6 พันธุ์ไม้เลื้อย โตไว ทนแดด ทนแล้ง ช่วยสร้างร่มเงา บังแดดได้ดี

ปีนี้ร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา บ้านไหนที่มีแพลนกำลังจะทำสวน หาไม้เลื้อย ตกแต่งบ้าน ทำซุ้มบังแดด สร้างร่มเงา วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน รวม 6 พันธุ์ไม้เลื้อย ที่ทั้งถึก ทน โตไว มาให้แล้ว แต่ละสายพันธุ์ล้วนมีจุดเด่นที่ชวนหลงใหล แต่จะมีสายพันธุ์ไหนบ้างต้องไปดู

ไม้เลื้อยจะเจริญเติบโตแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

เลื้อยเบนเข้าหาแสง ด้วยการใช้พลังงานน้อยที่สุด จะเป็นการเติบโตแบบยืดยาวเข้าหาแสงแทนที่จะใช้พลังงานจำนวนมากในการสร้างเนื้อไม้ ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ใช้เป็นโครงสร้างในการทรงตัว

เลื้อยเบนออกจากแสง กลไกการเลื้อยแบบนี้ จะพยายามงอกไปในทิศทางที่ไม่มีแสง โดยกิ่งก้านจะงอกไปถึงโคนต้นไม้ และปีนขึ้นไปบนยอดไม้ที่สว่างกว่าอย่างรวดเร็ว

ไม้เลื้อยนั้นสามารถรับประโยชน์ได้จากสภาพแวดล้อม 2 แบบ คือ จากการหยั่งรากลงดินในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เป็นหย่อมๆ บริเวณที่มีดินน้อยหรือไม่มีเลย และยังสามารถรับประโยชน์จากแสงสว่าง โดยใบจะเจริญเฉพาะในบริเวณที่โล่ง หรือมีแสงแดดส่องถึงเป็นช่วงๆ ได้

1. ม่านบาหลี

มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเขตร้อนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้เลื้อยอายุหลายปี ลำต้นมีรากพิเศษแตกตามข้อเป็นเส้นสีแดงยาวห้อยลงมา 3-8 เมตร จะออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพบดอก เป็นไม้เลื้อยที่ปลูกง่าย โตเร็ว รากมีความพลิ้วไหวสวยงาม 

Advertisement

ปัจจุบันจัดเป็นอีกหนึ่งต้นไม้จัดสวนยอดนิยม ที่คนส่วนใหญ่ปลูกทำซุ้มไม้ระแนงเอง จะนิยมปลูกโดยวิธีการปักชำกิ่งลงในถุงดำ เมื่อเริ่มมีรากจึงค่อยย้ายมาปลูกในกระถาง ควรใช้เป็นดินร่วนสามารถระบายน้ำได้ดี มีความชื้นสูงแต่ไม่แฉะมาก รดน้ำเพียงแค่วันละ 1 ครั้ง แต่ควรหมั่นตัดแต่งรากที่เป็นสีแดงหรือชมพูที่ดูสวยงาม ยิ่งทำให้กิ่งแตกยอดใหม่เยอะขึ้น

ม่านบาหลีเป็นพืชที่ดูแลง่าย เป็นพืชเขตร้อนชอบแสงแดดจัดๆ ทนแดด และโตไว เป็นที่นิยมสำหรับจัดสวนประดับบ้าน ทำให้ได้ม่านเก๋ๆ ดีไซน์สวยๆ แถมให้ร่มเงาช่วยบังแสงแดดอีกด้วย

Advertisement

2. จันทร์กระจ่างฟ้า

เป็นไม้เลื้อยขนาดกลาง มีเนื้อแข็ง โดยกิ่งและก้านจะเลื้อยไปไกลได้ 3-5 เมตร เป็นไม้ประดับที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี โดยเฉพาะสภาพอากาศที่ร้อนในประเทศของเรา จันทร์กระจ่างชอบแสงแดดที่ร้อนจัด 

ดอกของจันทร์กระจ่างฟ้าจะออกดอกเป็นช่อ แยกแขนง สีของดอกเป็นสีเหลืองสด สวยงาม และออกดอกกระจุกตามซอกใบ รวมถึงบริเวณปลายกิ่ง สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี

จันทร์กระจ่างจะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินที่สามารถระบายน้ำได้ จะนิยมใช้การตอนกิ่งหรือการปักชำ สำหรับประโยชน์ปลูกไว้เพื่อประดับสวนให้ดูสวยงาม ตกแต่งแนวรั้วและซุ้ม มีความเชื่อถ้าปลูกจะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ตัวผู้ปลูกหรือคนในครอบครัวอีกด้วย

3. พวงแสด

พวงแสดเป็นพันธุ์ไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง อายุหลายปี เป็นไม้ที่มีใบกลายเป็นมือสำหรับยึดเกาะ และสามารถเลื้อยเกาะไปได้ไกลมากกว่า 10 เมตร ออกดอกในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนธันวาคมถึงมีนาคมของทุกปี

