| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ในช่วงสถานการณ์โควิดนี้ ไม้ประดับไม้ใบสีสันสวยงาม ค่อนข้างที่จะมีการทำตลาดจำหน่ายออนไลน์ได้เป็นอย่างดี บวกกับระบบการขนส่งที่มีมาตรฐาน ทำให้การขนส่งไม้ประดับทำได้ง่ายขึ้นและมีความปลอดภัย โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปถึงสวนก็สามารถซื้อต้นไม้ที่ต้องการผ่านการไลฟ์สดจากเกษตากรโดยตรง พร้อมทั้งชมภาพต้นไม้ได้จากเพจเฟซบุ๊กที่เกษตรกรสร้างขึ้น ซึ่งมีการอัพเดทสินค้ากันแทบทุกวัน อาจกล่าวได้ว่าช่วงสถานการณ์โควิดเช่นนี้ ตลาดไม้ดอกไม้ประดับสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ดีทีเดียว
คุณธเนศ กรอบทอง อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่มีใจรักในการปลูกอะโกลนีมาเพราะความชอบ ทำให้เมื่อหลายปีก่อนหน้าแม้ราคาของไม้จะตกลงไปจากกลไกลตลาดและความนิยม แต่เขาก็ยังไม่ย่อท้อ กลับพัฒนาสวนและปลูกมาเรื่อยๆ พร้อมกับทำงานอื่นเสริมไปด้วย เมื่อความนิยมและราคาไม้กลับมาอยู่ตัวมีการซื้อขายดีขึ้น ทำให้การตลาดค่อยๆ ไปได้ดี ส่งผลให้อะโกลนีมากลายเป็นไม้ประดับที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัวของเขามาจนถึงวันนี้
คุณธเนศ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนทำงานประจำอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ด้วยสภาวะการทำงานในเมืองใหญ่จึงยังไม่ตอบโจทย์มากนัก ทำให้ตัดสินใจที่จะกลับไปยังบ้านเกิดของตนเอง โดยนำความชอบในเรื่องของการปลูกไม้ประดับ คืออะโกลนีมา มาสร้างเป็นอาชีพ เพราะช่วงนั้นเริ่มชื่นชอบและเห็นว่าราคาซื้อขายค่อนข้างดี น่าจะสร้างรายได้ให้กับเขาและครอบครัวได้
“ช่วงแรกๆ ที่มาเริ่มทำใหม่ๆ ราคาช่วงนั้นยังดีอยู่ พอประมาณปี 2549 ราคาอะโกลนีมาค่อยๆ ตกลงมา ทีนี้เราลงทุนทำไปแล้ว ก็ไม่คิดย่อท้อในช่วงนั้นก็ยังหางานอื่นๆ ทำไปด้วย ส่วนไม้ชนิดนี้แม้ราคาตกไม่เป็นไร แต่เราชอบและรักที่จะทำ ก็เลยสู้ทนทำต่อไป พอราคาเริ่มปรับตัวเราก็ขยับขยายมาเรื่อย จนตอนนี้อยู่ตัวสามารถเกิดรายได้ ยิ่งช่วงโควิดเวลานี้ถือว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อะโกลนีมากลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง” คุณธเนศ เล่าถึงความเป็นมาของการทำไม้ประดับที่เขารัก
หลักการขยายพันธุ์อะโกลนีมาเพื่อให้ได้ต้นที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับจำหน่าย คุณธเนศ เล่าว่า จะหาซื้อต้นพันธุ์ที่สวยๆ เกิดจากการที่มีสวนอื่นๆ พัฒนาไว้ จากนั้นถ้าต้องการเพิ่มจำนวนให้ไม้มีปริมาณที่มากขึ้น จะนำต้นพันธุ์ที่ซื้อมาไปทำการขยายพันธุ์ ด้วยวิธีนำชิ้นส่วนไปส่งห้องแล็บเพื่อเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ก็จะช่วยให้ได้อะโกลนีมาสายพันธุ์ใหม่ที่ทำจำนวนให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
