จากของสะสม สู่รายได้ กว่าเดือนละครึ่งแสน

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักและคิดถึงทุกท่าน ในช่วงที่ไปช่วยฟื้นฟูหลังน้ำท่วมสุโขทัย ผมได้ไปเจอชายหนุ่มคนหนึ่ง ณ บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 1 ตำบลปากแคว อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เป็นเกษตรกรที่สะสมบัวสวยงามมากมายสายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลก และเพาะขยายพันธุ์ปลูกเลี้ยงเพื่อจำหน่าย ขายดี จนโตไม่ทัน ถึงขั้นรับจองข้ามปี จึงขอสัมภาษณ์มาเผื่อท่านผู้อ่านสักนิด ต้องขออภัยที่ไม่กล้าตัดทอนเลยครับ บทความนี้จึงยาวหน่อยนะครับ

สุพจน์ นาครินทร์

มีใจรักเกษตรมาตั้งแต่เด็ก

คุณสุพจน์ นาครินทร์ จบการศึกษา ปวส. สาขาช่างไฟฟ้ากำลัง “ผมเกิดในครอบครัวของชาวไร่ยาสูบ และมีใจรักด้านการเกษตรมาตั้งแต่เด็ก แต่ทางบ้านส่งเสริมให้เรียนทางด้านช่าง เพื่อหวังให้ได้งานทำที่ดี ไม่ต้องตากแดดทำไร่เช่นดังพ่อแม่ หลังจากเรียนจบก็ทำงานเป็นช่างไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมแถวๆ ชายกรุงอยู่นานหลายปี สุดท้ายก็เบื่อวิถีชีวิต พอมีเงินเก็บจึงลาออก และกลับไปอยู่บ้านเพื่อสานฝันทำเกษตร (รักษ์บ้านเกิด) ราวปี 2550 ผมกลับมาเริ่มทำนาเพื่อให้มีข้าวกิน และเริ่มสะสมพันธุ์ไม้ เพื่อจะขยายพันธุ์ขายด้วยมีพื้นฐานด้านขยายพันธุ์ไม้อยู่แล้ว”

บัวสายราตรีสุบงกช

“สำเร็จไหมครับ”

“ไม่ครับ เพราะทำตามคนอื่น พืชพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่ซื้อเข้าเก็บตามกระแส (ไม้แฟชั่น) มีราคาสูง ส่วนใหญ่เป็นไม้นำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อนำมาปลูกแล้วไม่ติดดอกออกผล บางชนิดไม่มีความเจริญเติบโต ประกอบกับปัญหาอุทกภัยด้วยพื้นที่อยู่ริมแม่น้ำยมมักถูกน้ำท่วมเสียหาย จนสุดท้ายไม่มีต้นอะไรเหลือเลย”

บัวสายสุพจน์พิงค์

ฟ้าประทานแนวทาง

จากภาพความทรงจำในวัยเด็ก วัดวาอารามโบราณมากมายหลายแห่งในเมืองโบราณสุโขทัย (อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย) จะมีดอกบัวบานสะพรั่ง ชูดอกบูชาคุณพระศรีรัตนตรัยมากมายใน (ตระพัง) สระน้ำของวัด จนเมื่อปี 2560 ทางกรมศิลปากร ได้มีการขุดลอกสระน้ำที่ตื้นเขิน ทำให้บัวสายพันธุ์ต่างๆ สูญไปจนหมดสิ้น สุพจน์ จึงเริ่มหาบัวสวยๆ สายพันธุ์ต่างๆ ไปปลูก

“คิดแทนคุณแผ่นดิน เพื่อเป็นพุทธบูชา หวังให้ตระพังบัวงามดังภาพความทรงจำในวัยเด็กกลับคืนมา”

