ประเสริฐฟาร์ม ฟาร์มกุ้งระบบปิด เลี้ยงกุ้งได้ดี เลี้ยงน้ำได้ตลอดปี

การทำฟาร์มกุ้ง เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หากทำแล้วประสบความสำเร็จ จะสามารถสร้างรายได้อย่างงดงามให้กับผู้เลี้ยง แต่ก่อนที่ผู้เลี้ยงจะลงทุนดำเนินธุรกิจในฟาร์มกุ้งควรจะต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกุ้ง หรือประสบการณ์ในการเลี้ยงกุ้งพอสมควร และสิ่งสำคัญต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการเลี้ยง รวมถึงมองเห็นสาเหตุและวิธีแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้ผลผลิตได้รับผลเสียหาย

คุณประเสริฐ อนุเวช

เหนือสิ่งอื่นใด คือ ความเอาใจใส่ดูแลน้ำที่ใช้เลี้ยง

คุณประเสริฐ อนุเวช เป็นเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตราดอีกหนึ่งคนที่ให้ความสนใจ ปรับเปลี่ยนอาชีพจากเกษตรกรรม ทำไร่ ทำนา มาประกอบธุรกิจทำฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เป็นระยะเวลากว่า 20 ปี

คุณประเสริฐ เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะหันมาเลี้ยงกุ้งขาวแบบระบบปิด ตนเคยทำสวนผลไม้และทำสวนยาง แต่ด้วยราคาผลไม้ขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน บางปีก็ขาดทุน พอในปี 2533 ได้เข้ามาเป็นลูกค้าสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากธนาคาร จึงเปลี่ยนมาทำฟาร์มกุ้งกุลาดำ

ระบบเติมอากาศในบ่อเพาะเลี้ยง

จากชาวสวน สู่อาชีพประมง

“เลี้ยงมาได้ประมาณ 10 ปี ก็ต้องประสบปัญหา กุ้งโตช้า ตายง่าย เลี้ยงยาก อีกทั้งสถานที่เพาะเลี้ยงเปิดทำให้เกิดโรคง่าย จึงหยุดเลี้ยงและหันมาเลี้ยงกุ้งขาวระบบปิดในพื้นที่หมู่บ้านรำภูลาย ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง แทน เนื่องจากวิธีการเลี้ยงและระยะเวลาเลี้ยงได้ผลผลิตที่ไวกว่า อีกทั้งตลาดมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญเราสามารถควบคุมโรคที่มากับน้ำภายนอกได้เป็นอย่างดี เพราะระบบปิดนี้จะไม่ทิ้งน้ำ แต่จะนำกลับมาบำบัดด้วยสารบีเคแอล เติมแร่ธาตุที่กุ้งจะสามารถนำไปใช้ เช่น แม็กนีเชียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียมไบคาร์โบเนต ซึ่งสารเหล่านี้จะเติมลงไปได้เราจะต้องตรวจเช็กด้วยเครื่องมือวัดคุณภาพน้ำ เพื่อจะได้เติมสารให้ถูกต้องและสามารถนำกลับมาใช้หมุนเวียนภายในบ่อเพาะเลี้ยงได้ถึง 3 ครั้ง ก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำ”

อย่างไรก็ตาม น้ำที่ปล่อยไปยังคงความสะอาด ไม่เน่าเสีย

ออโต้ฟีด ระบบพ่นอาหารอัตโนมัติ

ระยะเวลาเกือบ 10 ปี ที่หันมาทำฟาร์มกุ้งขาวระบบปิด คุณประเสริฐ สามารถขยายพื้นที่บ่อเลี้ยงได้มากถึง 20 บ่อ โดยแต่ละบ่อกินเนื้อที่ 5-6 ไร่ และนอกจากบ่อเลี้ยงแล้วยังมีบ่อพักน้ำไว้สำหรับกักเก็บน้ำทะเลที่หนุนในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ซึ่งในช่วงระยะเวลา 1-4 เดือนนี้คุณประเสริฐจะดึงน้ำมาเก็บไว้ในบ่อพัก เพื่อสำหรับใช้เลี้ยงกุ้งกว่า 30 ไร่ ซึ่งรวมแล้วเนื้อที่ทั้งหมดภายในฟาร์มมีมากถึง 200 ไร่

บ่อเพาะเลี้ยง สารอาหารสมบูรณ์

ได้กุ้งขาวคุณภาพเยี่ยม

ตรวจเช็กขนาดกุ้ง เพื่อเติมสารอาหารให้เหมาะสม

บ่อเพาะเลี้ยง ส่วนใหญ่คุณประเสริฐจะสร้างกินเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ โดยแต่ละบ่อจะมีพลาสติกที่มีความหนาพอสมควรคลุมบริเวณขอบบ่อ เพื่อป้องกันการพังทลายของดินในช่วงที่เปลี่ยนถ่ายน้ำเข้าและออก ส่วนด้านล่างบ่อจะเป็นพื้นดินตามธรรมชาติ

ขนาดของบ่อเพาะเลี้ยง ความสูงจะอยู่ที่ 1.80-2 เมตร ส่วนความกว้างของบ่อจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ แต่ไม่ควรเกิน 5-6 ไร่ เนื่องจากการจัดการและการควบคุมจะเป็นไปได้ยากและไม่ทั่วถึง