ซึ่งต้นอะโกลนีมาที่ผ่านขบวนการขยายพันธุ์แบบเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี จากนั้นนำไม้เข้ามาภายในสวนและเตรียมนำไม้ออกจากขวด โดยทำการอนุบาลด้วยการปลูกลงในพีชมอสและนำมาไปอนุบาลในตู้อบ เมื่อไม้ได้อายุ 2 เดือน จึงย้ายมาปลูกลงในกระถาง 4 นิ้ว ปลูกด้วยวัสดุจำพวกมะพร้าวสับผสมกับใบก้ามปู ดูแลต่ออีกประมาณ 1 เดือน ก็จะได้ไม้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หากต้องการจำหน่ายสามารถส่งลูกค้าได้ แต่ถ้าต้องการให้มีขนาดต้นที่ใหญ่ขึ้นก็จะย้ายไปลูกในกระถาง 6 นิ้ว อีกครั้งจากนั้นจึงจำหน่ายสร้างเป็นไม้ไซซ์ใหญ่ต่อไป
“การดูแลไม้จนกว่าจะโต ก็มีเรื่องการรดน้ำวันละ 1 ครั้ง เพื่อให้ภายในสวนมีความชื้นบ้าง ส่วนในการวางไม้ก็จะให้อยู่ใต้ตาข่ายพรางแสง 50-70 เปอร์เซ็นต์ ก็จะช่วยให้ใบไม่ถูกแดดเผามากจนเกินไป การป้องกันโรคและแมลงอื่นๆ จะมีการฉีดพ่นยากำจัดเชื้อราในช่วงหน้าฝนบ้าง ถ้าช่วงไหนมีโรคและแมลงต่างๆ ก็จะมีการฉีดพ่นยากำจัดแมลงศัตรูพืช ตามอาการที่พบ โดยสามารถหาซื้อได้จากร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป” คุณธเนศ บอก
สำหรับในเรื่องของการทำการตลาดนั้น คุณธเนศ บอกว่า ช่วงแรกที่ทำสวนใหม่ๆ ยังไม่มีลูกค้ามากนัก เพราะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของลูกค้าทั่วไป แต่เมื่อทนทำเพราะใจรัก และพยายามสร้างไม้ออกมาเรื่อยๆ จึงทำให้เวลาต่อมาลูกค้าเริ่มรู้จักไม้ เริ่มจำหน่ายออกได้เรื่อยๆ พร้อมทั้งเมื่อตลาดออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ลูกค้าที่อยู่ยังต่างจังหวัดสามารถซื้อไม้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น จากนั้นทางสวนก็จะส่งไม้ไปให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ ด้วยการทำตลาดออนไลน์นี้เอง ทำให้ปัจจุบันฐานลูกค้าที่มีการติดต่อเข้าซื้อมีวงกว้างมากขึ้น
โดยลักษณะอะโกลนีมาที่ลูกค้าชื่นชอบจะมีลักษณะของสีใบที่แดง ลักษณะใบสั้น กลม ซึ่งแต่ละช่วงความชอบของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงไปทุกปี การผลิตไม้บางช่วงจะขึ้นอยู่กับจังหวะที่เหมาะสมด้วยว่าจะได้รับความนิยมตามที่ลูกค้าชื่นชอบมากน้อยเพียงใด
“ไม้ที่สวนราคาขายก็มีหลายราคาด้วยกัน ถ้าเป็นไม้ที่มีจำนวนมากแล้ว มีเหมือนกับตลาดทั่วไป ราคาก็จะอยู่ที่หลักสิบหลักร้อยบาท ส่วนไม้ที่เป็นไม้ใหม่เกิดจากการพัฒนาพันธุ์แล้วที่อื่นยังไม่มี และการผลิตยังไม่มีปริมาณพอ ราคาจำหน่ายก็จะอยู่ที่หลักหมื่นและหลักพันบาท เพราะฉะนั้นคนที่ต้องการนำไปขายต่อ ก็จะซื้อเพื่อนำไปขยายให้ได้จำนวนมากๆ และสร้างทำเงินในไม้ตัวนั้น เพราะฉะนั้นการสร้างไม้ให้ได้ผลผลิตต่อเนื่อง ตลอดทั้งปีเราก็จะทำไม้แต่ละรุ่นออกมาเรื่อยๆ ก็จะช่วยให้มีไม้ทุกรุ่น ทุกไซซ์ขนาด ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อไปปลูกที่บ้านตามที่ลูกค้าต้องการ” คุณธเนศ บอก
สำหรับท่านใดที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของการปลูกอะโกลนีมา หรือติดต่อซื้อไม้ที่สวนแห่งนี้ สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ คุณธเนศ กรอบทอง หมายเลขโทรศัพท์ (098) 396-2083
