สับปะรดสี ไม้ประดับสร้างรายได้ดี แบบวิถีเกษตรกรปราจีนบุรี

คุณเฉลิม อารีย์ เกษตรอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ให้ข้อมูลว่า ลักษณะการทำเกษตรของอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ภูมิประเทศที่หลากหลาย โดยพื้นที่ที่ราบลุ่มจะจัดสรรเป็นพื้นที่ทำนาและพื้นที่ราบสูงขึ้นมาหน่อยก็จะทำสวนไม้ผลโดยหลักๆ จะเป็นสวนทุเรียน ต่อมาประมาณปี 2546 ก็ได้เริ่มมีการทำไม้ดอกไม้ประดับกันมากขึ้น ทำให้เกษตรกรภายในพื้นที่มีการทำเกษตรที่หลากหลาย จึงเกิดเป็นช่องทางอาชีพทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

“หมู่บ้านดงบังเป็นหมู่บ้านแรกๆ ที่เริ่มทำไม้ดอกไม้ประดับ โดยได้เปลี่ยนจากพื้นที่ปลูกไม้ผลบางส่วน มาทำสวนไม้ดอกไม้ประดับ โดยช่วงแรกๆ จะนิยมทำต้นโมก ต่อมาเมื่อปลูกจนประสบผลสำเร็จและสามารถจำหน่ายได้ ชาวบ้านก็เริ่มมีทางเลือกมากขึ้น ก็หาสายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับอื่นๆ เข้ามาปลูก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม้ดอกไม้ประดับก็เริ่มขยายวงกว้างออกไป ในเรื่องของการทำไม้ดอกไม้ประดับ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี” คุณเฉลิม กล่าว

คุณกฤตย์ กันเหตุ

คุณกฤตย์ กันเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 2 ตำบลโนนห้อม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ยึดอาชีพทางด้านการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ โดยพรรณไม้ที่เขาเลือกจะเป็นสับปะรดสี จึงได้ยึดการเพาะเลี้ยงไม้ชนิดนี้เป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัวมากว่า 10 ปี

สับปะรดสี (Bromeliad) เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ที่มีถิ่นกำเนิดแถวทวีปอเมริกาเกือบทั้งหมด สามารถเจริญเติบโตได้ในป่าดงดิบชื้น จนถึงสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งทะเลทราย สับปะรดสีมีรูปร่าง ขนาด และสีสันสวยงาม จึงเป็นที่สะดุดตาของผู้ชื่นชอบ

ลักษณะของใบ มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ใบกว้างจนถึงใบแคบคล้ายใบหญ้า รูปทรงของใบมีทั้งขอบใบเรียบ ขอบใบหยัก และขอบใบเป็นหนาม ใบจะทับกันแน่นโดยรอบฐาน ทำให้ส่วนยอดของสับปะรดสีดูคล้ายมีอ่างน้ำอยู่ตรงกลางยอด น้ำที่ขังอยู่บนยอดจะช่วยกักเก็บน้ำไว้ให้ใช้ในช่วงอากาศแห้ง

รากของสับปะรดสี เป็นระบบรากฝอย ที่ทำหน้าที่ดูดอาหาร ความชื้น และยึดเกาะ ซึ่งรากแต่ละสายพันธุ์จะมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชนิดของสายพันธุ์นั้นๆ บางสายพันธุ์ก็เป็นระบบรากอากาศ

สับปะรดสีนับว่าเป็นไม้ประดับที่มีความสวยงาม นิยมนำมาจัดสวน เพราะสามารถอยู่ได้นาน 8-10 วัน โดยไม่ต้องรดน้ำ นอกจากนี้ บางสายพันธุ์สามารถอยู่กลางแดดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ บางสายพันธุ์อยู่ที่ร่มรำไร ด้วยเสน่ห์เหล่านี้จึงทำให้เป็นไม้ที่หลายๆ คนชื่นชอบ รวมไปถึงคุณกฤตย์ด้วย

 

จากพนักงานออฟฟิศ ผันชีวิตเป็นเกษตรกร

คุณกฤตย์ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนทำงานเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่สินเชื่อในบริษัทเอกชน ต่อมาประมาณปี 2553 จึงได้ลาออกจากงานบริษัทมาปลูกไม้ดอกไม้ประดับอย่างเต็มตัว เพราะช่วงที่ทำงานประจำอยู่ก็ได้ผลิตไม้ดอกไม้ประดับเป็นเพียงอาชีพเสริมเท่านั้น โดยใช้การทำตลาดแบบขายออนไลน์เป็นส่วนใหญ่

