจทำฟาร์มจริง ประมาณ 10 ปีก่อน

คุณพงศกร ไขข้อสงสัย เรื่องความดุของสุนัขสายพันธุ์บางแก้ว ซึ่งแม้หลายคนจะรู้ว่า สุนัขพันธุ์บางแก้วมีความดุแฝงอยู่ในพันธุกรรม แต่ยังเคยเกิดเหตุกัดคนภายในบ้าน คนนอกบ้าน เมื่อสุนัขหลุดออกจากบ้านไปบ่อยครั้ง โดย “เทคโนโลยีชาวบ้าน” ขอให้คุณพงศกร แนะวิธีการเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้ว อย่างถูกวิธีให้

ร้อนๆ ก็นอนแช่น้ำ

คุณพงศกร อธิบายว่า หากเป็นสุนัขรุ่นเก่า เมื่อ 10 ปีก่อน สายพันธุ์สุนัขบางแก้วยังไม่นิ่ง ค่อนข้างดุ และถ้าเจ้าของหรือคนเลี้ยงไม่เก่ง คุมสุนัขไม่อยู่ โอกาสที่สุนัขจะกัดเจ้าของและคนในบ้านมี แต่ปัจจุบัน สุนัขพันธุ์บางแก้วจิตพิสัยนิ่งแล้ว ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคนเลี้ยงที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้ว ว่าต้องการเลี้ยงให้สุนัขดุหรือไม่ดุ

การเลี้ยงสุนัขให้ดุ ทำอย่างไร

การเลี้ยงสุนัขให้ดุ คุณพงศกร แนะว่า หลังจากได้ลูกสุนัขต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ลูกสุนัขอายุราว 2-3 เดือน เริ่มจากใครก็ตามจับตัวสุนัข เมื่อสุนัขขู่ ก็ปล่อยให้ขู่ และไม่ต้องให้เล่นกับใคร ฝึกจูงออกไปข้างนอกตั้งแต่เล็ก เพื่อให้เชื่องโซ่ เมื่อสุนัขอยู่ในโซ่จะนิ่ง แต่ถ้าปล่อยจะกัด แต่ทั้งนี้ ควรฝึกให้คุ้นเคยกับสมาชิกภายในบ้าน แม้ว่าจะต้องการเลี้ยงให้ดุก็ตาม ซึ่งการเลี้ยงให้เชื่องกับสมาชิกภายในบ้าน วิธีคือ ให้สุนัขมีความสัมพันธ์กับสมาชิกภายในบ้านเหมือนเราที่เป็นเจ้าของ ทำลักษณะเดียวกับเรา เช่น การให้อาหารสุนัข การเล่นกับสุนัข ไม่ใช่แค่เพียงให้สุนัขกับสมาชิกในบ้านเห็นหน้ากันเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้สุนัขรักและซื่อสัตย์เหมือนกับเจ้าของที่เลี้ยงได้

แม่พันธุ์สาวสวย

“หากที่บ้านมีเด็กอ่อนเป็นสมาชิกใหม่ เมื่อเด็กอายุประมาณ 1 ขวบ ก็ควรให้สุนัขเข้าใกล้ ให้เด็กได้สัมผัสกับตัวสุนัข หากทำได้ให้เล่นคลุกคลีเหมือนเราที่เป็นเจ้าของเคยเล่นกับสุนัข เคยกอดรัดฟัดเหวี่ยง แต่ผู้เลี้ยงควรอยู่ด้วยตลอดเมื่อสุนัขเล่นกับเด็ก ไม่ใช่แค่ให้มองเห็นกัน แต่ไม่เคยสัมผัสกัน สุนัขจะไม่รู้ว่านี่คือคนที่ควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกับเจ้าของ หรือบางรายเลี้ยงไว้ในบ้าน สุนัขเห็นพ่อและแม่ของเจ้าของ แต่พ่อและแม่ของเจ้าของไม่เคยมาให้ข้าว ลูบตัวสุนัข หากวันหนึ่งสุนัขหลุดจากโซ่ล่ามหรือกรง ก็อาจจะกัดพ่อและแม่ของเจ้าของสุนัขตัวนั้นก็ได้ ดังนั้น ควรให้มีปฏิสัมพันธ์กันตั้งแต่แรกจะดีกว่า”

หากต้องการเลี้ยงสุนัขไม่ให้ดุ คุณพงศกร บอกว่า เป็นเรื่องที่ง่ายมาก แม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์บางแก้ว ที่มีพื้นฐานความดุอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว เพียงแค่เริ่มตั้งแต่สุนัขอายุประมาณ 2-3 เดือน ควรจูงออกนอกบ้านให้บ่อย สังเกตพฤติกรรมของสุนัขที่มีต่อคนภายนอก เมื่อมีคนมาถูกตัวแล้วขู่ให้ปราม ทำเช่นนี้ สุนัขจะกลายเป็นสุนัขรับแขกและไม่ดุ ไม่ว่ากับใคร

คุณพงศกร แนะว่า การเลี้ยงสุนัขไม่จำเป็นต้องเน้นให้ดุเพียงอย่างเดียว หรือไม่ให้ดุเลย เพราะสุนัขพันธุ์บางแก้วก็เหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไปที่ต้องการการเอาใจใส่จากเจ้าของ รวมถึงการผ่อนคลายเมื่อได้เล่นกับเจ้าของหรือคนที่ไว้ใจ ดังนั้น การเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์บางแก้วให้รู้จักสมาชิกภายในบ้าน จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อความปลอดภัย โดยเลี้ยงไม่ให้ดุกับสมาชิกภายในบ้าน ส่วนเมื่อพาเดินออกไปนอกบ้านแล้ว ผู้เลี้ยงควรควบคุมสุนัขได้ โดยการใส่สายจูง เมื่อสุนัขมีท่าทางดุกับเพื่อนบ้าน ควรปรามสุนัข แต่หากเป็นคนแปลกหน้า ก็ควรปล่อยให้สุนัขขู่ สุนัขจะแยกแยะได้ว่า คนไหนเป็นคนแปลกหน้าไม่ปลอดภัยสำหรับสมาชิกภายในบ้าน และคนไหนคือเพื่อนบ้านที่ไม่ควรทำร้าย