บัวผันกระทิงเหลือง

คิดเร็ว ทำเร็ว ศึกษาด้วย ลงมือทำจนเกิดอาชีพใหม่

บัวชุดแรกที่นำปลูกให้วัดส่วนใหญ่ตาย เพราะถูกปลากิน อีกทั้งปลูกไม่ขึ้นด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมด้วยเป็นสระน้ำที่ขุดลอกใหม่ แต่ที่ปลูกไปไม่เป็นศูนย์ เพราะเกิดการศึกษาอย่างเร่งด่วน โดยลงมือปลูกเลี้ยงเองที่สระหลังบ้าน โดยเริ่มสะสมสายพันธุ์บัวสวยงามต่างๆ นำมาทดลองปลูกเลี้ยง ระหว่างนั้นความสำเร็จเล็กๆ จากการปลูกบัวให้มีดอกสวยงาม ก็นำมาโพสต์โชว์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์ของผมเป็นสาธารณะ มีคนเห็นบัวสวยๆ และขอแบ่งซื้อพันธุ์เอาไปปลูกบ้าง จุดนี้เองทำให้เกิดการซื้อขายขึ้นมา    ออเดอร์จากลูกค้าเป็นตัวผลักดันให้เพิ่มจำนวน และพัฒนาตนเอง

บัวสายสุบงกชพิงค์

พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา

จากการปลูกเลี้ยงบัวสายพันธุ์ทั่วไปที่มีอยู่แล้วในท้องตลาด ซึ่งมีการแข่งขันกันสูงในหมู่ผู้ผลิต จึงต้องปรับกลยุทธ์ เช่น จัดชุดโปรโมชั่น เอาต้นสวยเด่นๆ ขายพ่วงกับต้นที่มีจำนวนมาก หรือจัดชุดมีของแถม ในขณะที่พัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ โดยการผสมเพื่อให้เกิดเป็นพันธุ์ใหม่ด้วยฝีมือตัวเอง ตรงนี้สุพจน์เล่าอย่างภูมิใจเลยว่า

เมล็ดบัว

“เมื่อผมเข้ามาในวงการบัวสวยงาม พบว่าสวนบัวชื่อดังแห่งหนึ่งประสบปัญหาถูกโจรกรรมหน่อ/หัวบัว สายพันธุ์ดี ที่มีมูลค่าสูงจากการเปิดให้เข้าชม ในการนี้ผมจึงไม่กล้าไปและไม่เคยไปเยี่ยมชมสวนใครเลย จึงต้องฝึกหัดผสมเกสร เพาะเมล็ดบัวและปลูกเลี้ยงเองเพียงลำพัง อาศัยศึกษาจากโลกโซเชียลและสอบถามผู้รู้ในวงการบ้าง”

เพาะงอกพร้อมลงปลูก

เพียงปีเดียวเมล็ดบัวจากการผสมด้วยฝีมือของสุพจน์ ก็แสดงความสวยงามให้เห็นและคัดเลือกหาความพิเศษ นำมาทำจำนวนเพื่อนำเสนอออกสู่ตลาดในวงการได้หลายต้น เหตุผลหลักที่ต้องพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเองคือ สวย/แปลก/พิเศษ เจ้าของสายพันธุ์เป็นผู้ตั้งราคาขาย จากการที่ได้สะสมสายพันธุ์บัวไว้มาก ทั้ง บัวผัน, บัวสาย, บัวฝรั่ง, บัวผันยักษ์ออสเตรเลีย และบัววิคตอเรีย ปลูกเลี้ยงในตระพังสุพจน์ (สระน้ำสุพจน์) ต่อมาใช้ชื่อ สวนบัวสุบงกช ของเราที่มีการเผยแพร่สายพันธุ์ออกไปแล้ว ได้แก่ บัวสายสุพจน์พิงค์ ลักษณะพิเศษมีดอกขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางถึง 11 นิ้ว กลีบซ้อนสีชมพู มีลายเส้นสีขาวกลางกลีบ ไล่ระดับสีอย่างสวยงาม ราคาต้นละ 500 บาท