“ช่วงแรกที่มาทำไม้ดอกไม้ประดับ เริ่มแรกเลยทำลีลาวดีก่อน เสร็จแล้วก็เปลี่ยนมาทำชวนชมแทน ต่อมาก็ยังไม่ชอบใจ ก็เลยมาเปลี่ยนอีกครั้งเป็นพืชที่สาม ก็ได้เป็นการปลูกเลี้ยงสับปะรดสี เหตุที่เลือกสับปะรดสีก็มองว่า ในเรื่องของการทำตลาด น่าจะเป็นไม้ที่ได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัย เพราะเป็นพรรณไม้ที่มีสมาคมระดับโลกรองรับ จึงทำให้ในเรื่องของการตลาด เมื่อเทียบกับไม้สายพันธุ์อื่นๆ สับปะรดสีสำหรับผมคิดว่าน่าจะเป็นคำตอบกับใจมากกว่า” คุณกฤตย์ เล่าถึงที่มา

สับปะรดสีมีสีสวยสำหรับจัดสวน

โดยพันธุ์ของสับปะรดสีที่มีอยู่ภายในสวนส่วนใหญ่ คุณกฤตย์ เล่าว่า เป็นสายพันธุ์ที่ซื้อภายในประเทศเก็บสะสมไว้ ต่อมาก็มีการนำเข้าสายพันธุ์ใหม่ๆ จากต่างประเทศเข้ามาภายในสวนให้มีความหลากหลายของสายพันธุ์มากขึ้น

 

ขยายพันธุ์ทั้งแยกหน่อ และพัฒนาผสมพันธุ์เอง

คุณกฤตย์ เล่าให้ฟังต่อว่า เมื่อต้นสับปะรดสีภายในสวนเจริญเติบโตมีความสมบูรณ์แล้ว ไม้ก็จะค่อยๆ ออกดอก จากนั้นจะทำการพัฒนาพันธุ์ด้วยการผสมพันธุ์ โดยเลือกจับคู่กับพ่อแม่พันธุ์ที่ต้องการ รอต่อไปอีกประมาณ 2 เดือน ก็จะได้เมล็ดที่ผสมสมบูรณ์ดีแล้วออกมา

“การผสมก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นฝีมือเราเพียงอย่างเดียว บางครั้งจะผสมกันเองตามธรรมชาติก็ได้ อย่างเช่น  มีนกหรือแมลงมาช่วยผสม เวลามากินน้ำหวานจากดอกนี้ไปดอกโน้น ซึ่งที่สวนของผมก็จะให้ไม้ผสมกันเองบ้าง ให้ติดฝักด้วยตัวเอง แต่ถ้าเป็นพันธุ์ใหม่ๆ ที่เราต้องการพัฒนาเราก็จะทำการผสมขึ้นมาเอง” คุณกฤตย์ บอก

การอนุบาลไม้หลังแยกออกจากการเพาะเมล็ด

จากนั้นนำเมล็ดมาเพาะลงในพีทมอสส์ใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ เมื่อผ่านได้ 3 วัน เมล็ดก็จะเริ่มงอกออกมา ดูแลต่อไปอีก 2 เดือน จึงแยกไม้ออกมาปลูกใส่กระถางละ 1 ต้น ดูแลรดน้ำตามปกติให้มีขนาดใหญ่จนสามารถจำหน่ายได้

“โดยปกติแล้ว การปลูกสับปะรดสี ส่วนใหญ่ก็จะใช้กาบมะพร้าวสับเป็นวัสดุปลูก แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ เข้า วัสดุปลูกพวกนี้จะย่อยสลาย ก็จะทำให้ต้องคอยมาเปลี่ยน และเสริมเข้าไปบ่อยๆ ผมก็เลยไม่ค่อยชอบในเรื่องแบบนี้ จึงได้นำหินภูเขาไฟมาผสมกับเปลือกสนนิวซีแลนด์ มาเป็นวัสดุปลูกแทน โดยที่เราปลูกครั้งเดียว ก็สามารถอยู่ได้นานไม่ต้องกลัวว่าจะย่อยสลายไปเหมือนกาบมะพร้าว” คุณกฤตย์ บอก

มีให้เลือกซื้อหลากหลายชนิด

ในเรื่องของการดูแลสับปะรดสีจนกว่าจะได้ขนาดที่จำหน่ายได้นั้น คุณกฤตย์ เล่าว่า จะหมั่นดูเรื่องความชื้นให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา ถ้าในช่วงที่มีแสงแดดมากในฤดูร้อน ทุกกระถางจะต้องมีถาดรองเพื่อให้มีน้ำหล่ออยู่ก้นกระถาง แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนก็จะรดน้ำวันเว้นวัน เพราะสับปะรดสีไม่ชอบความแฉะมากเกินไป