คุณพงศกร ให้ข้อคิดในการเลี้ยงสุนัขไม่ให้เจ็บป่วยว่า สุนัขก็เหมือนคน มีโรคทุกโรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในสุนัข ดังนั้น การป้องกันไม่ให้เกิดโรคในสุนัขจะเป็นเรื่องที่ทำได้ดีกว่าการรักษา โดยการให้วัคซีนตามกำหนดอย่างครบถ้วน ดูแลความสะอาดของกรงและที่อยู่อาศัย รวมถึงอาหาร น้ำดื่ม ที่ต้องสะอาด ไม่ควรทิ้งอาหารไว้จนแมลงวันตอม หมั่นอาบน้ำแปรงขน และควรกำจัดเห็บหมัดไม่ให้มารบกวนสุนัข เพียงเท่านี้สุนัขก็มีสุขภาพดีแล้ว

การออกกำลังกายสำหรับสุนัขนั้น มีความจำเป็นในทุกสายพันธุ์ ในสุนัขพันธุ์บางแก้ว การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องพาออกไปวิ่งหรือเดินออกกำลังกายเช่นเดียวกับสุนัขขนาดใหญ่สายพันธุ์อื่น หากมีพื้นที่บริเวณบ้านนิดหน่อย ปล่อยให้สุนัขพันธุ์บางแก้วเดินเล่นหรือวิ่งบ้าง ก็ถือเป็นการออกกำลังกายที่เพียงพอแล้ว หรือในกรณีที่บ้านมีพื้นที่น้อยมาก ก็สามารถปรับการออกกำลังกายมาเป็นการจูงออกไปเดินนอกบ้าน ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายสำหรับสุนัขพันธุ์บางแก้วแล้วเช่นกัน

ความเครียดในสุนัขที่ส่งผลต่อพฤติกรรมและอารมณ์ของสุนัข ส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงขังกรงและล่ามเป็นเวลานาน แต่ถ้าผู้เลี้ยงเลี้ยงโดยการล่ามหรือขังกรงเป็นเวลาและปล่อยสุนัขเป็นเวลา สุนัขจะรู้และไม่เกิดอาการเครียด

ตลอดระยะเวลาที่เลี้ยงและทำฟาร์มบางแก้วเล็กๆ ที่หัวหิน คุณพงศกร มีลูกค้าหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากภาคใต้ที่เดินทางขึ้นมาเลือกถึงฟาร์ม และอีกส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าที่หัวหิน การซื้อขายเป็นไปตามลักษณะของสุนัข แม้ว่าคุณพงศกรจะมีเฟซบุ๊กให้ติดตามความเคลื่อนไหว แต่เมื่อลูกค้าต้องการซื้อ คุณพงศกรจะขอให้ลูกค้ามาดูพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่ฟาร์มก่อน และขอให้มารับลูกสุนัขไปด้วยตนเอง เพราะการถ่ายภาพสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างหรือลักษณะรวมถึงสีของลูกสุนัขได้ และไม่ต้องการให้มีปัญหาระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย

อย่างไรก็ตาม นับจากวันที่คุณพงศกรจริงจังกับการทำฟาร์มขนาดเล็กมาถึงปัจจุบัน ประสบการณ์ที่ถ่ายทอดถึงการเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์บางแก้วผ่านหน้ากระดาษนี้ คุณพงศกร บอกว่า เป็นช่วงเวลาท้ายของบ้านบางแก้วหัวหิน ซึ่งคุณพงศกรเริ่มวางมือ แม้ว่าจะยังเหลือพ่อพันธุ์แม่พันธุ์สุนัขบางแก้วอยู่ แต่ก็เริ่มทำหมันสุนัขไปบ้างแล้ว และอนาคตคาดว่าจะทำหมันสุนัขทั้งหมด และปิดตัวบ้านบางแก้วหัวหินลง ให้เหลือเพียงตำนาน

“ผมเริ่มอายุมากขึ้น คิดว่าอาจมีเวลาให้สุนัขน้อยลง จึงไม่อยากให้สุนัขขาดการดูแลเอาใจใส่ จึงค่อยๆ ถอยออกมา ยังคงเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เท่าที่มีไปจนกว่าจะตายจากกัน แต่หยุดการพัฒนาสายพันธุ์เพื่อจำหน่ายแล้ว หากผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วท่านใด ต้องการความรู้เพิ่มเติม ผมยินดีถ่ายทอดประสบการณ์ให้ เพื่อให้คนรักบางแก้วได้เข้าใจในสุนัขพันธุ์นี้จริงๆ”

คุณพงศกร ทิ้งท้ายไว้ให้คนรักสุนัขพันธุ์บางแก้วและลูกค้าบ้านบางแก้วหัวหินรู้สึกเสียดาย แต่ถึงอย่างไร คุณพงศกรยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจ แวะไปเยี่ยมชมฟาร์มเล็กๆ ที่สร้างมากับมือ และเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วด้วยความเข้าใจได้ตลอดเวลา เพียงแค่โทรศัพท์และนัดวันเวลาตามตกลง ได้ที่ คุณพงศกร จิระสกุล บ้านบางแก้วหัวหิน สี่แยกไดโนเสาร์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ (080) 440-0148