ขยายพันธุ์ชวนชม เน้นปริมาณ ลงขายทางสื่อออนไลน์ เป็นงานสร้างรายได้

ชวนชมภายในสวน

“ชวนชมเป็นไม้ที่มีความพิเศษหลายอย่าง มันดูได้หลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโขด ในเรื่องของดอก นอกจากเป็นไม้เล็กแล้วยังเลี้ยงเป็นไม้ใหญ่ได้ ซึ่งเราสามารถเลี้ยงดูแลได้ตั้งแต่ไม้ยังเล็กมาก ไปจนถึง 10 ปี จนเป็นไม้ใหญ่ เอาเป็นว่าเราพอใจปลูกขนาดไหน ชวนชมนี่เป็นคำตอบที่ดีมาก เพราะว่ามีให้เราเล่นได้หลายขนาดเลย มันเลยเป็นไม้ที่น่าสนใจ” คุณศักดิ์ชัย กล่าว

คุณศักดิ์ชัย วิริยะไพสิฐ อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 6 ตำบลวัดเพลง อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่มีความชำนาญในการปลูกเลี้ยงชวนชม ที่เน้นการขยายพันธุ์แบบให้ได้จำนวนมากๆ และมีคุณภาพจำหน่ายในราคาถูก สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจำหน่าย คือเขาได้ทำการตลาดแบบก้าวทันโลกด้วยการลงโชว์ไม้ทางสื่อออนไลน์ให้คนได้รู้จัก ซึ่งเขาได้มองเห็นแล้วว่าคนในยุคปัจจุบันมีการใช้โซเชียลมีเดียมากกว่าการหยิบหนังสือ

ชวนชม เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาตะวันออก แถบแทนซาเนีย เคนยา และยูกันดา เป็นพืชอวบน้ำที่ทนแล้งอยู่ในทะเลทราย จนได้ฉายาว่า “กุหลาบทะเลทราย”

ทรัพย์สมบูรณ์ ดอกซ้อนสวย
ทรัพย์สมบูรณ์ ดอกซ้อนสวย

คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดที่ปลูกชวนชมไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดการการนิยมชมชอบ เพราะชวนชมเป็นไม้มงคลนาม ตำแหน่งที่ควรปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย คือปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธ

แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ปลูกเพื่อจัดรูปทรง ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งมีความยากง่ายแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับฝีมือและเทคนิคของแต่ละคน ที่ได้ใช้จินตนาการให้กับชวนชมของตนเอง จนเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องการค้า

แต่สำหรับคุณศักดิ์ชัยจะไม่เน้นการตัดแต่งรากมากนัก โดยเขาจะให้ไม้ที่ปลูกเลี้ยงมีรูปทรงเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องจัดแต่งอะไรเกินเลย พร้อมกับจำหน่ายไม้ที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ได้ราคาดีเป็นรายได้


จากปลูกเลี้ยงดูเล่น

จนกลายเป็นอาชีพทำเงิน

คุณศักดิ์ชัย เล่าให้ฟังว่า ชวนชมถือเป็นไม้ประดับที่ปลูกเพื่อไว้ดูเล่นเท่านั้น ต่อมาเมื่อเริ่มมีจำนวนไม้เพิ่มมากขึ้นจึงคิดที่จะทำเป็นอาชีพอย่างจริงจัง เพราะมองว่าสามารถเป็นงานที่สร้างรายได้

“ช่วงนั้นปี 40 เป็นช่วงที่พิษเศรษฐกิจ เราก็ยังไม่ได้อยากที่จะทำแบบจริงจังมากนัก ก็จะหาซื้อมาปลูกเลี้ยงไปก่อน พอเศรษฐกิจเริ่มเข้าที่ประมาณปี 46 ก็มาปลูกเลี้ยงเป็นสวนและก็ขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ” คุณศักดิ์ชัย กล่าวถึงความเป็นมา

แม่พันธุ์บางคล้า
แม่พันธุ์บางคล้า

ชวนชมที่มีอยู่ภายในสวน คุณศักดิ์ชัย บอกว่า มีทั้งรวบรวมจากการที่ปลูกสะสมเองบ้างและสั่งซื้อมาจากผู้ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์จากสวนอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ เมื่อนำมาปลูกจนเจริญเติบโตดีแล้วก็จะนำมาเสียบยอดบางส่วนเพื่อให้มีพรรณไม้ที่แปลกใหม่อยู่เสมอ

