เคล็ดลับปลูกกุหลาบตัดดอกให้ได้คุณภาพดี โดนใจผู้ซื้อ

“กุหลาบ” ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มไม้ดอกทำเงินยอดฮิต ซึ่งสร้างรายได้ที่ดีแก่เกษตรกรและเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการสูงตลอดทั้งปี แต่การปลูกกุหลาบไม่ใช่เรื่องง่าย ขึ้นอยู่กับทำเลและสายพันธุ์การปลูกด้วย  กุหลาบเมืองหนาวที่ปลูกได้ดีในพื้นที่ภาคเหนือ หากนำมาปลูกในพื้นที่ภาคกลางก็สู้อากาศร้อนไม่ไหว คุณภาพดอกไม่ดี ดอกเล็ก ไม่ดก สีไม่จัดแถมต้นโทรมอีกต่างหาก

กุหลาบที่เกษตรกรนิยมปลูกในพื้นที่ภาคกลาง แถบจังหวัดนครปฐม ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์พื้นบ้าน เรียกว่า กุหลาบไทย กุหลาบร้อยมาลัย หรือกุหลาบอ้อยขวั่น ได้แก่ กุหลาบมอญ บางคนอาจยังไม่ทราบถึงที่มาของชื่อ “กุหลาบมอญ” ความจริง กุหลาบชนิดนี้เป็นดอกไม้ของชาติมอญ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงโปรดปรานดอกไม้ชนิดนี้มาก หลังจากพระองค์ชนะสงครามที่เมืองมอญ ได้ทรงนำกุหลาบมอญกลับมาปลูกที่กรุงศรีอยุธยา ราวปี 212-213
กุหลาบมอญ มีหลายสายพันธุ์ที่รู้จักกันดีทั่วไป ได้แก่ มอญสุโขทัย (ดอกเล็กแต่ดกมาก ฟอร์มดอกสวย ไม่แน่นมาก) มอญแดงประเสริฐ (กลีบดอกเล็กแน่น บานไม่ทน แต่หอมที่สุด) มอญชมพูประเสริฐ (บานไม่ทน กลีบบางแน่น เปลี่ยนสีได้ตามอุณหภูมิ) มอญไกลกังวล เป็นชื่อพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่ทรงโปรดมากและปลูกประดับอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน

นอกจากนี้ ยังมีกุหลาบมอญจุฬาลงกรณ์ (ดอกใหญ่) ซึ่งตามประวัติเล่าว่า กุหลาบพันธุ์นี้ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงโปรดที่สุด และได้ทรงตั้งชื่อเพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ แด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่า จุฬาลงกรณ์

พื้นที่ตำบลบ้านยาง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เป็นแหล่งหนึ่งของการปลูกกุหลาบตัดดอกในพื้นที่ภาคกลาง เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกกุหลาบมอญแดงประเสริฐ ซึ่งเป็นสายพันธุ์กุหลาบมอญที่แข็งแรง ทนทาน เลี้ยงง่าย ขนาดดอก ประมาณ 3-4 นิ้ว ออกดอกง่ายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน หรือช่วงระยะที่มีความชื้นมาก จะออกดอกดกมาก นอกจากนี้ กุหลาบมอญแดงประเสริฐ ยังมีกลิ่นดอกหอมหวานกว่ากลิ่นของกุหลาบพื้นบ้านชนิดอื่นที่ใช้ร้อยมาลัย

กุหลาบมอญแดงประเสริฐ เจริญเติบโตได้ดี มีโรครบกวนน้อย เพราะมีใบหนา ลำต้นแข็งแรง รากหากินเก่ง ที่สำคัญกุหลาบสายพันธุ์นี้มีสีแดงเข้ม เป็นสินค้าขายดีและเป็นที่ต้องการของตลาดตลอดทั้งปี นอกจากนี้ กุหลาบมอญแดงประเสริฐ ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้าร้อยพวงมาลัยได้เป็นอย่างดี เพราะมีกลีบดอกหนา ไม่หลุดร่วงง่าย โคนดอกใหญ่ ชาวสวนเรียกว่า สะโพกใหญ่ เมื่อนำมาร้อยมาลัยจะมีรูปทรงสวย มีกลีบเลี้ยง สีเขียว ยาวเรียว คลุมฐานดอกได้อย่างงดงาม

