แนะเทคนิค วิธีการปลูก ดูแลดาวเรือง ให้ออกดอกบานสะพรั่ง ระหว่าง 25-29 ต.ค. 60 นี้

กรมส่งเสริมการเกษตร แนะประชาชนคนไทย ปลูกดาวเรืองให้ได้ผลผลิตคุณภาพพร้อมออกดอกบานสะพรั่งช่วงพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 เพื่อใช้ประดับสถานที่ราชการและบ้านเรือนต่างๆ

นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป เกษตรกร ร่วมปลูกดาวเรืองหรือดอกไม้สีเหลืองให้ออกดอกบานสะพรั่งตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไปเพื่อร่วมพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่25-29 ตุลาคม 2560 โดยกรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะที่ทำงานด้านการส่งเสริมสนับสนุนข้อมูลองค์ความรู้ มีเทคนิค และวิธีการปลูกดาวเรืองให้ได้ผลผลิตดอกมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดมาแนะนำ

ปัจจุบันดาวเรืองเป็นไม้ดอกเศรษฐกิจที่มีความสำคัญอีกชนิดหนึ่ง ปลูกง่ายงอกเร็ว ต้นโตเร็ว ให้ดอกดก มีหลายชนิดหลายสี รูปดอกสวยงาม สีสันสดใส บานทนนานได้หลายวัน และให้ดอกในระยะเวลาสั้น ประมาณ 55-65 วัน

สำหรับวิธีการปลูกนั้น เกษตรกรจะต้องให้ความสำคัญตั้งแต่การเตรียมดิน ซึ่งก่อนปลูกดาวเรืองควรมีการปรับสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินด้วยการเพิ่มอินทรียวัตถุด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่ย่อยสลายแล้ว จากนั้นเลือกชนิดพันธุ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด โดยพันธุ์ที่แนะนะปลูกสำหรับงานพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แนะให้ปลูกดาวเรืองฝรั่งเศส ดอกขนาดเล็ก ก้านสั้น ดอกดก ต้นเป็นพุ่มเตี้ย นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง เมล็ดพันธุ์มีราคาถูกกว่าดาวเรืองอเมริกัน

วิธีการปลูก เริ่มจากนำเมล็ดพันธุ์มาเพาะในตะกร้าเพาะ วัสดุเพาะใช้ ขุยมะพร้าว ทราย และขี้เถ้าแกลบ ในอัตราส่วน 1:1:1 โดยใช้เมล็ดพันธุ์ 1 เมล็ด/หลุม นำวางใต้ตาข่ายพรางแสง 70-80% รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-บ่าย เมื่อต้นกล้าแข็งแรง มีใบจริงคู่แรกเริ่มพัฒนาแล้ว จึงให้รับแสงแดดเต็มที่และเมื่อต้นกล้ามีใบจริง 4-6 ใบ อายุนับจากวันเพาะเมล็ดประมาณ 15-20 วัน ก็ย้ายต้นกล้าไปปลูกได้ในช่วงเย็น การย้ายต้นกล้าควรมีวัสดุเพาะชำติดต้นกล้าไปด้วย

วิธีการปลูกมีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ 1.ปลูกประดับแปลง ใช้เป็นไม้ตัดดอก ด้วยการขุดหลุมลึก 4-5 เซนติเมตร หลุมละ 1 ต้น ระหว่างต้น ระหว่างแถวใช้ระยะปลูก 30-40 X 30-40 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนชา 2.ปลูกเป็นไม้กระถาง นำต้นกล้าที่แข็งแรง จำนวน 1 ต้น ใส่ในถุงดำหรือกระถาง ขนาด 4×6 บรรจุวัสดุปลูก ใช้ดิน 1 ส่วน แกลบ 2 ส่วน และปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกย่อยสลายแล้ว 2 ส่วน

จากนั้นดูแลด้วยการรดน้ำ ช่วงย้ายปลูกประมาณ 7 วัน ให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จนต้นดาวเรืองฟื้นตัว หลังจากนั้นให้น้ำประมาณวันละครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางภูมิอากาศ แต่ต้องไม่แฉะเกินไปและไม่มีน้ำท่วมขังเพราะอาจทำให้เกิดโรครากเน่าได้ ส่วนการใส่ปุ๋ย หลังจากย้ายปลูกได้ 5-7 วัน ให้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 หรือ 15-0-0 อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะ./น้ำ 20 ลิตร รดบนดินบริเวณโคนต้น โดยใส่ติดต่อกัน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 7-10 วัน และใส่อีกครั้งระยะกลบโคน เมื่อดาวเรืองมีอายุ 20-25 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตราส่วน 1 ช้อนชา/ต้น เมื่อดาวเรืองอายุได้ 35 และ 45 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 โรยตรงทรงพุ่ม พร้อมพรวนดิน กลบโคนต้น กำจัดวัชพืช

การป้องกันกำจัดศัตรูดาวเรืองในส่วนของแมลง เกษตรกรควรระวัง เพลี้ยไฟ จะระบาดมากในช่วงแล้ง การป้องกันกำจัดใช้สารชีวภาพ ราขาว “บิวเวอร์เรีย” หนอนผีเสื้อ จะเข้าทำลายในขณะดอกเริ่มบาน การป้องกันกำจัดใช้สารชีวภาพบีที (บาซิลลัสทูริงเจนซิส) สำหรับโรคที่สำคัญที่พบทั่วไปได้แก่ โรคเหี่ยวที่เกิดจากเชื้อรา มักจะเกิดกับดาวเรืองที่โตเต็มที่ดอกกำลังจะบาน การป้องกันกำจัดโดยถอนต้นที่เป็นโรคเผาทำลาย และใช้สารชีวภาพ เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเทคนิคการผลิตดาวเรืองให้ได้ดอกที่มีคุณภาพ เกษตรกรควรเด็ดยอดดาวเรือง หลังจากย้ายปลูก 7-10 วัน หรือระยะต้นดาวเรืองมีใบจริง ประมาณ 4 คู่ มีส่วนยอดที่ประกอบด้วยใบเล็กๆ อีก 1-2 คู่ ให้ปลิดยอดใหญ่ตรงกลางทิ้งเพื่อให้แตกกิ่งข้าง ประมาณ 8-10 กิ่ง ทำให้ดาวเรืองแตกพุ่มเป็นการเพิ่มผลผลิต และทำให้ดอกมีขนาดใหญ่สวยงาม

สำหรับเกษตรกรที่จะปลูกดาวเรืองให้ออกดอกตั้งแต่ 20 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไปควรจะวางแผนการปลูกดาวเรืองตามระยะวันในการให้ดอกตามข้อมูลข้างต้น กรณีปลูกโดยใช้เมล็ดควรเริ่มปลูกได้ตั้งแต่วันที่ 15 – 20 สิงหาคม แต่ถ้าจะปลูกโดยใช้ต้นกล้า ควรปลูกระหว่างวันที่ 25-30 สิงหาคม