ผู้เขียน	สุรเดช สดคมขำ
เผยแพร่	วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2565

ปลาดุก เป็นปลาที่หาซื้อได้ง่าย และสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู เพราะปัจจุบันมีการเลี้ยงกันหลายพื้นที่ เป็นปลาที่มีความอดทน เลี้ยงง่าย เจริญเติบโตรวดเร็ว ต้านทานโรคและสภาพแวดล้อมได้ดี

ซึ่งปลาดุกที่นิยมเลี้ยงมีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน เช่น ปลาดุกด้าน ปลาดุกยักษ์ หรือปลาดุกรัสเซีย ปลาดุกบิ๊กอุย ฯลฯ ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงว่าจะเลือกสายพันธุ์ไหนและมีทิศทางในเรื่องการตลาดอย่างไร

คุณวิเชียร พันลพ อยู่บ้านเลขที่ 220 หมู่ที่ 3 ตำบลวังม่วง อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี ได้นำปลามาเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพทำเงินสำหรับเขา เป็นปลาดุกพันธุ์บิ๊กอุยเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างปลาดุกอุยเพศเมีย และปลาดุกเทศเพศผู้ ซึ่งการขยายพันธุ์ของปลา 2 ชนิดนี้ ลูกพันธุ์ที่ได้ออกมามีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี มีความทนทานต่อโรคสูง จึงได้มีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด

คุณวิเชียร เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนยึดทำเกษตรกรรมแบบปลูกพืช เน้นเป็นพืชไร่ที่ทำกันมาอยู่เดิม แต่ด้วยสมัยนั้นสินค้าทางการเกษตรก็ยังขายไม่ได้ราคาเท่าที่ควร จึงเกิดแนวความคิดที่อยากจะทำเกษตรด้านอื่น จึงได้มาทดลองเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย โดยใช้บ่อที่อยู่บริเวณบ้านโดยเช่าเจ้าของที่ดินมาเลี้ยงปลา

“ช่วงนั้นภรรยาก็สนับสนุน คิดว่าเราต้องมีการปรับเปลี่ยน เพราะถ้าหากมาทำอย่างเดียว สงสัยจะมีแต่หนี้สิน ทีนี้ก็พอมีเงินทุนสำรองอยู่บ้าง ก็เลยมาทำบ่อสำหรับเลี้ยงปลาดุก โดยหาซื้อพันธุ์ลูกปลาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ผลปรากฏว่าเลี้ยงแล้ว ประสบผลสำเร็จจับขายได้ราคา ก็เลยทำอย่างจริงจังมาตั้งแต่นั้น จนเป็นอาชีพหลักมาจนถึงปัจจุบัน” คุณวิเชียร เล่าถึงที่มา

ในขั้นตอนของการเลี้ยงปลา คุณวิเชียร บอกว่า บ่อเป็นพื้นที่ที่มีอยู่เดิมที่เจ้าของที่ดินขุดไว้อยู่แล้ว เพียงแต่เขามาเช่าเพื่อเลี้ยงปลาดุกเท่านั้น ขนาดของบ่อจึงมีความแตกต่างกันไป บางบ่อมีเนื้อที่ ขนาด 1 ไร่ หรือขนาดบ่อ 2 งาน ก็มี จะปล่อยลูกปลาเลี้ยงแต่ละบ่อตามความเหมาะสม

การเตรียมบ่อ จะใช้ปูนขาวหว่านให้ทั่วบริเวณก้นบ่อ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อและตากบ่อให้แห้ง จากนั้นทำน้ำให้เขียวด้วยการใส่ขี้วัวลงไปสำหรับผลิตอาหารในช่วงแรก นำลูกปลาดุกบิ๊กอุยไซซ์นิ้วมาใส่เลี้ยงลงในบ่อ ตั้งแต่ 50,000 ตัว ขึ้นไป โดยความหนาแน่นของการเลี้ยงจะดูตามความเหมาะสมของขนาดบ่อเป็นหลัก

เมื่อปล่อยลูกปลาลงไปเลี้ยงแล้ว คุณวิเชียร บอกว่า ช่วงแรกจะให้กินอาหารกบเม็ดเล็ก ที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนอยู่ที่ 32 โดยให้กินอยู่ประมาณ 7 วัน ก็จะเปลี่ยนอาหารแบบเหยื่อสดที่มีส่วนผสมของกระดูกแข้งไก่ แป้งสาลี เศษขนมปัง นำส่วนผสมเหล่านี้มาบดเข้าด้วยกันด้วยเครื่องบดที่เขาคิดขึ้นเอง

