ดอกจานบานแล้ว! สัญลักษณ์เข้าหน้าแล้งเต็มตัว อำนาจเจริญตระเวนขุดจากไร่นาไปปลูกบ้านคน

ดอกจานบานทั่วเมืองอำนาจเจริญสื่อความหมายย่างเข้าสู่หน้าแล้งเต็มตัว ล่าสุดป็นสินค้าที่สร้างรายได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะดอกจานเหลืองต้นละ 200บาท-3,000 บาทปลูกให้ถึงที่บ้านต้นใหญ่จาก 5,000-10,000บาท เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของคนอำนาจเจริญ

นายทรงพันธ์ จันทร์สว่าง เกษตรจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ดอกจาน ต้นจาน จอมทอง หรือทองกวาว เป็นพืชชนิดเดียวกันในช่วงนี้ที่ จ.อำนาจเจริญบานสะพรั่งส่อให้เห็นว่าย่างเข้าสู่หน้าแล้งอย่างเต็มตัวสวยงามมากโดยเฉพาะอำนาจเจริญใช้ดอกจานเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด และในปีนี้ทางจังหวัดให้มีการรณรงค์ปลูกต้นจากทุกชนิดเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญไปกว่านั้นต้นจานเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีคนนิยมซื้อไปปลูกที่บ้านเพื่อชมความงามของดอกจานเวลาหน้าแล้ง ดอกสีส้มจะมีราคาถูกกว่าดอกสีเหลือง ดอกจานที่เป็นดอกสีเหลืองราคาต้นละ 300-10,000 บาท แล้วแต่ขนาดของต้นมีการขุดมาชำและปลูกตามบ้านที่มีฐานะดีเป็นจำนวนมาก เพราะจังหวัดอำนาจเจริญเป็นจังหวัดที่นิยมปลูกต้นจานมากที่สุดในประเทศไทย เพราะดอกจานที่มีดอกสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด หายากและมีการเพาะพันธุ์ยากกว่าจานส้ม จึงทำให้มีราคาแพง

ด้านนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า นับว่าพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของคนอำนาจเจริญที่กำลังตื่นตัวมากๆ มีการนำรถขุดต้นออกตระเวนหาซื้อต้นจานส้มตามท้องไร่ท้องนาและตามป่าลำเนาไพรกันเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ จากนั้นนำมาชำไว้พอติดก็นำออกจำหน่ายสร้างรายได้ดีกับผู้ที่มีอาชีพเพาะต้นจานจำหน่ายได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญอำนาจเจริญนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีนักกีฬาที่ได้เหรียญแข่งขันรถจักรยานมากที่สุดในโลกแล้วยังเป็นจังหวัดที่มีต้นจานส้มและต้นจานเหลืองมากที่สุดในประเทศอีกด้วย นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะดอกจานในหน้าแล้งบานสะพรั่งสวยงามมาก บ่งบอกถึงหน้าแล้งเดือน5 ย่างเข้ามาเต็มตัวแล้วและที่ตนภูมิใจคือเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่เกษตรกรสามารถเพาะจำหน่ายได้สร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนอีสานในช่วงหน้าแล้งเป็นอย่างดีที่เดียว โดยเฉพาะดอกจานเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอีกด้วย เพาะจำหน่ายจากต้นเล็กๆคืยเดียวต้นละ 200 บาทขึ้นไปแล้ว ตนดีใจมากที่คนอำนาจเจริญมีอาชีพเสริมอีกทางในการสร้างงานสร้างรายได้


ต้นจานเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 5–15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ ลำต้นแตกกิ่งต่ำคดงอ เปลือกนอกสีเทาถึงสีเทาคล้ำค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็นร่องตื้น ๆ เปลือกในสีแดง สับเปลือกทิ้งไว้จะมีน้ำยางใส ๆไหลออกมาทิ้งไว้สักพักจะกลายเป็นสีแดง ใบ ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ เรียงเวียนสลับ ใบย่อยมี 3 ใบ เรียงตรงข้าม ใบย่อยที่ปลายเป็นรูปมนเกือบกลม ใบย่อยด้านข้างรูปไข่เบี้ยว กว้าง 8-15 ซม. ยาว 9-17 ซม. ปลายใบมน โคนใบสอบ แผ่นใบหนา หลังใบเกลี้ยง ท้องใบมีขนสาก เส้นแขนงใบข้างละ 5-7 เส้น ก้านใบย่อยยาว 3-5 มม. ดอก ออกเป็นช่อแบบไม่แตกแขนง ตามกิ่งก้านและปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 2-15 ซม. ก้านช่อดอกมีขนสีน้าตาล ก้านช่อดอกยาว 3-4 ซม. กลีบรองกลีบดอกเชื่อมกันเป็นรูปบาตรยาว 1.3 ซม. ส่วนบนแยกออกเป็นกลีบสั้น ๆ 5 กลีบ มีขนสีน้ำตาลดำปกคลุมตลอดกลีบดอกยาว 7 ซม. มี 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากันคล้ายดอกถั่ว กลีบด้านล่างรูปเรือแยกเป็นอิสระดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 6 ซม. ดอกมีทั้งสีแสดและสีเหลืองสด ดอกสีเหลืองพบที่เชียงราย เชียงใหม่ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี สุรินทร์

ผล ผลเป็นฝักแบนรูปบรรทัดกว้าง 3.5 ซม. ยาว 1.5 ซม. ผลแก่สีน้ำตาลอมเหลืองมีขนอ่อนนุ่มสีขาวเป็นมัน มีเมล็ดเดียวตรงปลายฝัก นิยมปลูกลงในแปลงปลูก เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 50x50x 50 เซนติเมตรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วนอัตรา 1:2 ผสมดินถ้าปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านหรืออาคารควรให้มีระยะห่างที่เหมาะสมเพราะทองกวาวเป็นไม้ที่มีทรงพุ่มใหญ่พอสมควร การดูแล: ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง ชอบดินร่วนซุย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2:3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-5 ครั้ง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนต่อโรคพอสมควรการขยายพันธุ์: โดยการเพาะเมล็ด

ประโยชน์ดอก ต้มดื่มเป็นยาแก้ปวด ถอนพิษไข้ ขับปัสสาวะ ฝัก ต้มเอาน้ำเป็นยาขับพยาธิยาง แก้ท้องร่วงเปลือก มีงานวิจัยพบว่า สารสกัดจากเปลือก ช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น แต่จะลดจำนวนอสุจิเมล็ด บดผสมมะนาว ทาบริเวณผื่นคันใบ ต้มกับน้ำ แก้ปวด ขับพยาธิ ท้องขึ้น ริดสีดวงทวาร ราก ต้มรักษาโรคประสาท บำรุงธาตุ ความเชื่อของไทย