ดอกมณฑารพ ดอกไม้สวรรค์

ดอกมณฑารพ  เป็นดอกไม้ทิพย์ที่โปรย ปรายลงมาบูชาพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ในบาลีบันทึกไว้อย่างนี้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปถึงเมืองกุสินาราได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

“อานนท์ เธอจงจัดตั้งที่นอนระหว่างต้นสาละคู่ มีศีรษะไปทางทิศเหนือ เราลำบากกายนัก จักนอน” ลำดับนั้นพระพุทธองค์ทรงประทับสีหไสยาสแล้ว “มีอัศจรรย์ดอกสาละผลิผิดฤดูกาล โปรยลงมาบน พระสรีระ ดอกมณฑารพ จุรณ์จันทร์ไม้จันทร์ ดนตรีล้วน”

ดอกมณฑารพ เป็นดอกไม้ทิพย์ที่ไม่มีในโลกมนุษย์ และจะปรากฏเฉพาะตอนที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับพระพุทธเจ้า เช่น ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน วันจาตุรงคสันนิบาต และวันที่ทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร เป็นต้น ซึ่งเทพเทวดาจะ บันดาลให้ดอกมณฑารพตกลงมาจากเทวโลก

เรื่องของดอกไม้ทิพย์ มณฑารพนี้ยังมีอีกคือ เมื่อพระมหากัสสปะ อัครสาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้าผู้เป็นประธานในการทำสังคายนาพุทธศาสนาครั้งที่ 1 ตั้งใจจะไปเฝ้าพร้อมภิกษุ บริวาร 500 องค์ ได้เห็นนักบวชนอกศาสนาคนหนึ่งซึ่งมาจากเมืองกุสินารา ถือ “ดอกมณฑารพ” ที่ผูกติดกับกิ่งไม้ต่างร่มเดินสวนทางมา พระมหากัสสปะจึงได้สอบถามข่าวคราวของพระพุทธองค์จากนักบวชนอกศาสนาผู้นั้น ซึ่งได้รับคำตอบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานมา 7 วันแล้ว และดอกมณฑารพนี้ก็ได้เก็บมาจากบริเวณที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน

ดอกมณฑารพตามพุทธประวัติส่วนนี้ น่าจะเป็นดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่มากจนนำมาทำเป็นร่มกันแดดได้  ในประเทศไทยเรียกดอกไม้กลุ่มหนึ่งว่า ดอกมณฑารพ หรือ ดอกมณฑา เป็นไม้พุ่มสูง 3-10 เมตร อยู่ในกลุ่มเดียวหรือวงศ์เดียวกับ ดอกจำปา จำปี และ ยี่หุบ บางแห่งเรียก ดอกไข่ไก่

ดอกมณฑารพตามภาพข้างต้นมีกลีบดอกแข็ง สวยงามและมีกลิ่นหอม จึงนิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ

ที่มา  : คอลัมน์ คติ-สัญลักษณ์ สถาปัตยกรรมไทย : ชวพงศ์ ชำนิประศาสน์