เลี้ยงปลาผสมผสาน อย่างพอเพียง ผลตอบแทนสูง ต้นทุนการผลิตต่ำ

อาชีพเพาะเลี้ยงปลา เป็นหนึ่งในอาชีพยอดนิยมที่เกษตรหันมายึดทำเป็นอาชีพ โดยมีระบบการเลี้ยงที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเกษตรกรแต่ละคนจะเป็นผู้กำหนดเองโดยจะดูตามลักษณะของสถานที่และทุนที่ใช้ในการเพาะเลี้ยง

การเพาะเลี้ยงปลา จริงแล้วทำได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งจากตำราที่ได้เขียนไว้เกี่ยวกับวิธีการเพาะเลี้ยงที่เผยแพร่นั้น จะเห็นว่ามีแนวทางการเพาะที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความรู้ความถนัดของผู้เลี้ยงแต่ละคน แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารูปแบบการเลี้ยงใดก็ตาม สุดท้ายเกษตรกรส่วนใหญ่จะคำนึงถึงต้นทุนการผลิต ผลตอบแทนที่ได้ ความคุ้มค่า และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อธรรมชาติเป็นหลัก

บ่อเพาะเลี้ยงและกระชังปลา

เช่น ป้าละมาย วงษ์เสถียร เจ้าของกระชังปลาในบ่อดิน แห่งตำบลคำหยาด อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ซึ่งมีรูปแบบการเลี้ยงปลากระชังในบ่อดินที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากใช้ต้นทุนในการเลี้ยงค่อนข้างน้อย อีกทั้งด้วยเหตุผล 2 ประการหลักๆ คือ การใช้ขนมคบเขี้ยวประเภท มาม่า ขนมปัง เป็นอาหารเลี้ยงปลา และในระหว่างเลี้ยงหรือจับปลาขายไม่เคยดูดน้ำทิ้ง หรือเปลี่ยนถ่ายน้ำในบ่อเลี้ยง ทำให้สามารถเลี้ยงได้ตลอดทั้งปีโดยที่ไม่มีโรคเข้ามารบกวน

ดูแลให้อาหาร เช็คดูการเจริญเติบโต

ป้าละมาย เริ่มเลี้ยงหันมาเพาะเลี้ยงปลากระชังในบ่อดิน ราวปี 2554 ป้าละมายเล่าให้ฟังว่า เดิมทำอาชีพรับซื้อเสื้อผ้ามือสองมาขายตามตลาดนัดแถวบ้าน ปัจจุบันนี้ก็ยังทำอยู่ ช่วงต้นปี 2552 หลานชายได้มาชื้อที่ดินแถวบ้าน ซึ่งเจ้าของเดิมขุดเอาทรายไปขาย พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นบ่อน้ำสะอาด สภาพแวดล้อมโดยรอบอุดมสมบูรณ์ดี เหมาะสมสำหรับเพาะเลี้ยงปลาในกระชัง ป้าละมายจึงหันมาเลี้ยงปลาแบบลองผิดลองถูก อาศัยสอบถามคนที่เคยเลี้ยงปลามาก่อนและค่อยๆ สะสมประสบการณ์ระหว่างการเลี้ยงปลา จนกระทั่งประสบความสำเร็จในที่สุด

“ เดิมพื้นที่แห่งนี้ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร จึงสนใจมาทำบ่อเลี้ยงปลา แต่การเลี้ยงปลาในบ่อดินใช้ต้นทุนสูง เพราะระบบการจัดการต้องใช้ทั้งแรงงานและต้องเลี้ยงในปริมาณมากๆ ถึงจะคุ้มทุน ป้าจึงสนใจเลี้ยงปลาในกระชังแทนเพราะใช้ต้นทุนน้อย ดูแลจัดการได้ง่ายกว่าการเลี้ยงในบ่อดิน”

ป้าละมายเริ่มต้นจากเลี้ยงปลาจำนวน  3-4 กระชัง เลี้ยงปลาหลากหลายชนิดเช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาสวาย ปลาเทโพ อย่างละ 1 กระชัง โดยใช้กระชังที่ทำจากไม้ไผ่และไม้ที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น สามารถใช้งานได้ประมาณ 2 รอบ สำหรับกระชังทำมาจากไม้ไผ่นำมาต่อเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสร้างเป็นกระชังปลา ขนาดประมาณ 3×5 เมตร ส่วนเนื้ออวนใช้ตาขนาดเล็กๆ ที่หาชื้อตามท้องตลาดมาเย็บตามขนาดความกว้างและยาวกระชัง

