| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
รองเท้านารี เป็นกล้วยไม้กึ่งดินในสกุล Paphiopedilum มีแหล่งกำเนิดอยู่ในเขตอบอุ่น และเขตร้อนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่อินเดีย ฟิลิปปินส์ พม่า มาเลเซีย และในประเทศไทยพบกล้วยไม้ชนิดนี้ขึ้นอยู่ในป่าทั่วไป ลักษณะเด่นของไม้ชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายกับรองเท้าของสตรี และรองเท้าไม้ของชาวเนเธอร์แลนด์ กระเป๋าของรองเท้านารีมีรูปร่างลักษณะและสีสันที่แตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์ จึงทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คุณชนินทรี สองเมือง อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ที่ 4 ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ที่ชื่นชอบการปลูกกล้วยไม้รองเท้านารี นำมาพัฒนาสายพันธุ์ด้วยการผสมพันธุ์เอง ตลอดไปจนถึงดูแลไม้ให้มีคุณภาพ จำหน่ายเป็นอาชีพสร้างรายได้พร้อมความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รักได้เป็นอย่างดีทีเดียว
คุณชนินทรี จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาพืชสวน คณะเทคโนโลยีการเกษตร เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยที่ยังเป็นนักศึกษามีความสนใจการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้รองเท้านารี ทำให้มีโอกาสได้ซื้อไม้สะสมเป็นกิจกรรมยามว่าง หลังจบการศึกษาผ่านมาได้ 2 ปี จึงเริ่มรู้สึกว่าไม้ที่มีอยู่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้มองถึงการพัฒนาต่อยอดสร้างเป็นธุรกิจยึดเป็นอาชีพในเวลาต่อมา
“ช่วงเรียนก็เหมือนชอบซื้อสะสมไม้มาปลูกเรื่อยๆ พอเข้าสู่ปี 56 เลยมองว่าน่าจะทำอย่างจริงจัง เพราะเราเองชื่นชอบไม้ชนิดนี้ด้วย ทำออกมาน่าจะได้ผลผลิตดี ซึ่งที่บ้านก็มีการผลิตไม้ประดับอย่างอื่น แต่กล้วยไม้รองเท้านารียังไม่มี บวกกับเราจบทางด้านการเกษตรมาด้วย ทำให้อยากจะนำองค์ความรู้มาต่อยอดพัฒนางานด้านกล้วยไม้รองเท้านารี” คุณชนินทรี เล่าถึงที่มา
ซึ่งไม้ที่อยู่ภายในสวนเป็นมีทั้งที่ซื้อเข้ามาจากแหล่งอื่น และบางส่วนเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นเอง โดยผ่านการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ด้วยสองมือของเขา ซึ่งไม้กว่าที่จะเจริญเติบโตจนออกสู่ท้องตลาดได้นั้น คุณชนินทรี บอกว่า มีขั้นตอนการดูแลหลายขั้นตอน โดยขั้นแรกจะนำไม้ออกจากขวดที่นำมาจากห้องแล็บเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
“ไม้ขวดที่มีอยู่บางส่วนเป็นของเราเองที่ส่งไปเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และบางส่วนซื้อเข้ามาเพื่อนำมาปลูกและพัฒนาต่อ ก่อนที่จะนำไม้ออกนอกขวด จะวางขวดผึ่งแดดรำไรอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นนำไม้ออกมาทั้งวุ้นอาหารที่เกาะอยู่กับราก โดยไม่ต้องล้างออก ให้อยู่แบบนี้ประมาณ 3-4 วัน แล้วนำหินสำหรับเป็นวัสดุปลูกมากลบที่รากไปทั้งหมด ดูแลช่วงนี้ต่อไปประมาณ 6 เดือนแล้วจึงแยกไม้ออกปลูกลงในกระถาง” คุณชนินทรี บอก
กระถางที่ใช้สำหรับปลูกเป็นกระถางขนาด 3 นิ้ว จากนั้นนำวัสดุปลูกจำพวกหินภูเขาไฟและเปลือกสนมาใส่ นำไม้วางอยู่ภายในโรงเรือนที่มีตาข่ายพรางแสง 50 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งดูแลรดน้ำทุก 2 วันครั้ง พร้อมทั้งใส่ปุ๋ยให้ไม้ทุก 14 วันครั้ง ดูแลอย่างต่ำอยู่ที่ 1-2 ปี ไม้จะมีทรงที่สวยพร้อมออกจำหน่ายได้
เรื่องของโรคและแมลงที่เกิดขึ้นกับกล้วยไม้รองเท้านารี คุณชนินทรี บอกว่า ที่พบส่วนใหญ่เป็นโรคเน่าส่วนแมลงศัตรูพืชจะเป็นจำพวกเพลี้ยไฟ ป้องกันด้วยการฉีดพ่นยาที่หาซื้อได้ตามร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป หมั่นสำรวจและฉีดพ่นป้องกันอยู่เสมอ
ในเรื่องของการทำตลาดจำหน่ายกล้วยไม้รองเท้านารี คุณชนินทรี บอกว่า ทำการติดต่อขายให้กับร้านที่เคยไปซื้อไม้ไว้ และเป็นลูกค้าที่ติดต่อซื้อไม้อื่นๆ จากสวนของครอบครัว จึงทำให้ลูกค้าบอกกันไปปากต่อปาก พร้อมทั้งทำการตลาดแบบขายออนไลน์ ทำให้มีลูกค้าต่างชาติที่ชื่นชอบไม้ชนิดนี้มาติดต่อซื้อขาย โดยราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 200 บาท และราคาสูงขึ้นไปจนถึงหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และรูปทรงของไม้
“ลูกค้าต่างประเทศจะชอบเรื่องสปีชีส์เป็นหลัก เน้นซื้อแต่ไม้ที่เป็นสายพันธุ์แท้ ส่วนตลาดในไทยจะเน้นที่มีสีดอกสวยๆ ดังนั้น ไม้ที่ขายในประเทศต้องปลูกให้มีดอกก่อนถึงจะออกขาย แต่ถ้าต่างประเทศไม่ต้องเน้น ตั้งแต่ทำตลาดมาก็สามารถขายได้ตลอด ใครที่สนใจอยากจะปลูกเป็นการค้า ก็อยากจะให้ศึกษานิสัยไม้ไว้ให้ดี เรียนรู้จากสิ่งที่ชอบ ความสำเร็จจากการปลูกจนเกิดเป็นรายได้มีให้เห็นอย่างแน่นอน” คุณชนินทรี บอก
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณชนินทรี สองเมือง หมายเลขโทรศัพท์ (085) 336-9238
