ผู้เขียน	สุรเดช สดคมขำ
เผยแพร่	วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564

ปูนา ในปัจจุบันกำลังเป็นสัตว์เลี้ยงที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรหลายภูมิภาค เพราะปูนาในแหล่งธรรมชาติ หรือพื้นที่นามีจำนวนลดลงเมื่อเทียบกับอดีต ซึ่งปูนาในสมัยก่อนนั้นสามารถจับมาประกอบอาหาร หรือถ้าได้จำนวนมากสามารถจำหน่ายจนเกิดรายได้ แต่ด้วยหลายปีที่ผ่านมาสภาพแวดล้อมและการทำเกษตรที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อปูนาในธรรมชาติมีจำนวนน้อยลง จึงทำให้ปูนามีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ต่อมาจึงมีผู้คิดเลี้ยงปูนามากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ต่อความต้องการของตลาด เป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้ไม่น้อยทีเดียว

คุณอุทิศ พัฒบุบผา อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 4 ตำบลม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เห็นถึงช่องทางการทำตลาดของปูนา จึงเริ่มสนใจที่จะเลี้ยงอย่างจริงจัง โดยเธอได้ไปศึกษาการเลี้ยงจากแหล่งเลี้ยงที่ประสบผลสำเร็จ จากนั้นนำองค์ความรู้ที่ได้มาปรับใช้กับพื้นที่บ้านของเธอเอง จึงทำให้ปูนาเป็นสัตว์ที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัวของเธอในเวลานี้

คุณอุทิศ เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเดิมทีทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงที่ทำงานประจำอยู่นั้นได้มีโอกาสกลับมายังบ้านเกิด ในบางช่วงที่ทำเมนูส้มตำก็อยากได้ปูนามาเป็นเครื่องเคียง แต่ด้วยไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ปูนาในธรรมชาติเริ่มหาได้น้อย หรือแทบไม่มีเลย จึงทำให้เธอเริ่มมีความสนใจที่อยากจะเลี้ยงปูนาในเวลาต่อมา โดยการเรียนรู้ ขั้นแรกสืบค้นจากสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ต่อมาเมื่อเห็นแหล่งเลี้ยงที่ประสบผลสำเร็จมีการเปิดสอนอบรมในเรื่องของการเลี้ยง เธอจึงได้เข้าอบรมและเรียนรู้อย่างจริงจังแบบครบวงจร และนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาในพื้นที่ของเธอเองด้วยการเลี้ยงปูนาเป็นอาชีพ

“ช่วงที่เราศึกษาใหม่ๆ เห็นคนที่เขาเลี้ยงปูนาประสบผลสำเร็จ เราก็ลืมที่จะสนใจอย่างจริงจัง เพราะมองว่าปูนาน่าจะเป็นอาชีพทำเงินได้จริง ซึ่งเรากลับมาบ้านที่ต่างจังหวัดทีไร อยากกินปูนาก็หาจับในแหล่งธรรมชาติแทบไม่มีแล้ว จึงเป็นสิ่งที่จุดประกายให้เราว่า ปูนาเป็นสัตว์ที่น่าสนใจและเลี้ยงสร้างรายได้ดี จึงทำให้เราอยากเรียนรู้เรื่องการเลี้ยงให้ถูกต้อง จึงได้ไปเข้าอบรมและหาข้อมูลต่างๆ พอมีองค์ความรู้พอสมควร ก็เลยไปปรับพื้นที่บ้านของเราให้เหมาะสมกับการเลี้ยงปูนา ค่อยๆ ขยับขยายมาเรื่อยๆ จนสามารถทำการตลาดได้จนถึงทุกวันนี้” คุณอุทิศ เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเลี้ยงปูนา

ในช่วงแรกที่ตัดสินใจที่จะเลี้ยงปูนา คุณอุทิศ บอกว่า ซื้อพ่อแม่พันธุ์มาเริ่มต้นเลี้ยง ประมาณ 900 คู่ ระยะแรกเลี้ยงในบ่อผ้าใบก่อน จากนั้นเมื่อปูขยายพันธุ์ออกมาเรื่อยๆ จึงมีการขยายบ่อเลี้ยง ทั้งการขุดบ่อดินและบ่อปูนไปพร้อมๆ กัน โดยอัตราส่วนการปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงในบ่อ จะปล่อยอัตราส่วนตัวผู้ 2 ตัว ต่อ ตัวเมีย 3 ตัว จากนั้นรอประมาณ 4-5 สัปดาห์ แม่พันธุ์ปูนาก็จะเริ่มตั้งท้องโดยสังเกตุในระยะนี้คือ แม่พันธุ์ที่ตั้งท้องจะสลับอยู่บนพื้นที่แห้งกับอยู่ในน้ำ และซ่อนตัวในที่กำบัง เมื่อเช็กที่หน้าท้องแล้วเห็นว่ามีไข่เต็มหน้าท้องแล้ว ให้จับแยกแม่พันธุ์ออกจากบ่อรวมมาอยู่เฉพาะแม่ที่ตั้งท้องในบริเวณบ่อที่เงียบสงบ

