ที่มา	ไม้ดอกไม้ประดับ
ผู้เขียน	สุรเดช สดคมขำ
เผยแพร่	วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2563

ไม้ประดับนอกจากจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดร่มเงา และสร้างความสวยงามให้กับบ้านเรือนแล้ว ผู้ปลูกยังได้รับความสดชื่นไปพร้อมกับสิ่งที่ได้ทำอีกด้วย ยิ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกเลี้ยงที่ทำด้วยใจรักและมีความมุ่งมั่น ไม้ประดับที่ผลิตออกมาสู่มือลูกค้าต้องมีคุณภาพอย่างแน่นอน คุณอรุณ ศรีสวัสดิ์ ทำไม้ดัดอยู่ที่ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยยึดเป็นอาชีพมากว่า 40 ปี

คุณอรุณ เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรมเดิมทียึดอาชีพทำนา แต่ด้วยผลผลิตจำหน่ายได้ราคาไม่สู้ดีนัก จึงได้ติดตามเพื่อนไปหาขุดไม้จำพวกต้นตะโก ต้นข่อย เพื่อนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ พร้อมทั้งนำมาสร้างให้เป็นทรงพุ่มที่สวยงาม ต่อมาจึงได้ปรับเปลี่ยนการทำเป็นทรงพุ่มพัฒนามาสร้างเป็นตะโกดัด ให้ไม้อยู่ในรูปทรงของสิ่งต่างๆ ที่ดัดด้วยโครงเหล็กไว้

“พอเราเริ่มปลูกและเรียนรู้การทำไม้ประดับพวกนี้มากขึ้น ทีนี้ก็มีการพัฒนามาดัดแปลงให้เป็นรูปทรงต่างๆ เช่น ช้าง กวาง กระต่าย และก็รูปทรงอื่นๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ ปรากฏว่าขายดี ดีกว่าเราขายตะโกแบบต้นพุ่มเฉยๆ การที่มาทำเป็นไม้ดัดเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้น” คุณอรุณ บอก

กว่าจะได้ออกมาเป็นไม้ดัดที่สมบูรณ์พร้อมจำหน่ายได้นั้น คุณอรุณ บอกว่า ขั้นตอนแรกจะรับซื้อตอไม้มาจากแหล่งที่รับซื้ออยู่ประจำ เพราะปัจจุบันจะให้ไปหาขุดอย่างสมัยก่อนนั้นทำได้ยาก เมื่อได้ต้นตอไม้มาแล้ว มาตัดแต่งกิ่งให้เรียบร้อย จากนั้นนำมาปลูกลงในกระถางที่มีลวดขึ้นโครงเป็นรูปต่างๆ ที่เตรียมไว้ ดูแลรดน้ำประมาณ 5 เดือน ไม้ที่นำมาปลูกก็จะโตเต็มโครงเหล็กดัด

จากนั้นดูแลตัดแต่งกิ่งที่ไม่ต้องการและหมั่นดูแลให้เข้ากับรูปทรง เพื่อให้ไม้ที่นำมาดัดออกมาเป็นทรงที่ดัดให้มากที่สุด ดูแลเปลี่ยนดินปลูกบางครั้ง ดูแลอีก 3-5 เดือน ไม้ดัดจะเริ่มมีความสมบูรณ์พร้อมจำหน่ายได้ทันที

“การป้องกันโรคและแมลง หลักๆ จะมีพวกหนอน เพลี้ยดำ ก็จะมีการฉีดพ่นยาในช่วงที่ระบาด เพราะถ้าไม่ป้องกันเลย จะทำให้ใบดำและไม่มีความสวยงาม แต่ถ้าโรคและแมลงไม่เข้ามารบกวนเราก็จะไม่ฉีด ก็จะเป็นการช่วยประหยัดต้นทุนในเรื่องของการผลิตได้อีกทาง ส่วนปุ๋ยเคมีที่สวนไม่ได้ซื้อใส่ จะเน้นไปหาดินใบก้ามปูมาเก็บไว้ การใช้วัสดุปลูกแบบนี้จะช่วยให้ต้นไม่โทรมง่าย” คุณอรุณ บอก

ในด้านของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายไม้ดัดนั้น คุณอรุณ บอกว่า ในพื้นที่แห่งนี้มีการผลิตไม้ประดับกันมาก ดังนั้น ลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่อื่นๆ เมื่อรู้ว่ามีไม้ประดับชนิดนี้อยู่บริเวณใดก็จะเข้ามาติดต่อขอซื้อถึงที่สวน ซึ่งลูกค้าที่ชื่นชอบไม้ก็มีความแตกต่างกันไป อย่างตะโกดัดในสวนรูปทรงที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ไม้ดัดที่ผลิตเป็นรูปช้าง รองลงมาก็จะเป็นสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่แตกต่างกันไป ส่วนลูกค้ารายไหนที่ชอบเป็นทรงพุ่มแบบปกติ ทางสวนก็ได้ผลิตรองรับเอาไว้ด้วย

โดยราคาไม้ดัดราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 บาท และราคาที่ใหญ่ขึ้นไปราคาก็จะสูงไปตามขนาด ราคาสูงสุดอยู่ที่ 4,000 บาท และยังมีไซซ์และรูปทรงอื่นๆ ให้เลือกอีกหลากหลาย

ในช่วงนี้เป็นยุคที่เศรษฐกิจมีการชะลอตัว บางช่วงของการจำหน่ายไม้ดัด อาจไม่ได้จำหน่ายง่ายขายคล่องเหมือนสมัยก่อนมากนัก คุณอรุณ บอกว่า มีการรับมือในเรื่องของการทำอย่างไรให้ธุรกิจยังคงอยู่ได้ ด้วยการหาทางประหยัดต้นทุนการผลิตให้ได้มากที่สุด อย่างต้นพันธุ์บางชนิดที่ไม่จำเป็นต้องซื้อเข้ามา จะใช้วิธีการตอนกิ่งจากต้นแม่พันธุ์มาใช้ทดแทนกันไป บวกกับดูเทรนด์ตลาดอยู่เสมอก็จะช่วยให้ผลิตไม้และสร้างผลกำไรจากการทำไม้ดัดให้เป็นอาชีพที่ยั่งยืนได้

หากสนใจไม้ดัดสวยๆ ที่เกษตรกรผู้ปลูกใส่ใจดูแลเองทุกขั้นตอน และมีประสบการณ์มาหลายสิบปี สามารถแวะเวียนไปซื้อไปชมกันได้ หรือปรึกษาแลกเปลี่ยนพูดคุยกับ คุณอรุณ ศรีสวัสดิ์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ (062) 724-9041, (085) 376-5779

………………………………………………………………………………………………………..

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน, มติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น!คลิกดูรายละเอียดที่นี่