บัวสายสุบงกชพิงค์ ลักษณะพิเศษเปลี่ยนสีได้ โดยบานวันแรกสีชมพูอ่อน สแปลช กลางกลีบสีขาว วันที่สองขึ้นสีชมพูอมเดงเข้ม ราคาต้นละ 800 บาท

บัวสายราตรีสุบงกช ลักษณะพิเศษ สีบานเย็นอมม่วง ราคาต้นละ 1,500 บาท

บัวผันกระทิงเหลือง บัวผันสีเหลืองเข้ม กลีบซ้อน 5 ชั้น อยู่ระหว่างการทำจำนวน

บัวกระด้งสุบงกช

ประสบความสำเร็จ

บัวกระด้งสุบงกช (victoria subongkot) หรือบัวกระด้งสายพันธุ์ cruziana ของยุโรป จากความฝันของเด็กชายสุพจน์ที่ได้เห็นภาพบัวกระด้ง cruziana ในหนังสือเล่มหนึ่งของห้องสมุด เวลาผ่านไปกว่า 30 ปี จนกระทั่งปี 2562 ต้นบัวดังกล่าวได้มาอยู่ที่ตระพังสุพจน์

“ผมเล่าไม่อายเลยครับผมขอแบ่งมาได้ 2 ต้น จากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาในราคาสูง โดยผ่อนชำระเป็น 2 งวด ซึ่งบัวกระด้ง cruziana ชุดนั้น นำเข้ามาเป็นเมล็ดจากอิตาลี เอามาเพาะในไทยและงอกเป็นต้นได้ไม่กี่ต้น”

เพาะกันไว้แบบนี้

ลักษณะของบัวกระด้ง cruziana คือ เมื่อโตเต็มวัย ก้านใบมีหนามสั้น ไม่คม ใบจะมีลายย่นดังเกล็ดมังกรสีเขียวเข้ม ตั้งขอบใบสูง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใบ ประมาณ 1 เมตร เมื่อปลูกเลี้ยงในสระ ความพิเศษคือสามารถนำปลูกลงกระถางนำวางโชว์ในอ่างที่มีพื้นที่จำกัดได้ดี โดยใบจะเล็กลงกลายเป็นบัวกระด้งจิ๋ว มีใบขนาดเล็ก ขนาดไม่ถึงฟุต จึงเป็นที่ใฝ่ฝันของผู้ปลูกเลี้ยงบัว

จากความเอาใจใส่ดูแล ทำให้ต้นพันธุ์ทั้งสองรอดชีวิตและเจริญเติบโตจนเต็มวัย ในสระผ่านอุณหภูมิสูงสุดช่วงฤดูร้อนที่ 43 องศาเซลเซียส และเริ่มมีดอกตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม 62 เป็นต้นมา

“ผมผสมเกสรแบบปิดตามหลักวิชาการ ตั้งแต่ดอกแรกจนถึงต้นพักตัวฤดูร้อน รวมระยะเวลาที่ผมลงสระผสมเกสร 207 วัน ทำให้ได้ฝักบัว 47 ฝัก มีเมล็ดกว่า 4,000 เมล็ด”

ดราม่า ทัวร์ลง ทำให้เป็นที่รู้จัก

การที่เป็นเด็กหน้าใหม่ในวงการ แล้วสามารถเพาะขยายพันธุ์บัวกระด้งยุโรปออกมาจำหน่าย ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงการขึ้นอย่างรุนแรง ด้วยเพราะว่า บัวกระด้ง cruziana มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในโซนยุโรป ที่มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นถึงขั้นหิมะตก อีกทั้งการนำเข้ามาปลูกเลี้ยงในไทยที่ผ่านมา ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ด้วยสภาพอากาศที่แตกต่าง