ป้าละมาย และหลานชาย

หลังจากเตรียมกระชังเสร็จเรียบร้อย จึงนำลูกปลาที่ผ่านการอนุบาลนำมาปล่อยลงในกระชัง ประมาณ 400-600 ตัว เดือนแรกให้อาหารเม็ดสำเร็จรูป (อาหารปลาเล็ก) พอเข้าเดือนที่ 2 เปลี่ยนมาใช้อาหารเม็ดสำเร็จรูป (อาหารปลาใหญ่) ไปจนถึงระยะจับปลาขายได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน

Advertisement

ป้าละมายเลี้ยงปลารุ่นแรก จนกระทั่งจับขายได้ หลังนำรายได้มาหักต้นทุนค่าใช้จ่าย ซึ่งต้นทุนส่วนใหญ่ คือ ค่าอาหารซึ่งมีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สู้ราคาไม่ไหวจึงเปลี่ยนมาใช้อาหารที่มีต้นทุนต่ำ แต่ปลากินอิ่มและสามารถเจริญเติบโตเหมือนเดิม

ปลาทับทิม ตลาดต้องการต่อเนื่อง

“สู้ต้นทุนค่าอาหารสำเร็จรูปไม่ไหว จึงเปลี่ยนมาใช้ขนมขบเคี้ยวราคาถูก ที่หาซื้อได้ง่ายจากห้างสรรพสินค้าที่ล้างสต็อก คือ ขนมปัง มาม่า สลับกับการให้อาหารเม็ดสำเร็จรูปในทุกๆ เดือน โดยนำมาบดให้เป็นชิ้นเล็กๆ ให้ปลากินได้สะดวก โดยให้อาหารเช้า-เย็น วันละ 2 เวลา

Advertisement

หลังจากเปลี่ยนอาหารปลา คอยสังเกตว่า ปลามีการเจริญเติบโตช้ากว่าการให้อาหารแบบเดิมหรือไม่ ปรากฎว่า ปลาสามารถเจริญเติบโตปกติเหมือนกับอาหารเม็ดสำเร็จรูป ที่สำคัญเนื้อปลาแน่น หวาน ไม่คาว น้ำที่เลี้ยงปลาก็ไม่เสีย สามารถเลี้ยงปลาได้ตลอดทั้งปีโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำออก”

ภายในบ่อไม่อัดแน่น เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี

ผลการทดสอบสูตรอาหารปลาในช่วงรุ่นที่ 1 ทำให้ป้าละมายมองเห็นแนวทางการเลี้ยงปลาอย่างลดต้นทุนได้ จึงเริ่มขยายกระชังปลาเพิ่มขึ้น พร้อมกับพัฒนาการเลี้ยงตามแบบฉบับป้าละมาย โดยเลี้ยงปลาปีละ 3 รอบ ๆ ละ 3 รุ่น แต่ละรุ่นจะไม่เร่งอาหารในช่วงใกล้จับปลาออกขาย แต่จะเน้นให้อาหารปลาที่ใช้ระยะเวลาเลี้ยงนานกว่าชนิดอื่น คือ ประมาณ 5 เดือนแทน ทำให้ต้นทุนค่าอาหารไม่สูงมากนัก

อาหารเม็ดสำเร็จรูป

“  ทุกวันนี้ เลี้ยงปลาจำนวน 20 กระชัง เริ่มจากนำปลาสลิด ปลากราย เข้ามาเลี้ยงเพิ่มเติม ซึ่งจะได้ราคามากกว่าปลาที่เลี้ยงมา ส่วนปลาอื่นๆ ที่เคยเลี้ยงก็ยังเลี้ยงอยู่ โดยเฉพาะปลาทับทิมและปลาดุกซึ่งเป็นปลาที่มีราคาปานกลาง คนในชุมชนมีกำลังชื้อ มีผลผลิตเท่าไหร่ก็ขายได้หมด ซึ่งตลาดหลัก คือ ตลาดนัดในชุมชุน ปลา 4-5 ตัวต่อกิโลกรัมขายได้  50 บาท  ซึ่งปลา 1 กระชัง จะได้ผลผลิตประมาณ 60-70 กิโลกรัม (3,000-3,500 บาท/กระชัง)”

หากใครสนใจระบบการเลี้ยงปลา ตุ้นทุนต่ำแต่ได้ปลาคุณภาพและปริมาณ สามารถสอบถามข้อมูลการเลี้ยงปลาเพิ่มเติมกับป้าละมาย ได้ที่ บ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 2 ตำบลคำหยาด อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง

………………..

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสที่ 21 มกราคม พ.ศ.2564