“การเรียนรู้ที่จะนำมาทำการปลูก สำหรับประกอบวิชาชีพของเรานั้น เราก็จะไปศึกษากับสวนต่างๆ เพราะว่าสมัยนั้นเรียกได้ว่า ความรู้ทางเว็บไซต์ยังมีน้อยมาก เราก็ต้องเรียนรู้อาศัยจากประสบการณ์เราทำเองบ้าง เรียกง่ายๆ ว่า ต้องลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ซึ่งช่วงแรกบอกเลยเสียหายเยอะเหมือนกัน กว่าที่เราจะประสบผลสำเร็จได้จนทุกวันนี้” คุณศักดิ์ชัย เล่าถึงปัญหาอุปสรรคที่พบเจอในช่วงแรก

แต่มา ณ เวลานี้จากประสบการณ์ที่เขาได้สะสมมานาน ทำให้ภายในสวนของเขามีชวนชมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชวนชมที่มีดอกผสมหลากสี มีทั้งลักษณะดอกซ้อน-ดอกเดี่ยว เป็นไม้ที่เขาสามารถส่งออกจำหน่ายได้ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

 

ขั้นตอนการปลูก และดูแล

ในแบบคุณศักดิ์ชัย มีวิธีการดังนี้

คุณศักดิ์ชัย ให้ความรู้ว่า ก่อนที่จะทำการปลูกชวนชมให้สวยงามตามที่ตลาดต้องการนั้น ต้องเข้าใจเสียก่อนว่าชวนชมเป็นไม้ที่ชอบน้ำ ปุ๋ย และแสงแดด แต่ไม่ชอบวัสดุปลูกที่มีคุณสมบัติแฉะจนเกินไป ควรเป็นวัสดุปลูกที่สามารถระบายน้ำได้ดี

วัสดุปลูก
วัสดุปลูก

“ครั้งแรกก็นำเมล็ดมาเพาะในกระถางที่มีวัสดุปลูกเป็นพวกขี้หมู ขี้ไก่ แกลบ โดยใช้ขี้หมู ขี้ไก่ ผสมกัน 1 ส่วน ผสมกับแกลบ 3 ส่วน แล้วก็เอาพวกนั้นมาผสมกับดินและมะพร้าวสับ เสร็จแล้วก็เอาเมล็ดมาวางไว้ รดน้ำทุกวันในช่วงนี้ ถ้าเกิดว่าแล้งมากก็ต้องรดเช้าเย็น ประมาณ 1 อาทิตย์ เมล็ดก็จะงอก ดูแลระยะนี้ไปอีกประมาณ 3-6 เดือน เราก็เริ่มย้ายกล้าไปปลูกลงกระถางใหม่” คุณศักดิ์ชัย กล่าวถึงวิธีการเพาะเมล็ด

ต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ด
ต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ด

นำชวนชมที่อายุได้กำหนดย้ายลงกระถางขนาด 4 นิ้ว ดูแลสักระยะก็สามารถจำหน่ายชวนชมขนาดกระถาง 4 นิ้วได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้มีขนาดใหญ่

“การย้ายกล้านี่แล้วแต่นะ ว่าสวนใครจะมีวิธีการแบบไหน บางทีดูแล 3-6 เดือน ก็จำหน่ายได้เลย สมมุติเราย้ายกล้ามาใส่กระถาง 4 นิ้ว 1,000 กระถาง จำหน่ายไปสัก 300 กระถาง ที่เหลือก็ค่อยเอามาย้ายลงในกระถาง 6 นิ้ว 8 นิ้ว ตามขนาดไปเรื่อยๆ เพราะว่าบางที่เขาก็จะจำหน่ายไม้แบบใหญ่ๆ เลย แต่ที่สวนเราจำหน่ายตั้งแต่กระถาง 4 นิ้วไปเลย ไม่เน้นใหญ่ก็ได้” คุณศักดิ์ชัย กล่าว