ปลาช่อนข้าหลวง

Victoria subongkot (บัวกระด้งสุบงกช) วันนี้ผลรวมของความเพียรพยายามปรากฏให้เห็นชัดแล้วว่า บัวกระด้ง cruziana สามารถปรับตัวเข้ากับเมืองร้อนได้ดีที่สวนบัวสุบงกชสุโขทัย สามารถเพาะขยายพันธุ์ และส่งให้ลูกค้าปลูกไปนับร้อยต้นทั่วไทยแล้ว ปรากฏเป็นบัวกระด้งตรงตามสายพันธุ์เดิมที่สามารถปลูกเลี้ยงในเมืองไทยได้อย่างแท้จริง ปัจจุบัน บัวกระด้งสุบงกช ขนาดต้นแข็งแรง จำหน่ายอยู่ที่ราคาต้นละ 2,500 บาท ซึ่งมียอดจองล้นไปถึงปีหน้าแล้ว

โควิด ชีวิตเปลี่ยน

จากเดิม สวนบัวสุบงกช มีรายได้จากการจำหน่ายต้นพันธุ์บัวสวยงามราววันละ 1 พันบาท เมื่อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดในไทย และมีการประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 ทำให้ออเดอร์เป็นศูนย์อยู่กว่า 5 วัน จนถึงวันที่ 9 คำสั่งซื้อจึงเริ่มมีมาแบบเพิ่มจำนวนอย่างก้าวกระโดด และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก

“ส่วนมากลูกค้าเป็นโรงแรม, รีสอร์ต ที่ใช้ช่วงเวลาปิดกิจการนี้ปรับภูมิทัศน์ จึงใช้บัวจำนวนมากผมรับ  ออเดอร์จนถึงตี 3 ทุกคืน ขายจนบัวบางชนิดหมดสระ จนต้องขยายพื้นที่ปลูกเลี้ยงใหม่อีก 2 ไร่ เพื่อให้มีจำนวนเพียงพอส่งลูกค้า”

ปลาช่อนเผือก

อุทกภัย ทำอะไรผมไม่ได้

สวนบัวสุบงกช ตั้งใกล้แม่น้ำยม ซึ่งกำลังมีโครงการก่อสร้างพนังคอนกรีตป้องกันตลิ่ง แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ เมื่อพายุฮีโกสพาฝนตกกระหน่ำ มวลน้ำเหนือมหาศาลไหลบ่าลงมาตามลำน้ำยม ไหลบ่าเข้าท่วมสวนบัวสุบงกชอย่างรุนแรงแต่เช้าตรู่ วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ระดับน้ำลึกกว่า 2 เมตร นานกว่า 5 วัน ทำให้บัวทุกสายพันธุ์จมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด ภายหลังน้ำลด พบว่ามีบัวไม่กี่สายพันธุ์ที่ตาย ส่วนใหญ่สามารถแตกหน่อใหม่จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว หลังน้ำลดเพียง 20 วัน หน่อบัวสารพัดสายพันธุ์ก็ผลิดอกบาน พร้อมจำหน่ายได้อีกครั้ง

มองอนาคต

สวนบัวสุบงกชวันนี้มีพื้นที่เพิ่มแปลงใหม่อีกกว่า 21 ไร่ ทำเป็นแปลงเกษตรที่ยึดเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการทำเกษตรเชิงเดี่ยว อาทิ ปลูกข้าวเพื่อบริโภคเอง ปลูกไม้ผลสายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อขยายพันธุ์จำหน่าย ที่อยู่ระหว่างการทดลอง ได้แก่ การเพาะเลี้ยงปลาสวยงามในสระบัว ซึ่งมีทั้งปลาช่อนเผือก และปลาช่อนข้าหลวง (แหล่งเขื่อนเชี่ยวหลาน) ซึ่งเป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์ปลาหายากไว้ และสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงกว่าปลาเนื้ออีกด้วย“หากมีคนสนใจอยากมาขอศึกษาด้วยได้ไหมครับ”

“ยินดีต้อนรับครับพี่ ผมจะเป็นไกด์พาชมเมืองสุโขทัยด้วยครับ โทร.นัดได้เลย 096-676-9373 หรือไปชมในเฟซบุ๊กผม ชื่อ สวนบัวสุบงกช สุพจน์ นาครินทร์ ครับผม”

 

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อวันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2563