ที่มา | เทคโนโลยีการประมง |
---|---|
ผู้เขียน | อำพน ศิริคำ |
เผยแพร่ |
ปลากดเหลือง เป็นปลาที่ประกอบอาหารได้หลายชนิด รสชาติอร่อย ตลาดต้องการสูง ทำให้ขายได้ราคาดี ประกอบกับมีการนำมาเลี้ยงโดยใช้บ่อผ้าใบ ทำให้สะดวกต่อการจัดการ สามารถสร้างงานสร้างอาชีพได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น คุณกฤษณะ รถหามแห่ เกษตรกรรุ่นใหม่ (Young smart farmer) หนองบัวลำภู นำมาทดลองเลี้ยง และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

คุณกฤษณะ รถหามแห่ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 3 ตำบลนาดี อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู 39270 โทร. 088-277-1292 ให้ข้อมูลว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดร้อยเอ็ด

ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และในปี 2561 ได้เดินทางไปทำงานที่ จุรีย์ฟาร์ม จังหวัดจันทบุรี (ตำแหน่งนักวิชาการฟาร์มกุ้ง) ต้นปี 2562 ได้ย้ายไปเป็นนักวิชาการส่งเสริมการเลี้ยงกุ้ง ดูแล 2 จังหวัด คือ จันทบุรี และตราด ได้ไปเห็นเกษตรกรเลี้ยงกุ้งในบ่อผ้าใบ เลยเกิดความคิดอยากทดลองเลี้ยงปลาในบ่อผ้าใบ จึงเริ่มศึกษาข้อมูลและทดลองเลี้ยงประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2563
เลี้ยงปลากดเหลือง ราคาดี ตลาดต้องการสูง

เริ่มจากการเตรียมบ่อผ้าใบ โดยทำบ่อเลี้ยงอยู่หลายขนาด ได้แก่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 18 เมตร จุน้ำ 250 คิว จำนวน 2 บ่อ และบ่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ขนาด 12 เมตร จุน้ำได้ 110 คิว จำนวน 1 บ่อ อัตราการเลี้ยง 50-70 ตัว/ตารางเมตร บ่อควรมุงด้วยซาแรนอย่างหนา หรือถ้าจะให้ดี ให้มุงหลังคาแบบถาวรเพราะจะสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงของความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของน้ำได้ดี

สำหรับบ่อที่ตนเลี้ยง เป็นบ่อผ้าใบมือสอง ขนาด 250 คิว ราคา 25,000 บาท/บ่อ และบ่อขนาด 110 คิว ราคา 15,000 บาท/บ่อ และท่อ pvc ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 70 ตัว ตัวละ 120 บาท รวม 8,400 บาท เมื่อเตรียมบ่อผ้าใบแล้ว ทำการสูบน้ำจากบ่อบาดาลลงในบ่อผ้าใบ โดยใช้โซล่าเซลล์ ระดับน้ำสูงประมาณ 70 เซนติเมตร

จากนั้นนำปลากดเหลืองใหญ่สายพันธุ์น้ำโขงมาปล่อย บ่อขนาด 250 คิว (เส้นผ่าศูนย์กลาง 18 เมตร) ปล่อยในอัตรา 10,000-15,000 ตัว/บ่อ บ่อขนาด 110 คิว อัตราการปล่อย 4,000-6,000 ตัว/บ่อ โดยซื้อลูกปลามาจากอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ขนาด 1 นิ้ว หรือ 2-3 เซนติเมตร ราคาตัวละ 2-3 บาท ขนาด 3-5 เซนติเมตร อาหารที่ให้เป็นอาหารกบเล็ก โปรตีน 37% ให้เช้าเย็น ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 120-180 วัน ผลผลิต 9-12 ตัว/กิโลกรัม ขนาดบ่อ 250 คิว ได้น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม ราคาขายส่งหน้าฟาร์ม กิโลกรัมละ 120 บาท ขายปลีก กิโลกรัมละ 150 บาท โดยมีพ่อค้าจากจังหวัดใกล้เคียงมารับซื้อที่ฟาร์ม ไม่เพียงพอกับความต้องการ และยังมีพ่อค้ารายย่อยในพื้นที่อีกจำนวนมาก

ปัญหาในการเลี้ยงปลากดเหลือง ส่วนมากจะเกิดปรสิตภายนอก เช่น เห็บระฆัง วิธีแก้ไข ให้ลดน้ำลงครึ่งบ่อแล้วสาดฟอร์มาลีน 30 ppm ในการเลี้ยงจะต้องใช้เครื่องเติมอากาศตลอดเวลา (ขนาด 3 แรง 1 ตัว ราคา 12,000 บาท) เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่ปลา

แนวทางในการพัฒนาฟาร์ม

คุณกฤษณะ บอกอีกว่า จะพัฒนากิจการฟาร์มหลายอย่าง แบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนี้

- เพาะพันธุ์ลูกปลากดเหลืองเอง เพราะจะทำให้เราสามารถเลี้ยงได้ตามแผน บางครั้งช่วงที่เราต้องการเลี้ยงแต่ไม่มีลูกปลา จะวางแผนให้มีผลผลิตออกทุกเดือน ขณะนี้เตรียมพ่อแม่พันธุ์ไว้แล้ว
- เลี้ยงปลาชะโอน (ปลาเซียม) ซึ่งเป็นปลาเนื้ออ่อน คนนิยมบริโภค เตรียมพ่อแม่พันธุ์ไว้แล้วเช่นกัน ราคาปลาเนื้ออ่อน กิโลกรัมละ 280 บาท ปลาอีกชนิดหนึ่งที่ราคาดีมากตลาดต้องการสูง คือปลานาง (ปลาแดง) กิโลกรัมละ 400 บาท กำลังจะทดลองเลี้ยงเช่นกัน
- ผลิตอาหารปลาเองภายในฟาร์ม โดยจะใช้โปรตีนสูงกว่าที่จำหน่ายทั่วไป และตั้งเป้าจะใช้เวลาเลี้ยงให้สั้นลง จะเห็นว่าปลากดเหลืองเป็นปลาเนื้ออ่อนที่มีการเพาะเลี้ยงยังไม่มากนัก และเป็นปลาที่มีราคาสูง เป็นที่ต้องการของตลาด ราคา 120-150 บาท/กิโลกรัม และการเลี้ยงปลาในบ่อผ้าใบ เป็นการเลี้ยงปลาใช้น้ำน้อย การจัดการง่าย สามารถทำเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมได้อย่างสบาย และยังใช้พื้นที่น้อย แต่ผลตอบแทนคุ้มค่ามากกว่าเลี้ยงในบ่อดิน สอบถามเพิ่มเติมได้ โทร. 088-277-1292



สำหรับคนหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 17-45 ปี ไม่ว่าท่านจะจบการศึกษาด้านใดก็ตาม หากสนใจจะประกอบอาชีพการเกษตร สามารถสมัครเข้าเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาให้เป็น Young smart farmer เพื่อเข้ารับการสนับสนุนจากส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการสนับสนุนหลายรูปแบบ เช่น จัดเวทีสัญจรเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สนับสนุนปัจจัยการผลิต เป็นต้น สมัครได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอตามภูมิลำเนา หรือสอบถามเพิ่มเติมที่สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู โทร. 042-316-788