| ที่มา | ไม้ดอกไม้ประดับ |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
| เผยแพร่ |
ไผ่ เป็นพืชที่สามารถนำหน่อมากินได้แล้วนั้น ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำไม้เพื่อเป็นไม้ค้ำยันในแปลงไม้ผล ตลอดจนนำส่วนต่างๆ ไปใช้งานที่หลากหลายถึงนับว่าเป็นไม้ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้มาก ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำมาพัฒนาให้มีขนาดทรงพุ่มที่เล็กลง เพื่อใช้เป็นไม้ประดับก็เป็นอีกช่องทางที่ทำรายได้ให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย
คุณพรประภา ทาประเสริฐ อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ที่ 10 ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เป็นเกษตรกรที่จำหน่ายพันธุ์ไผ่มาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณแม่ โดยได้มีการขยายพันธุ์กินหน่อจนพัฒนามาเรื่อยๆ จนเป็นไผ่ที่สามารถใช้ปลูกประดับบ้านเรือนได้ จึงเป็นสินค้าที่มีความต้องการของตลาดและสร้างรายได้ให้กับเธอได้เป็นอย่างดี จากอาชีพรับซื้อหน่อไผ่ สู่เกษตรกรจำหน่ายต้นไผ่
คุณพรประภา เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมามีอาชีพจำหน่ายพันธุ์ไผ่เหมือนเช่นทุกวันนี้ ในสมัยก่อนนั้นครอบครัวของเธอมีอาชีพรับซื้อหน่อไผ่หรือที่รู้จักกันดีคือหน่อไม้ เพื่อนำผลผลิตที่มีคนมาส่งจำหน่ายให้ตัดส่งให้กับโรงงาน ซึ่งการทำสายงานนี้จะมีหน่อไม้จำหน่ายในช่วงฤดูกาลเดียวเท่านั้น
แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งก็ไม่สามารถหาหน่อไม้มาส่งจำหน่ายเข้าโรงงานได้ จึงได้มีแนวความคิดที่อยากจะหากิ่งไผ่มาจำหน่ายเพื่อเป็นการหารายได้แบบใหม่ให้มีมากขึ้นกว่าเดิม
“พอเรารู้สึกว่าการรับซื้อหน่อไม้ มาส่งขายให้กับโรงงาน มันไม่สามารถทำได้ตลอดทั้งปี จึงทำให้รายได้อาจขาดช่วงไป คราวนี้แม่ก็เลยมีความคิดว่า อยากจะลองเอาหน่อไผ่มาขายดู พอขายไปแล้วปรากฏว่ามันขายได้ ต่อมาก็เลยเริ่มเป็นการขายกิ่งพันธุ์เกิดขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้มีร้านสำหรับขายกิ่งพันธุ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อเป็นการทดแทนรายได้ที่หายไปในช่วงที่หาหน่อไม้ส่งโรงงานไม่ได้”
คุณพรประภา เล่าถึงความเป็นมา ในช่วงแรกที่ตั้งร้านจำหน่ายใหม่ๆ คุณพรประภา บอกว่า จะหาเป็นหน่อพันธุ์ไผ่ตงมาจำหน่ายก่อน โดยเป็นไผ่พื้นบ้าน เมื่อลูกค้าซื้อไปปลูกก็สามารถเก็บหน่อกินได้ แต่ต่อมาลูกค้าที่ชื่นชอบไผ่แต่กลัวว่าจะต้องใช้พื้นที่ปลูกมากขึ้น จึงมีความต้องการที่อยากจะได้ไผ่แบบประดับเป็นทรงพุ่มที่ไม่ใหญ่มาก เพื่อนำมาปลูกตกแต่งประดับภายในบ้านเรือน
เธอก็ได้มีการพัฒนาให้ไผ่เป็นเหมือนไม้ประดับมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เมื่อมีบ้านจัดสรรมากขึ้น ความต้องการไผ่ก็มากขึ้นตาม เมื่อความต้องการของไผ่ประดับถูกถามหาจากลูกค้ามากขึ้น
คุณพรประภา บอกว่า จึงค่อยๆ ขยายหน่อให้มีจำนวนมากขึ้น โดยวิธีการขยายพันธุ์จะดูแลไผ่ที่ต้องการทำเป็นไผ่ประดับ ให้มีไซซ์ขนาดความสูงที่ต้องการ จากนั้นนำหน่อของไผ่ประดับขุดแยกลำออกมา และทำการปักชำลงในถุงดำขนาดที่ต้องการเพื่อให้ไผ่มีความแข็งแรง
