กรมประมงคิดวิธีลดต้นทุน การเลี้ยงปลากะพงขาว

“ปลากะพงขาว” เป็นปลาน้ำกร่อย ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศไทย มีการเพาะเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ในบริเวณเขตจังหวัดชายทะเล เนื่องจากเลี้ยงง่ายและเนื้อมีรสชาติดี เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้เกษตรกรมีการเพาะเลี้ยงปลากะพงขาวจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันเกษตรกรยังต้องประสบปัญหาเกี่ยวกับต้นทุนในการเลี้ยงปลากะพงขาว เนื่องจาก 60 เปอร์เซ็นต์ ของต้นทุนการเลี้ยง เป็นค่าอาหาร ทั้งแบบการใช้ปลาสดจากธรรมชาติ และการใช้อาหารสำเร็จรูป

นอกจากนี้อาหารแต่ละชนิดยังมีคุณค่าทางอาหารและโภชนาการที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้น การพัฒนาดัชนีชี้วัดการเจริญเติบโตของปลากะพงขาวที่ตอบสนองต่อโภชนาการ เพื่อให้ได้อาหารที่มีโภชนาการดีและทำให้ปลามีการเจริญเติบโตดี โดยเฉพาะส่วนของเนื้อปลากะพงขาวจะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกรได้

ทีมนักวิจัยกรมประมง จึงได้ศึกษา “ การใช้หน่วยพันธุกรรม  Insulin-like Growth Factor (IGF) และ Myostatin (MSTN) เพื่อเป็นดัชนีวัดการเจริญเติบโตประเมินคุณค่าทางอาหาร และกระตุ้นการเจริญเติบโตของปลากะพงขาว

ดร.พิชญา ชัยนาค นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา กรมประมง หนึ่งในทีมนักวิจัย เปิดเผยว่า ได้ศึกษาหน่วยพันธุกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อมาใช้เป็นดัชนีวัดการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อในปลากะพงขาว  โดยอาศัยเทคนิคอณูชีวโมเลกุล  (molecular technique)  ซึ่งเป็นดัชนีที่ดีกว่าการวัดการเจริญเติบโตด้วยการวัดน้ำหนัก ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของเนื้อปลาอย่างแท้จริง  การศึกษาพบว่าปลาที่เจริญเติบโตได้ดีและมีกล้ามเนื้อมากจะมีการแสดงออกของหน่วยพันธุกรรม IGF-I  สูง และ  MSTN  ต่ำ

การศึกษาดังกล่าวสามารถพัฒนามาใช้ประโยชน์ในการวางแผนการให้อาหารที่เหมาะสมแก่ปลากะพงขาวเพื่อช่วยเกษตรกรลดต้นทุนค่าอาหาร  เนื่องจากการพบความสัมพันธ์ของหน่วยพันธุกรรมทั้งสองกับการเจริญเติบโตของปลากะพงขาว ภายใต้โภชนาการต่างกัน จึงเป็นแนวทางที่ทีมนักวิจัยจะดำเนินการใช้หน่วยพันธุกรรม IGF-I

 เพื่อเป็นวัตถุดิบเสริมในอาหาร และหาวิธีการลดหรือหยุดการทำงานของหน่วยพันธุกรรม MSTN เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเจริญเติบโตของปลากะพงขาว และพัฒนาหน่วยพันธุกรรม IGF-I และ MSTN ให้เป็นเครื่องหมายโมเลกุลสำหรับการศึกษาและพัฒนาด้านอาหารสำหรับปลากะพงขาวต่อไปในอนาคต

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์