จากระยะมีไข่ ดูแลต่อไปอีก 1-2 เดือน บนหน้าท้องแม่พันธุ์จะเริ่มมีลักษณะเป็นตัวลูกปู ถ้าเห็นลูกปูมีสีดำ แสดงว่าค่อนข้างแข็งแรง จะปล่อยให้ลูกหลุดออกจากหน้าท้องเอง พร้อมกับบางตัวจะช่วยทำคลอดด้วยอีกวิธีหนึ่ง จากนั้นจึงนำลูกปูที่ได้ไปอนุบาลและเลี้ยงให้โตต่อไป

“อาหารที่ให้ปูนากินก็จะเป็นอาหารปลาดุกเม็ดเล็ก สลับกับผลไม้ที่หาได้จากสวนของเรา ก็จะมีกล้วยมีมะม่วงสุกและไม้ผลอื่นๆ ส่วนลูกปูนาเริ่มแรกก็จะให้กินอาหารปลาดุกบดละเอียด สลับกับไข่แดง และก็ยังมีไข่ตุ๋นด้วยบางช่วง ซึ่งลูกปูก็จะเลี้ยงไปให้อายุประมาณ 6-7 เดือน เราก็ถึงจะจำหน่ายเป็นปูพ่อแม่พันธุ์ ส่วนน้ำที่ใช้เลี้ยงถ้าเราเห็นภายในบ่อเริ่มมีน้ำเสีย 2-3 วัน เราก็จะถ่ายเก่าออกและเปลี่ยนน้ำใหม่เข้าไป ซึ่งปูนี่ถือว่าเลี้ยงง่ายมาก ขอให้น้ำสะอาดอย่างเดียวก็พอ ในเรื่องของโรคต่างๆ แทบไม่มีทำให้ปูตาย” คุณอุทิศ บอก

สำหรับการทำตลาดเพื่อจำหน่ายพ่อแม่พันธุ์ปูนา คุณอุทิศ เล่าว่า ในยุคนี้สื่อโซเชียลมีเดียมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยลูกค้าที่สนใจก็จะเข้ามาติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากการขายออนไลน์ เมื่อลูกค้าตกลงปลงใจที่จะซื้อก็จะมีการนัดเข้ามาชมฟาร์มเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการเลี้ยงต่างๆ จากนั้นทางฟาร์มก็จะแนะนำการเลี้ยงให้กับลูกค้าโดยไม่หวงองค์ความรู้

โดยราคาปูนาที่เป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่ผ่านการผสมตั้งท้องสมบูรณ์แล้ว ราคาจำหน่ายอยู่ที่คู่ละ 100 บาท ส่วนที่เป็นปูวัยหนุ่มสาว อยู่ที่คู่ละ 80 บาท พร้อมกันนี้ยังนำปูที่ไม่สมบูรณ์มาแปรรูปเป็นน้ำพริกปูนา และนำปูนามาผสมสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบที่สามารถเพิ่มมูลค่าจำหน่ายได้ราคาอย่างดี

“สำหรับฟาร์มเราตอนนี้ บอกเลยว่าปูนาถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้เราได้ค่อนข้างดี ตอนนี้ก็เรียกได้ว่ากลับมาอยู่บ้านเต็มตัวแล้ว เพื่อวางแผนที่จะทำการเลี้ยงปูนาให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น อยากที่จะสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย ก็จะช่วยให้เรามีรายได้หลายทาง คนที่สนใจอยากจะเลี้ยงปูนาเป็นอาชีพ ก็อยากจะแนะนำว่าสิ่งแรกที่ต้องมีก่อนคือเรื่องของใจรักและมีความอดทน เพราะปูนากว่าจะออกลูกหลานให้เราพร้อมที่จะขายได้นั้น เราต้องรอเวลานิดหนึ่ง เมื่อเราทำได้แล้ว ทำด้วยใจรัก ปูนาสร้างรายได้ให้กับเราได้อย่างแน่นอน” คุณอุทิศ บอก

สำหรับท่านใดสนใจในเรื่องของการเลี้ยงปูนา ต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ หรือปรึกษาในเรื่องต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอุทิศ พัฒบุบผา หมายเลขโทรศัพท์ (091) 731-0813