“ไผ่ประดับเป็นไผ่ที่พัฒนามาจากสายพันธุ์ที่กินหน่อ เราก็แค่ทำให้มีขนาดที่เล็กลง เช่น ให้มีขนาดที่สูงไม่มาก ประมาณ 1-1.5 เมตร ขึ้นอยู่ที่ลูกค้ามากกว่า ว่าต้องการที่ความสูงระดับไหน เราก็จะทำให้ ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งานของลูกค้า
ซึ่งการขยายพันธุ์ต้นไผ่ก็ง่ายๆ ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก เพียงขุดไม้ต้นที่เราต้องการ จากนั้นก็เอามาปลูกรวมกันในถุงดำ 1 ถุง ก็จะใส่ปลูกประมาณ 3-5 ต้น แล้วแต่ความต้องการ เพื่อให้มีลักษณะเป็นกอ จากนั้นนำถุงมาคลุมทั้งหมด เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปภายใน พอผ่านไปได้ 5-7 วัน พอเห็นว่าแตกตาดีแล้วเราก็เอาถุงออก แสดงว่ารากเดินดีแล้วก็เตรียมนำมาขายได้” คุณพรประภา อธิบายถึงวิธีการขยายพันธุ์
จากนั้นนำไผ่ที่มีรากสมบูรณ์มาอยู่กลางแจ้งที่มีแสงแดด ดูแลรดน้ำต่อไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ จึงนำไผ่ทั้งหมดมาออกวางจำหน่ายให้กับลูกค้าเพื่อเลือกซื้อต่อไป ไผ่ยังถือเป็นไม้ ที่กำลังเป็นที่นิยม
คุณพรประภา บอกว่า ปัจจุบันไผ่ถือว่าเป็นไม้ที่กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้พรรณไม้อื่นๆ ที่ใช้สำหรับเป็นไม้ประดับ ซึ่งเวลานี้มีบ้านจัดสรรมากขึ้นตลอดจนผู้ที่อยู่ตามคอนโดฯ ที่มีพื้นที่น้อยก็ยังมีความต้องการที่จะซื้อไผ่ไปประดับตกแต่ง เพราะไผ่ถือว่ามีความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย เมื่อนำมาปลูกภายในบ้านแล้วก็จะทำให้อยู่ร่มเย็นสุขอีกด้วย
“ไผ่ที่ขาย คนจะเชื่อเรื่องเสริมฮวงจุ้ย ลูกค้าจะชอบซื้อไผ่น้ำเต้าไป เพราะเชื่อกันว่าช่วยในเรื่องดูดทรัพย์ก็จะเพาะสายพันธุ์นี้มากขึ้น ส่วนคนที่ชอบนำไปปลูกตามแนวระเบียงหรือจัดสวนต่างๆ ก็จะเป็นไผ่ด่าง ไผ่เหลืองที่มีขนาดพอเหมาะ นำไปประยุกต์ให้เข้ากับไม้ตัวอื่น ก็สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัวในเรื่องของการจัดสวนให้มีความสวยงาม” คุณพรประภา บอก
ซึ่งราคาจำหน่ายไผ่แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 40 บาท ไปจนถึงหลักร้อยบาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความสูง ยิ่งมีความสูงมากราคาก็จะสูงตามไปด้วย ซึ่งสำหรับผู้ที่ซื้อไผ่ประดับไปปลูกอยู่ที่บ้านและยังไม่ทราบวิธีการดูแล
คุณพรประภา บอกว่า ไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากในเรื่องนี้เมื่อปลูกไผ่ลงดินแล้ว เมื่อผ่านไปได้สักประมาณ 1-2 เดือน ก็ให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอเพื่อเป็นการบำรุงต้นให้มีความสมบูรณ์เดือนละ 1 ครั้งก็เพียงพอ และคอยหมั่นตัดแต่งกิ่งที่คิดว่าไม่สมบูรณ์ออก ก็จะทำให้ไผ่ประดับแตกกิ่งใหม่ออกมามีความสวยงามมากขึ้น
นอกจากนี้ ที่สวนของเธอยังมีพันธุ์ไผ่ที่สามารถนำไปปลูกเพื่อไว้กินหน่อได้ด้วย ซึ่งการปลูกไม่ต้องดูแลอะไรมากเพียงปลูกในช่วงหน้าฝน ไผ่ก็จะสามารถเจริญเติบโตได้ดี และที่สำคัญสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ดังนั้น ไผ่จึงเป็นพืชที่ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนอย่างแท้จริง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณพรประภา ทาประเสริฐ หมายเลขโทรศัพท์ (089) 065-1611