คุณศักดิ์ชัย บอกว่า การจำหน่ายชวนชมของเขาจะเน้นที่ทำการตลาดแบบต้นน้ำ ให้ลูกค้าที่ซื้อนำไปดูแลจัดแบบฟอร์มเอง โดยที่เขาไม่ได้เป็นผู้จัดการดูแลในการจัดรูปทรง แต่จะเน้นการจำหน่ายไม้เล็กส่งต่อไปยังพ่อค้าคนกลางเลยเสียมากกว่า ทำการผลิตไม้ที่จำนวนมากๆ และให้ไม้เจริญเติบโตแบบธรรมชาติโดยที่เขาไม่ต้องไปจัดการอะไรมากนัก

“ผมมุ่งทำไม้ให้มีปริมาณที่เยอะๆ ตัวผมเองไม่ชอบไม้ที่ปรุงแต่ง เพราะมันมองดูเหมือนงานอุตสาหกรรมมากไป เพราะว่าการทำเป็นไม้ตัดรากมันก็เหมือนเป็นอัตลักษณ์ของใครของมัน แบบฟอร์มของคนนั้น ซึ่งตัวผมเองชอบไม้ที่มันเป็นไปเองตามธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครมากกว่า” คุณศักดิ์ชัย เล่าถึงความชอบของตนเอง

การเสียบยอดแบบนั่งแท่น
การเสียบยอดแบบนั่งแท่น

นอกจากนี้ ยังมีการนำกิ่งพันธุ์ดีที่ต้องการ มาทำการนั่งแท่น ลงไปในต้นตอ ไม่ต้องเสียบยอดและมีอุปกรณ์ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อน

“เราจะเอาตอที่ต้องการมา จากนั้นก็เอากิ่งพันธุ์ดีที่ต้องการ ตัดให้ดี แล้วเอามาวางลงบนต้นตอนั้น ไม่ต้องใช้อะไรพัน แค่วางลงไป จากนั้นเอาถุงพลาสติกมาคลุมลงไป ให้ก้นถุงลงไปติดกับตอเลย เราก็เอาหนังยางรัดให้ถุงอยู่เล็กน้อย แบบนี้เรียกว่านั่งแท่น เดี๋ยวจะติดสนิทเอง เป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายๆ” คุณศักดิ์ชัย กล่าวอธิบาย

ด้านการดูแลรักษา คุณศักดิ์ชัย บอกว่า น่าเป็นห่วงที่สุดจะเป็นช่วงฤดูร้อน จะเป็นพวกเพลี้ยและหนอนที่ระบาด ก็จะกำจัดด้วยยาที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป ส่วนเรื่องการรดน้ำหากเป็นไม้ที่มีขนาดใหญ่แล้ว ก็จะรดน้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ดูตามความเหมาะสม

 

หลักการทำตลาด

การโฆษณาเป็นสิ่งที่สำคัญ

คุณศักดิ์ชัย บอกว่า ในช่วงแรกที่ทำการตลาดใหม่ๆ จะเน้นโฆษณาลงในหนังสือเกษตรต่างๆ เพื่อให้คนรู้จักสวนของเขามากขึ้น ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากขึ้นก็จะทำการตลาดในอินเตอร์เน็ต เพราะทุกคนเริ่มหยิบโทรศัพท์มือถือมากกว่าหยิบหนังสือ

“ยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็เริ่มดูเว็บไซต์เป็นมากขึ้น ซึ่งเทียบกับสมัยก่อนคนเข้าเว็บไซต์เป็นต้องเป็นวัยรุ่นเท่านั้น ช่วงแรกการทำการตลาดก็มีอุปสรรคนะ แต่เราต้องขยายไปตามทุนที่เรามีก่อน อย่าไปทำมากเกินตัวเรา เราต้องเข้าใจก่อนว่าสินค้าเกษตรเป็นอะไรที่กำไรน้อย เราต้องจำหน่ายปริมาณมากๆ ถึงจะได้กำไร” คุณศักดิ์ชัย กล่าว

ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มารับซื้อถึงสวนของเขา และจะนำไปจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งราคาชวนชมจำหน่ายอยู่ที่ราคาตั้งแต่ 10 บาท ไปจนถึงหลักร้อยและหลักพันบาท ราคาขึ้นอยู่กับขนาดไซซ์ที่เล็กหรือใหญ่ไม่เท่ากัน

สโนไวท์ ดอกซ้อนสีสลับขาวแดง
สโนไวท์ ดอกซ้อนสีสลับขาวแดง

ด้านตลาดต่างประเทศ คุณศักดิ์ชัย บอกว่า เริ่มมีการส่งจำหน่ายหลายที่ ทั้งยุโรป เอเชีย หรือแม้แต่แถบอเมริกาใต้ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียในเวลานี้เข้ามาซื้อชวนชมมากที่สุดอีกประเทศหนึ่งด้วย