“แมลงที่ต้องระวังของสับปะรดสีจะเป็นตั๊กแตน หอยทาก ส่วนโรคที่เกิดส่วนใหญ่ก็จะเป็นเชื้อรา จะเกิดในช่วงรอยต่อเข้าสู่ฤดูฝน ก็อาจจะมีการดูแลด้วยการฉีดพ่นยาเพื่อป้องกัน หรืออาจจะใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาเข้ามาช่วยด้วย เพื่อป้องกันเชื้อรา หลักๆ ของโรคและแมลงจะมีประมาณนี้” คุณกฤตย์ บอกวิธีการดูแลรักษา

 

ทำตลาดออนไลน์ เน้นสินค้าคุณภาพ

ก่อนที่จะมีเวลามาจำหน่ายต้นไม้อย่างเต็มตัวเหมือนเช่นทุกวันนี้ ช่วงที่ทำเป็นอาชีพเสริมยามว่างจากงานหลักนั้น คุณกฤตย์ บอกว่า จะเน้นโพสต์จำหน่ายทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาก็จะนำไปส่งให้ทางไปรษณีย์ ซึ่งเมื่อได้มาทำการดูแลอย่างเต็มตัวแล้ว จึงทำให้มีฐานลูกค้าเดิมอยู่รวมทั้งมีลูกค้าใหม่ๆ ที่สนใจ เดินทางมาซื้อถึงสวนของเขากันเลยทีเดียว

“ราคาขายก็จะมีหลายราคา อย่างเป็นพันธุ์ใหม่ที่เราผสมขึ้นมาเอง ยังไม่ได้ตั้งชื่อ หรือมีความแปลกใหม่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็จะจำหน่ายอยู่ที่ราคาตั้งแต่หลักหมื่นบาท อายุของไม้ก็อยู่ที่ 1 ปีขึ้นไป โดยลูกค้าสามารถซื้อและนำไปแยกหน่อขายต่อไปได้ อันนี้จะเป็นส่วนของไม้ที่ชื่นชอบสำหรับคนอยากสะสม ส่วนไม้ที่เป็นแบบจัดสวน ประดับตกแต่งบ้านเรือนทั่วไป ก็จะเป็นไม้ที่เป็นสีๆ ราคาก็อยู่ตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยบาท ก็จะอยู่ที่ความชื่นชอบของแต่ละคน” คุณกฤตย์ บอก

มีให้เลือกซื้อหลากหลายชนิด

นอกจากนี้ คุณกฤตย์ ยังแนะนำเคล็ดลับวิธีการดูแลสับปะรดสีให้ยังสวยและมีรูปทรงที่ดี ว่าไม่ควรใส่ปุ๋ยเพื่อเร่งการเจริญเติบโตจะเป็นการทำให้รูปทรงของไม้เสีย โดยให้รดน้ำสะอาดเพียงอย่างเดียว ส่วนในเรื่องของการได้รับแสงแดดจะต้องศึกษาอุปนิสัยของแต่ละสายพันธุ์ เพราะบางสายพันธุ์ชอบแดดจัด บางสายพันธุ์ชอบที่ร่มรำไร หากนำไปปลูกหรือวางผิดที่ผิดทางก็จะทำให้ไม้เจริญเติบโตได้ไม่ดีและตายได้

(คนที่ 2 จากขวา) คุณเฉลิม อารีย์ เกษตรอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี

“คนที่สนใจอยากจะทำเป็นอาชีพ ต้องบอกก่อนว่าให้ลองซื้อต้นที่มีราคาถูกๆ มาลองปลูกดูก่อน ให้มีความคุ้นเคยที่จะดูแล รู้ถึงอุปนิสัยของไม้ให้ดี พอเลี้ยงพวกนี้ประสบผลสำเร็จดีแล้ว ก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน ทำการผสมพันธุ์เอง พร้อมทั้งอาจจะซื้อไม้สายพันธุ์แปลกๆ เข้ามาผสม ต่อไปพอทำขายได้ยังไงก็ได้กำไรแน่นอน เพราะไม้สามารถขยายพันธุ์ออกไปได้เรื่อยๆ ปริมาณก็ทวีคูณ ทำไปพร้อมกับมีใจรัก ผมเชื่อว่าอาชีพนี้สร้างเงินสร้างความสุข เหมือนที่ผมเป็นอยู่ได้อย่างแน่นอน” คุณกฤตย์ กล่าวแนะนำ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณกฤตย์ กันเหตุ หมายเลขโทรศัพท์ (081) 866-2351

ขอขอบพระคุณ คุณเฉลิม อารีย์ เกษตรอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ที่พาลงพื้นที่ พบปะเกษตรกร