“พอเราเข้ามาอยู่ในวงการเลี้ยงอย่างจริงจัง การทำเครื่องมือเพื่อเป็นสิ่งทุ่นแรงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างการให้อาหารสมัยก่อนนี่บอกเลยลำบากมาก เราทำเองทุกขั้นตอน กว่าจะบดเสร็จ กว่าจะเอาไปให้กิน ต้องใช้เวลามาก พอมาเลี้ยงเป็นอาชีพแล้ว จึงมองว่าการประหยัดเรื่องเวลาก็สำคัญ จึงได้ออกแบบเครื่องบดอาหาร ที่สามารถทำงานได้ไว และเป็นต้นแบบให้เพื่อนๆ เกษตรกรด้วยกันนำไปปรับใช้ในการบดอาหารของฟาร์มตนเอง ก็ช่วยได้มากในเรื่องนี้” คุณวิเชียร บอก

เรื่องโรคที่เกี่ยวกับการเลี้ยงปลาดุก คุณวิเชียร บอกว่า จะมีให้เห็นบ้างในช่วงเข้าสู้หน้าฝน เพราะบางครั้งไม่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ที่ไหลมากับน้ำลงเข้าสู่บ่อได้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำใหม่เข้าบ่อเลี้ยง พร้อมทั้งมีการป้องกันและจัดการระบบที่ดี ก็จะทำให้ไม่มีการสะสมของโรค ปลาดุกที่เลี้ยงมีความแข็งแรงเจริญเติบโตได้ดี

ระยะการเลี้ยงปลาจนจับขายได้ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ปลาจะได้ขนาดไซซ์ที่ตลาดต้องการ ซึ่งในการเลี้ยงแต่ละครั้งมีไซซ์ที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่สามารถขายได้หมด โดยแบ่งออกเป็นเกรดต่างๆ ตามราคาลดลั่นกันไป

สำหรับตลาดเพื่อส่งขายปลาดุกบิ๊กอุย คุณวิเชียร เล่าว่า จะมีพ่อค้าที่ติดต่อกันไว้มารับซื้อถึงหน้าฟาร์ม โดยพ่อค้าจะมีคนจับปลาให้เรียบร้อย ส่วนเขาเองรอนับยอดและรับเงินจากการขายเพียงอย่างเดียว ซึ่งราคาขายสามารถขึ้นลงได้ตามกลไกตลาด

ราคาปลาดุกบิ๊กอุยแบ่งออกตามขนาดไซซ์จัมโบ้ ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 22 บาท ไซซ์ขนาดสำหรับย่างเค็ม อยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท และไซซ์ขนาดที่ต่ำกว่า 2 ไซซ์ข้างต้น จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท โดยการขายอยู่ที่แต่ละฟาร์มจะตกลงว่าจะขายในรูปแบบไหน

“การเลี้ยงปลาดุก หัวใจสำคัญเลยคือ เรื่องการประหยัดต้นทุนในเรื่องของอาหาร เพราะถ้าสามารถทำอาหารแบบประหยัดต้นทุนได้ การเลี้ยงก็จะมีผลกำไร ต่อให้ราคาบางช่วงลงมาถึง 20 เราก็ยังพออยู่ได้ ตอนนี้ก็มีเช่าบ่อบริเวณใกล้เคียงเลี้ยงเพิ่มด้วย มีปริมาณการเลี้ยงมากขึ้น ก็ถือว่าการเลี้ยงปลาดุก สามารถทำให้เรามีเงินเก็บเลี้ยงตัวเองได้” คุณวิเชียร บอก

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยเพื่อเป็นอาชีพ คุณวิเชียร แนะนำว่า ควรหาแหล่งอาหารที่ได้ในราคาต่ำเพื่อการเลี้ยงจะได้ประหยัดต้นทุน รองลงมาคือ เรื่องการตลาด หากมีตลาดที่แน่นอนก็สามารถขายได้ตลอด โดยที่ไม่ต้องลำบากและไม่โดนกดราคา ส่วนเรื่องการเลี้ยงต่างๆ สามารถสอบถามจากแหล่งที่เขาเลี้ยงประสบผลสำเร็จแล้ว นำมาปรับใช้กับการเลี้ยงของตนเอง ก็จะช่วยทำให้เกิดการเรียนรู้และมีประสบการณ์ในเรื่องการเลี้ยงปลาดุกให้ชำนาญมากยิ่งขึ้น

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวิเชียร พันลพ หมายเลขโทรศัพท์ 087-935-3536

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2561