“สินค้าในบ้านเราครึ่งหนึ่งนี่ น่าจะส่งจำหน่ายในมาเลเซีย เพราะว่าอากาศในบ้านเขาน่าจะคล้ายภาคใต้เรา ฝนแปดแดดสี่ ซึ่งการปลูกชวนชมขออย่างเดียวให้ดินมันระบายน้ำได้ ไม้ที่จำหน่ายได้ดีก็จะเป็นไม้สีที่มีดอกซ้อนสวยๆ อันนี้ก็ถือว่าได้รับความนิยมดี”

“ต้องบอกก่อนว่า 2-3 ปีมานี่ เศรษฐกิจบ้านเราไม่ค่อยดีเท่าที่ควร สวนที่เขาเป็นแบบขนาดเล็กนี่อาจสู้กระแสเศรษฐกิจไม่ไหว ทำให้สวนใหญ่และขนาดกลางยังพอสู้กันไปได้บ้าง เราต้องเน้นที่ทำไม้ออกมาให้ได้เยอะๆ แล้วจำหน่ายถูก เพราะต้องไปแข่งด้านราคา เราเลยต้องทำไม้ที่เป็นของดีราคาถูกออกมา ต้องบอกเลยนะ บางคนนี่ปลูกสวยมาก แต่เรื่องการตลาดเขาไม่ดี ไม้ออกมาสวยแค่ไหนก็อาจจำหน่ายได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น การขยายออกสื่อจึงเป็นสิ่งสำคัญ เรียกง่ายๆ ว่า ต้องตามให้ทันโลกเสมอ” คุณศักดิ์ชัย กล่าวอธิบายเรื่องการตลาด

 

ต้นเล็กย้ายกล้าพร้อมจำหน่าย
ต้นเล็กย้ายกล้าพร้อมจำหน่าย

ก่อนลงมือทำ ควรศึกษาข้อมูล

สิ่งนั้นให้จริงจัง เสียก่อน

สำหรับท่านที่สนใจอยากปลูกเลี้ยงชวนชม เพื่อเป็นงานอดิเรกหรือเป็นไม้ที่ไว้ประดับตกแต่งบ้านเรือนจนกลายเป็นสิ่งที่สร้างเป็นอาชีพทำเงินได้นั้น คุณศักดิ์ชัย แนะนำว่า

“ถ้าจะพูดไปเดี๋ยวนี้มันง่ายกว่าสมัยก่อนมาก ที่จะศึกษาหาความรู้ในเรื่องนี้ เพราะว่ามันมีอินเตอร์เน็ตที่ดีมาก การที่จะเข้าสู่การเป็นมืออาชีพได้ ก็ต้องศึกษาอะไรหลายๆ อย่าง หนึ่ง เรื่องการผลิต เราต้องรู้จักก่อนว่านิสัยชวนชมมันเป็นอย่างไง ต้องปลูกยังไง สอง เรื่องการจำหน่าย เราต้องรู้ว่าเราจะจำหน่ายยังไง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือสื่ออินเตอร์เน็ต เพราะมันมีช่องทางให้เราเลือก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ก็มีการลงจำหน่ายได้อย่างฟรีๆ ไม่ต้องมาเสียค่าโฆษณาแบบสมัยก่อนเลย ณ เวลานี้ ต้องเรียนรู้ให้เป็นให้หมด ทั้งการผลิตและการตลาด อีกอย่างที่ต้องเน้นย้ำเลย เรื่องความสุจริต เราเป็นพ่อค้าอย่าคิดไปเอาลัดเอาเปรียบเขา เราต้องคิดว่าสินค้าเรามีดีที่อะไร อย่าไปคำนึงถึงเรื่องเงินเป็นเรื่องแรก หลอกจำหน่ายของไม่ดีให้เขาไป รับรองถ้าทำได้แบบนี้ จะเป็นคนที่ประสบผลสำเร็จแบบมืออาชีพแน่นอน” คุณศักดิ์ชัย กล่าวแนะนำ

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณศักดิ์ชัย วิริยะไพสิฐ หมายเลขโทรศัพท์ (086) 769-0134