การปลูกพวงแสดควรปลูกในที่กลางแจ้งที่ได้รับแสงแดดตลอดวัน โดยนำกิ่งที่ได้จากการปักชำหรือการตอนกิ่งปลูกลงหลุมที่มีความกว้างและลึกประมาณ 60×40 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยหมักรองก้นหลุม แล้วผสมดินกับปุ๋ยคอก คลุกให้เข้ากันใส่ลงในหลุมปลูก นำกิ่งที่จะปลูกวางลงกลางหลุมแล้วกลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม พวงแสดหากปลูกในที่มีอากาศหนาวเย็นดอกจะดกมาก

สามารถนำไปปลูกเป็นไม้กระถาง และต้องหาวัสดุหรือไม้ค้ำยันเพื่อรักษาทรงพุ่ม นอกจากการปลูกด้วยไม้กระถางแล้ว ยังสามารถนำไปประดับเป็นไม้แขวนได้ เนื่องจากว่าพวงแสดต้นมีผิวสัมผัสที่ละเอียด สีชัดเจน

4. มาลัยทอง

เป็นไม้ดอกที่นิยมนำมาทำซุ้มประตูหรือซุ้มทางเดิน เนื่องจากเป็นไม้เลื้อยที่มีช่อดอกสีเหลืองสดใส ควรปลูกในตำแหน่งที่ได้รับแดดในช่วงเช้าไปจนถึงช่วงเที่ยง เพราะต้นมาลัยทองไม่ชอบแสงแดดแรงในช่วงบ่าย จะทำให้ใบและช่อดอกเหี่ยวเฉาได้ง่าย

ปลูกเพื่อเสริมสิริมงคลก็ควรปลูกไว้บริเวณหน้าบ้าน ก็จะเลื้อยไปตามแนวรั้ว เถาที่แก่จัดมีเปลือกเป็นสีน้ำตาลอ่อน ดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ทิ้งตัวห้อยลงด้านล่าง ดอกย่อยมีสีเหลือง จะนิยมด้วยวิธีปักชำจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยเลือกกิ่งที่มีสภาพสมบูรณ์และโตเต็มที่

มาลัยทองต้องการแสงแดดปานกลาง ต้องการน้ำปานกลาง เติบโตได้ดีในดินร่วนที่มีแร่ธาตุสูงและระบายน้ำดี เป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ควรใช้ปุ๋ยคอกบำรุงดินปีละ 2-4 ครั้งแล้วแต่สภาพดิน เสริมด้วยปุ๋ยบำรุงดอกปีละ 1-2 ครั้ง

5. ลดาวัลย์

เป็นพันธุ์ไม้เลื้อยขนาดเล็ก นิยมปลูกบริเวณรั้วบ้าน บริเวณซุ้มนั่งเล่นนอกบ้าน หรือในสวน เป็นต้นไม้ที่ชื่นชอบแสงแดด เมื่อออกดอกหรือตอนร่วงจะดูสวยเหมือนปุยหิมะบนพื้นดิน ซึ่งควรปลูกในที่ที่รับแสง จะทำให้เจริญเติบโตได้ดี ถึกและทน ปรับตัวได้ทุกสภาพแวดล้อม

นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะมีความสวยงาม ดอกมีกลิ่นหอม ส่งกลิ่นหอมโชย จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับเลื้อยขึ้นซุ้ม หรือแนวรั้วบ้าน เป็นพืชที่ต้องอาศัยสิ่งอื่นเป็นหลักในการเลื้อยพัน เพราะไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้โดยลำพัง

ขนาดเล็กจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 50-100 บาท แต่หากต้นใหญ่ขึ้นมาหน่อย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาท และอาจราคาสูงไปจนเหยียบหลักพัน

6. พวงประดิษฐ์

ต้นพวงประดิษฐ์ หรือต้นเครือออน ไม้เลื้อยขนาดใหญ่ เลื้อยพันต้นไม้ต้นอื่นๆ ได้ไกลถึง 10-15 เมตร ปลายกิ่งทอดห้อยลงตามลำต้น กิ่งก้านมีขนละเอียดสีขาวขึ้นหนาแน่น ออกดอกช่อย่อยเป็นกระจุก ใบสีม่วงอมชมพู ดอกย่อยเป็นสีขาวขนาดเล็ก หลุดร่วงได้ง่าย จะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน นิยมนำปลูกเป็นไม้ประดับรั้วบ้าน หรือซุ้มไม้เลื้อย เพื่อให้ร่มเงา

วิธีปลูกต้นพวงประดิษฐ์ นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำกิ่งกึ่งอ่อนกึ่งแก่จะง่ายที่สุด หรือจะตอนกิ่ง เพาะเมล็ดก็ได้เช่นกัน แนะนำใช้ปลูกดินร่วนจะช่วยระบายน้ำดีและเติบโตได้ไว การรดน้ำ ควรรดน้ำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

ไม้เลื้อยมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใครชอบแบบไหนสามารถเลือกปลูกได้ตามความต้องการ ตกแต่งบ้าน สร้างร่มเงา ทำให้บ้านหรือสวนของเราดูร่มรื่น เป็นธรรมชาติ ก่อนเลือกซื้อควรศึกษาวิธีการปลูก การดูแลก่อน เพื่อให้ได้ต้นไม้ที่ตรงตามความต้องการ

ขอบคุณข้อมูลและภาพ : Kaset.today / sgethai.com / Kapook / hsst.or.th