บ่อเพาะเลี้ยง กินเนื้อที่ 5-6 ไร่

สำหรับคุณภาพน้ำในบ่อเพาะเลี้ยง ความเค็ม ควรจะอยู่ระหว่าง 15-17 ppm ซึ่งต้องวัดความเค็มทุกสัปดาห์ มีความเป็นกรด-ด่าง (ค่า pH) ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยในช่วงเช้า ค่า pH ของน้ำในบ่อ ควรอยู่ที่ 7.3-7.5 และในช่วงเย็น ควรอยู่ที่ 8.5 มีแร่ธาตุในอัตราส่วนพอดี

การตรวจเช็กแร่ธาตุของน้ำในบ่อเลี้ยง คุณประเสริฐ จะทำทุก 3-5 วัน ส่วนของค่าออกซิเจนในน้ำจะวัดทุกวันในช่วงเช้าตรู่ จนกว่าจะจับขาย ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 90-120 วัน

1 ปี คุณประเสริฐ สามารถเลี้ยงกุ้งได้ถึง 3 รอบ โดยแต่ละบ่อจะจับได้ 20-25 ตัน โดยรวมเฉลี่ยปีหนึ่งๆ สามารถจับได้มากถึง 100 ตัน

บ่อพักน้ำ

และหลังจากที่จับกุ้งขายแล้ว บ่อเพาะเลี้ยงจะทำความสะอาดทุกครั้ง ด้วยการลอกเอาเลนที่อยู่ภายในบ่อออก จากนั้นก็ปล่อยบ่อตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ เพียงเท่านี้ก็สามารถเริ่มดึงน้ำที่เก็บไว้ในบ่อพักเข้าพร้อมกับปล่อยลูกกุ้ง ซึ่งอัตราการปล่อย บ่อขนาด 5-6 ไร่ จะปล่อยลูกกุ้ง ประมาณ 9 แสนตัว

คุณประเสริฐ ยังบอกอีกว่า กุ้งขาวเป็นสัตว์ชอบน้ำที่ค่อนข้างใส บ่อเลี้ยงสะอาด และมีออกซิเจนหมุนเวียนอยู่ตลอด ในส่วนของการให้อาหารจะใช้ระบบออโต้ฟีดด้วยเครื่อง จะปล่อยอาหารอัตโนมัติทุก 1-2 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง

กุ้งขาวจากบ่อ

ส่วนปริมาณอาหารที่พ่นออกมาในแต่ละนาทีขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณของกุ้งภายในบ่อเพาะเลี้ยง ซึ่งโดยเฉลี่ยในแต่ละวันจะใช้ประมาณ 500 กิโลกรัม

ต้นทุนการเลี้ยงแบบระบบปิด แน่นอน จะต้องสูงกว่าการเลี้ยงแบบธรรมดา ทั้งค่าอาหารที่ให้ทุกวัน อาหารเสริม แร่ธาตุต่างๆ ที่เติมลงไปในน้ำ แต่ด้วยระบบปิดสามารถช่วยป้องกันยับยั้ง ลดความเสี่ยงให้ผู้เพาะเลี้ยงไม่ต้องกังวลกับเรื่องของโรคที่จะเกิดขึ้น

คุณประเสริฐ ยังบอกถึงหัวใจหลักในการเลี้ยงกุ้งว่า จะเลี้ยงกุ้งได้ ต้องเลี้ยงน้ำให้ได้ สภาพน้ำและการบริหารจัดการน้ำจึงสำคัญยิ่งกว่าพันธุ์กุ้ง เพราะถึงแม้จะมีพันธุ์กุ้งที่แข็งแรงและมีคุณภาพมากแค่ไหน แต่หากดูแลน้ำได้ไม่ดี ก็ไม่เกิดผล เพราะฉะนั้นเราจึงต้องหมั่นดูแลบริหารจัดการน้ำให้มีเหมาะสมกับพันธุ์กุ้งแต่ละชนิด

“นอกจากการดูแลน้ำแล้ว การหาข้อมูลมาประกอบการเลี้ยงก็ต้องสามารถนำแหล่งข้อมูล วิชาความรู้มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม เพราะทุกๆ สิ่ง โดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้งต้องอาศัยประสบการณ์ การสังเกต เรียนรู้และรู้จักนำวิชาความรู้มาพลิกแพลงให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ สภาพน้ำและสภาพอากาศ ต้องรู้คุณสมบัติของดินและน้ำเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือ ความผิดพลาดของอดีตสามารถนำมาเป็นครูคอยสอน เพราะวงการการเลี้ยงกุ้งหลายคนที่ล้มเหลว สามารถนำความล้มเหลวนั้นมาเป็นบทเรียน และประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน” คุณประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย

การทำฟาร์มกุ้ง ถ้าเลี้ยงแล้วไม่ตาย ก็ไม่เก่ง ไม่มีประสบการณ์ หากท่านใดสนใจศึกษาเรียนรู้การเลี้ยงกุ้งขาว สามารถติดต่อได้ที่ คุณประเสริฐ อนุเวช บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด

………………..

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2563