หากใครอยากปลูกกุหลาบตัดดอก ควรเลือกซื้อกิ่งพันธุ์กุหลาบจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ และกิ่งพันธุ์ควรมีขนาดความสูง 15-20 เซนติเมตร นำไปปลูกในหลุมกว้าง 15 เซนติเมตร ลึก 10-15 เซนติเมตร ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น ประมาณ 60-70 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างแถว ประมาณ 150 เซนติเมตร

แปลงปลูกกุหลาบตัดดอก ต้องดูแลให้น้ำให้อยู่ในอัตราส่วนที่เหมาะสม หากต้นกุหลาบได้น้ำไม่เพียงพอหรือมากเกินไป อาจทำให้ต้นกุหลาบเกิดอาการใบร่วง ต้นโทรมได้ ควรให้น้ำในระบบสปริงเกลอร์ แบบ เสาสูง โดยเปิดให้น้ำวันเว้นวัน เน้นเปิดให้น้ำในช่วงเช้า วันละ 10-15 นาที ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-8-24 เพื่อเร่งดอกเดือนละ 2 ครั้ง และใส่ปุ๋ยน้ำหมักสูตรรกหมู เพื่อบำรุงให้ดอกกุหลาบมีสีแดงสด เร่งการแตกกิ่งให้มี ดอกดก มีน้ำหนักดีและมีปริมาณมากขึ้น

“เพลี้ยไฟกับไรแดง และแมลงตัวบิน” เป็นแมลงศัตรูพืชสำคัญในแปลงปลูกกุหลาบ หากเจอเพลี้ยไฟ เกาะอยู่ตามกิ่งและใบกุหลาบ แนะนำให้เปิดระบบน้ำสปริงเกลอร์ จนต้นกุหลาบเปียกชุ่ม จะทำให้เพลี้ยไฟไหลตกลงไปยังพื้นดิน เป็นการแก้ไขเพลี้ยไฟแบบง่ายๆ แต่ได้ผลดี

โดยธรรมชาติแล้ว แมลงศัตรูพืชมักบินออกหากินในยามเช้าและเย็น เกษตรกรสามารถดูแลป้องกันแมลงศัตรูพืชในแปลงปลูกกุหลาบโดยใช้ “เทคนิคการเปลี่ยนกลิ่น” เพียงแค่นำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ผลิตจากพืชสมุนไพรหลายชนิด เช่น ตะไคร้หอม ใบมะกรูด สะเดา ฯลฯ มาฉีดพ่นในช่วงเย็น ทำให้แมลงมึนงง เพราะไม่ได้กลิ่นหอมของกุหลาบและบินไปหากินที่อื่นแทน

เมื่อต้นกุหลาบอายุ 2 เดือน จะแตกใบอ่อน ผลิช่อดอกออกมาในระยะ 10 วัน เกษตรกรจะเริ่มเก็บดอกออกขายได้ โดยเลือกเก็บดอกกุหลาบที่กำลังผลิบานประมาณ 60% โดยเด็ดดอกในแค่บริเวณช่วงข้อต่อ หรือห่างจากขั้วดอก ประมาณ 5 เซนติเมตร หลังจากเด็ดช่อดอกกุหลาบไปแล้ว ต้นกุหลาบก็จะแตกช่อดอกด้านข้างออกมาอีก

เกษตรกรสามารถเก็บดอกกุหลาบออกขายได้ทุกวัน วันละ 2 รอบ ช่วง 08.00-09.00 น. และ 12.00-13.00 น. แต่ละวันสามารถเก็บดอกกุหลาบออกขายได้สูงถึงวันละ 5,000-7,000 ดอก หลังเก็บเกี่ยวเกษตรกรจะนำกุหลาบตัดดอกไปแช่น้ำสะอาดเพื่อเพิ่มน้ำหนัก และนำมาคัดแยกก่อนขายเป็น 2 เกรด คือ ดอกตูม และดอกที่ผลิบานแล้ว ก่อนขายส่งให้แม่ค้าตามราคาตลาด

สินค้าที่ผ่านการคัดแยกแล้ว เกษตรกรจะนำไปบรรจุลงถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ เฉลี่ยถุงละ 100 ดอก ตกบ่ายประมาณเวลา 15.00 น. ของทุกวัน จะมีแม่ค้าขาประจำมารับซื้อผลผลิตถึงสวน เพื่อนำไปขายส่งที่ปากคลองตลาดเป็นประจำ แม้มีเนื้อที่ปลูกกุหลาบตัดดอกเพียง แค่ 1 ไร่ แต่สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนเข้าสู่กระเป๋าได้ทุกวัน ที่สำคัญใช้แรงงานดูแลน้อย แต่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2560